ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "อธิรัฐ"ไม่เคยบอกจะล้ม-เจรจาเพิ่มสายสีส้ม ส่วนสีเขียวได้ "เสียวทั้งซอย"? "ชายหมู" ไม่เดียวดาย
รถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีส้ม ยังมีประเด็นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความสนใจว่า สถานีต่อไปของแต่ละสี จะไปถึงตรงไหน
สายสีเขียว ของ "เจ้าสัว" คีรี กาญจนพาสน์ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ดูทรงแล้วจะอาการหนัก แม้ได้ จอมแฉ" ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาช่วยเป็น "จอมแถ" เบี่ยงเบนประเด็นไปเล่นงานพรรคภูมิใจไทย -สายสีส้ม จนโดนสวนคืนไม่แคล้วต้อง "ลากสังขาร" ตระเวนไปแก้ต่างตามหมายเรียก 400 เขต ทั่วราชอาณาจักรแหง๋มๆ
ขณะที่ยิ่งตีเขา กลับยิ่งเข้าอิเหนาคนกันเอง สายสีเขียว โดยหัวใจหลักในเรื่องของ "สัญญา" ที่กรุงเทพธนาคม บริษัทของกรุงเทพมหานคร ย้อนเกล็ดให้การต่อศาลฯมาว่าด้วย "สัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" จะให้จ่ายหนี้ 50,000 ล้าน ที่ “เจ้าสัว” ทวงเช้าทวงเย็นได้อย่างไร ?
สถานีต่อไปยังไม่รู้ว่า เมื่อสัญญาไม่ชอบ ที่เห็นและเป็นอยู่จะต้องเป็น"โมฆะ" หรือ "ยกเลิก" หรือไม่?
คำถามตามมาว่า แล้วมีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง? ที่แน่ๆ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯกทม.จะไม่โดดเดี่ยวเดียวดายอย่างแน่นอน
ทั้ง “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” อดีตผู้ว่าฯกทม.และ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีมหาดไทย น่าต้องสั่งทีมงานเตรียมหาข้อมูลไว้เนิ่นๆ ก็ดี รวมไปถึง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบันด้วย
ที่ว่ากันว่า "สีเขียวเสียวทั้งซอย" ไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงล่ะงานนี้
ขณะที่สายสีส้ม แม้ขบวนรถจะพักจอดรอเข้าครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่กระบวนการ "บ่างช่างยุ" ปล่อย "เฟกนิวส์" ผสมโรงยังทำหน้าที่แข็งขัน
เฟกนิวส์ปั่นกันมั่ว อ้าง "อธิรัฐ รัตนเศรษฐ" รมช.คมนาคม ปฏิบัติหน้าที่แทน "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" นั้นกำลังหา "ทางออก" หนึ่งในนั้นคือ
เจรจากับผู้ชนะการประมูล บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ตอบแทนรัฐให้มากขึ้น และเพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ ในกรณีที่มีการเปรียบเทียบข้อเสนอของ BTSC ในการประมูลครั้งแรก ที่มีส่วนต่างกันถึง 68,000 ล้านบาท!
งานนี้เล่นเอา รักษาการ รมว.คมนาคม อึ้งกิมกี่ นึกไม่ออกว่าไปให้สัมภาษณ์ตอนไหน เพราะ “อธิรัฐ” ยืนยันว่า สายสีส้ม ประมูลจบไปแล้วตาม พ.ร.บ ร่วมทุน เหลือแค่รอผลคดีเพื่อประกอบการเสนอ ครม. ไม่เคยบอกจะล้ม หรือเจรจาเพิ่มแต่อย่างใด
ว่าด้วยความเป็นไป รัฐบาลไหนมาก็ต้องเร่งอยู่แล้ว ไม่งั้นสร้างเสร็จ ไม่มีรถวิ่ง ความจริงก็มีเพียงเท่านี้
เฟกนิวส์ที่ปั่นออกมา จงใจทำให้สังคมสับสน ซึ่งในแง่การเปรียบเทียบระหว่างเอกชนสองรายแข่งประมูลกัน ใครให้ผลประโยชน์กับรัฐมากกว่า หรือ รัฐลงทุนน้อยที่สุด หลักเกณฑ์มีอยู่ง่ายๆ
ส่วนต่างราคาข้อเสนอเรื่องนี้ จะเปรียบเทียบได้ยังไงยังงงๆ เพราะ BTS ไม่ได้เข้าประมูลในรอบสอง แล้วเอาซองประมูลครั้งแรก ที่ไม่ได้เปิด ไม่มีใครรับรอง มาอ้างอิง
ถามว่า อย่างนี้เอามาเปรียบเทียบกับซองประมูลครั้งที่สองของเอกชนรายอื่นได้หรือ?
