เมืองไทย 360 องศา
ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ ส.ส.ในกลุ่มจำนวนหนึ่งย้ายกลับคืนพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีการแสดงท่าที มีการต้อนรับกันชัดเจนมาแล้ว ระหว่างระหว่างที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรค ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน มีภาพ “ก้มกราบ” พร้อมกับวลี “ลูกๆ กลับบ้านพ่อก็ดีใจ” อะไรประมาณนี้ ทุกอย่างรับรู้กันไปนานแล้ว
มีรายงานความเคลื่อนไหว ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่ก่อนหน้านี้ส่งสัญญาณจะกลับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยให้ 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และพล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ กลับเข้าพรรค พปชร.มาก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ร.อ.ธรรมนัส ได้นำ ส.ส.พรรค ศท.ที่เหลือสมัครกลับเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส, นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, นายสถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี, นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร, นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน, น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร, นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา, นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น
สำหรับการกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส เป็นการใช้มติคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ขับพ้นพรรค เพื่อทำให้ยังคงสถานะ ส.ส.อยู่ โดยจะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พา ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย มาสมัครสมาชิกพรรค พปชร. แล้วว่า น่าจะอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ไม่ทราบว่าเรียบร้อยแล้วหรือยัง แต่คิดว่าน่าจะเข้ามาครบถ้วนเรียบร้อย หากทุกอย่างเสร็จสิ้นคาดว่า ร.อ.ธรรมนัส คงจะประกาศเอง อย่างไรก็ตาม หาก ร.อ.ธรรมนัส กลับมาเป็นสมาชิกพรรคแล้ว เท่าที่ทราบมีการเตรียมการที่จะให้ดูแลรับผิดชอบภาคเหนือ
เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.ของ พปชร. หลายคนไปเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย นายวิรัช ตอบว่า พรรคเพื่อไทยก็มาเปิดตัวกับพรรคเราเหมือนกัน เป็นธรรมดาในช่วงนี้ ยืนยันว่า มีผู้สมัคร ส.ส.แทนคนที่ไปหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง วันนี้ล้นจนไม่รู้จะล้นอย่างไรแล้ว ล้นเกือบทุกจังหวัด
“ความคืบหน้าการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้น ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้สมัครทับซ้อนก็น่าจะครบแล้ว ตอนนี้กำลังเคลียร์กันว่าใครจะลงเขตไหน อย่างไร” นายวิรัช กล่าว
เป็นอันชัดเจนว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับกลุ่มของพวกเขาได้ย้ายกลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ อย่างเป็นทางการแล้ว และกำลังได้รับมอบหมายให้ดูแล้วการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะเดียวกัน สำหรับสังคมก็คงไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะรับรู้กันมานาน แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ การกลับมาของ “ผู้กอง” คนนี้ มีผลบวกหรือลบกับพรรคพลังประชารัฐ มากน้อยกว่ากัน
สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่ย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมกับ ส.ส.อีกราวสิบกว่าคน ในตอนนั้น มีความฮึกเหิมอย่างมาก ถึงกับประกาศในลักษณะจะสร้าง “กลุ่มอำนาจ” ของตัวเองขึ้นมาต่อรองทางการเมือง แต่หลังจากที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.แม่ฮ่องสอน อย่างหมดรูป ทำให้เสียความมั่นใจลงไปมาก อีกทั้งเชื่อว่า บรรดากลุ่มทุนที่รับปากจะให้การสนับสนุน ก็น่าจะจะถอยฉากออกมา ทำให้ต้องย้อนกลับมาที่เดิมคือพรรคพลังประชารัฐอีกรอบ แต่คราวนี้กลับเป็นลักษณะที่เรียกว่า “ย่องกลับมา” แบบเงียบๆ ลดความอหังการลงมาก เมื่อเทียบกับตอนจากไปครั้งแรก
อย่างไรก็ดี สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส ย่อมต้องมีการพิจารณาให้รอบด้านมากไปกว่านั้น เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่อง “ภาพลักษณ์” ติดตัวมานาน จนเป็นที่เข้าใจกันดีว่า “ผู้กองแป้ง” ซึ่งสังคมย่อมรับรู้ถึงความหมายดี ว่าคืออะไร และที่ผ่านมาเขาก็เคยถูกพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในกรณีดังกล่าวมาแล้ว
ขณะเดียวกัน การกลับมาของ ร.อ.ธรรมนัส ก็ต้องเชื่อมโยงมาถึง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่โอบอุ้มตัวเขาอยู่ตลอดเวลา และการกลับมาคราวนี้เชื่อว่าจะต้องเคลียร์กับ “กลุ่มก๊วน” ในพรรคที่เคยมีปัญหา “เหยียบเท้า” กันมาก่อนให้ลงตัวกันไปแล้วก็ตาม อีกทั้งมันก็ทำให้เป็นการรักษาเก้าอี้ ส.ส.ของพรรคเอาไว้ เนื่องจากมี ส.ส.จำนวนหนึ่งที่เป็น ส.ส.เขต ซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับการเลือกตั้งกลับมา
แต่หากพิจารณาในด้าน “กระแส” เชื่อว่า ในภาพรวมก็ต้องรอพิสูจน์ว่าจะมีผลมากน้อยแค่ไหน หรือว่าเมื่อมีการชั่งน้ำหนักกันแล้วมีผลบวกมากกว่าลบ ขณะเดียวกัน อาจมองว่ามีการจำกัดบทบาทเอาเฉพาะบางพื้นที่ เช่น “ภาคเหนือ” เน้นในพื้นที่ที่ตัวเองมีความถนัด และมีเครือข่าย เป็นการรักษาอิทธิพลทางการเมืองของตัวเองเอาไว้
ดังนั้น หากพิจารณาจากกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่หวนกลับมาพรรคพลังประชารัฐอีกรอบคราวนี้ มันก็เหมือนกับว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เลือกแล้ว และมั่นใจว่า “ภาพลักษณ์” ไม่มีผลกระทบกับการเลือกตั้ง หรืออาจเป็นการมอบหมายภารกิจบางเรื่อง เป็นการจำกัดขอบเขต ซึ่งในกรณีนี้ให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือบางจังหวัด ในลักษณะ “วิน-วิน” อย่างน้อยก็เชื่อว่าเป็นการรักษาจำนวน ส.ส.เอาไว้ !!