แล้วไหนจะข้อเท็จจริงที่ว่า ธุรกิจรถไฟฟ้าทุกสายที่ทำกัน รัฐต้องสนับสนุนงานโยธา ไม่งั้นโครงการไปไม่รอด
ว่ากันว่า “สายสีน้ำเงิน” รัฐลงทุนค่าก่อสร้างกว่าแสนล้านบาท “สายสีเขียว” ส่วนแรก รัฐให้เอกชนลงทุน สุดท้ายเอกชนขาดทุนต้องเข้าแผนฟื้นฟู จนทำส่วนต่อขยาย รัฐจึงต้องมาลงทุนก่อสร้างอีกกว่า 5 หมื่นล้านบาท “สายสีเหลือง” “สายสีชมพู” รัฐก็ต้องสนับสนุนค่างานโยธาสายละประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และล่าสุด คือ “รถไฟฟ้า3สนามบิน” รัฐก็ต้องสนับสนุนค่างานโยธาประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
ถามว่า BTS จะทำสายสีส้ม ขอแค่ 9,000 ล้านบาท ทั้งที่ผลการศึกษาราคากลางของรัฐ อยู่ที่ประมาณ 85,000 ล้านบาท นี่เป็นประเด็นที่สังคมต้องพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ และมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ?
งานนี้ต้องตั้งสติไตร่ตรอง คิดกันหน่อย ในวงการรถไฟฟ้าวิเคราะห์กันว่า รถไฟฟ้าโดยปกติ10ปีแรก เอกชนจะขาดทุน ปีที่11-20 เริ่มมีกำไร แต่ผลตอบแทนยังไม่พอ มาปีที่21-30 มีกำไรมากขึ้น ทำให้ผลตอบแทนถึง 8-9%
สีส้ม คาดว่าจะมีผู้โดยสารปีที่ 21 อยู่ 5 แสนคนต่อวัน ค่าโดยสารเฉลี่ย40 บาทต่อคน จะทำให้มีรายได้ 18ล้านบาทต่อวัน หรือ 7,300 ล้านบาทต่อปี
ปีที่33 น่าจะมีคนโดยสาร 7แสนคนต่อวัน เฉลี่ย 50 บาทต่อคน จะมีรายได้ 35ล้านบาทต่อวัน หรือ 12,800 ล้านบาทต่อปี
BTS อ้างว่า จะแบ่งรายได้ให้รัฐ ปี21-33 จำนวน 6,300-13,000ล้านบาทต่อปี รวมแล้ว 134,000 ล้านบาท ไม่มีทางเป็นไปได้!!!
นี่ยังไม่มองเรื่องรายได้ทั้งหมด ในปีที่ 21-33 นั้น ยังไม่หักค่าใช้จ่ายเดินรถ O&M ดอกเบี้ย และเงินคืนทุน ยังไม่พอแบ่งรัฐตามที่อ้างเลย
ถ้า BTS จะแบ่งแบบนั้น แสดงว่า BTS ต้องเดินรถฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย รับดอกเบี้ยเองทั้งหมด
คำถามก็คือ เป็นไปไม่ได้ที่เอกชนจะทำฟรี และไม่มีแบงก์ไหนปล่อยกู้แน่นอน
ในวงการรับเหมาเขารู้กันดี วิธีแบบนี้ "ฟันให้ได้งานก่อน" แต่สุดท้ายทำไม่ได้ ก็ล้มบนฟูก!!
นี่เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณากัน ดรามาราคาส่วนต่างซึ่งควรมีความจริงให้รู้ทันไว้...ส่วนสายสีไหน สีเขียว และสีส้ม จะไปต่ออย่างไร น่าสนใจติดตามกันต่อไป
** "อุ๊งอิ๊ง"นายกฯโพล "ลุงตู่" มาที่3 "ลุงป้อม" ไม่ติดฝุ่น "ส.ว." ส่งสัญญาณต้าน "คนที่พ่อไขลาน"
ยิ่งใกล้ศึกเลือกตั้งก็ยิ่งต้องเกทับบลั๊ฟแหลกกันระหว่างพรรคการเมืองแต่ละพรรค กำหนดเวลาไล่เลี่ยกันที่จะเปิดตัว"แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี" ตั้งแต่ปลายมี.ค. ไปจนถึง ต้นเม.ย. ที่ประชาชนจะได้เห็นหน้าค่าตากันเป็นทางการว่า พรรคไหน-ส่งใคร แต่ที่เป็นประเพณีปฏิบัติ จัดวัด"เรตติ้ง"คนที่คาดว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ย่อมต้องมาพร้อมๆกันก็คือ นายกฯโพล
เช็กเรตติ้งล่าสุดจาก “นิด้าโพล” ว่าด้วย“ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” สำรวจระหว่างวันที่ 2-8 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่า "ไม่ผิดคาด" โดยคำถาม ถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็น"นายกรัฐมนตรี" ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.20 ระบุว่าเป็น "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย "โทนี่ วู้ดซั่ม" ทักษิณ ชินวัตร ส่งเข้าประกวด
อันดับ 2 ร้อยละ 15.75 เป็น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พรรคก้าวไกล ขณะที่ "นายกฯคนเดิม" ลุงตู่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามมาเป็นอันดับ 3 มีคนเลือก ร้อยละ 15.65
อันดับ 4 ร้อยละ 9.45 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ , อันดับ 5 ร้อยละ 5.10 เป็น “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” พรรคไทยสร้างไทย
อันดับ 6 ร้อยละ 4.45 “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” พรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 8 ร้อยละ 1.60 “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” พรรคเพื่อไทย, อันดับ 9 ร้อยละ 1.55 เป็น "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย และ อันดับ10 ร้อยละ 1.40 เป็น “กรณ์ จาติกวณิช” จาก พรรคชาติพัฒนากล้า
ส่วน"บิ๊กเนม" พอมีชื่อให้คนเลือก "ระบุอื่นๆ" ร้อยละต่ำเตี้ยเรี่ยดิน มีตั้งแต่ "หนูนา" น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา “เศรษฐา ทวีสิน” เจ้าของ"แสนสิริ" ยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ลงลุยการเมืองให้เพื่อไทย "ลุงป้อม"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” พรรคประชาชาติ "พี่เต้" มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ “ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” “เทวัญ ลิปตพัลลภ” พรรคชาติพัฒนากล้า “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” พรรคไทยภักดี “นายชวน หลีกภัย” พรรคประชาธิปัตย์ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” พรรคประชาธิปัตย์
เรียกว่า ห่างกันกับกลุ่มนำ อย่าง “อุ๊งอิ๊ง-พิธา” หรือว่า"ลุงตู่" แบบไม่เห็นฝุ่น
ส่วนผลลัพท์ เมื่อถามว่าจะเลือกคนของพรรคใดให้เป็นส.ส.พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.75 ระบุว่า เป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.40 เป็น ก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 11.75 เป็น รวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 4 ร้อยละ 5.40 ประชาธิปัตย์, อันดับ 5 ร้อยละ 2.95 ไทยสร้างไทย, อันดับ 6 ร้อยละ 2.70 ภูมิใจไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.60 เสรีรวมไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 9 ร้อยละ 2.15 พลังประชารัฐ และ ร้อยละ 2.95 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า ประชาชาติ ไทยภักดี พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคเพื่อชาติ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.85 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.15 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 12.15 พรรครวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 4 ร้อยละ 4.95 ประชาธิปัตย์, อันดับ 5 ร้อยละ 2.85 เสรีรวมไทย, อันดับ 6 ร้อยละ 2.60 ไทยสร้างไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.55 ภูมิใจไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 9 ร้อยละ 2.30 พลังประชารัฐ และร้อยละ 3.25 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า ประชาชาติ ไทยภักดี ไทยศรีวิไลย์ สร้างอนาคตไทย พรรคเพื่อชาติ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ
แน่นอนว่า นายกฯโพล กับนายกฯจริงนั้น ก็รู้ๆกันว่ายังอีกหลายยก ตราบเท่ากระบวนการขั้นตอนยังไม่สิ้นสุด ใครจะเป็นนายกฯ ก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม โดยเฉพาะยังมีส.ว.ผู้ร่วมโหวตเลือกนายกฯ
โพลความนิยมเลือก "อุ๊งอิ๊ง" แต่สำหรับกับ "ส.ว." จะนิยมด้วยหรือไม่? ฟังว่า มีสัญญาณออกมาจากส.ว.บางคน บางกลุ่ม เริ่มขยับบ้างแล้ว จุดกระแสในทำนองจะไม่รับพิจารณาโหวตนายกฯ ที่คุณสมบัติ ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมือง และที่สำคัญเป็น "คนที่มีพ่อไขลาน"
งานนี้เริ่มเห็น"เค้าลาง" ของความระทึกระดับ 5ดาว แม้การศึกเลือกตั้งจะเพิ่งเริ่มเท่านั้นนะจ๊ะ
