xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณยุบสภาแน่ ส.ส.ไม่(ต้อง)แตกรัง !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สมศักดิ์ เทพสุทิน - สาธิต ปิตุเตชะ - จุติ ไกรฤกษ์
เมืองไทย 360 องศา

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดตามกฎหมาย สำหรับ ส.ส.ที่คิดจะย้ายพรรคในกรณีที่สภาอยู่ครบวาระ คือ วันที่ 23 มีนาคม นั่นคือ ต้องสังกัดพรรคการเมืองใหม่ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดเอาไว้ ในวันที่ 7 พฤษภาคม อย่างไรก็ดี ปรากฏว่า ในวันดังกล่าวยังไม่ค่อยมี ส.ส.เคลื่อนไหวย้ายพรรค หรือเปิดตัวกับพรรคใหม่มากมายนัก อาจเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่มีการยืนยัน ตกลงเงื่อนไขกันเรียบร้อยไปแล้วก่อนหน้าก็ได้

ขณะเดียวกัน ที่สำคัญก็คือ สาเหตุที่ไม่ได้พบเห็นการเคลื่อนไหวในแบบคึกคัก หรือ แบบ “ผึ้งแตกรัง” กัน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ตามกฎหมายกำหนดเป็น “เส้นตาย” ที่ต้องย้ายพรรคให้เสร็จเรียบร้อย อาจเป็นเพราะได้พบสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่า จะมีการ “ยุบสภา” แน่นอน ซึ่งทำให้เข้าเงื่อนไขย้ายสังกัดพรรคใหม่ไม่น้อยกว่า 30 วัน นับจนถึงวันเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน หากย้อนทบทวนคำพูดของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยเปิดเผยออกมาว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในที่ประชุมให้รับทราบว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งมาว่า จะทำการแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

ความหมายก็คือ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่า หลังจากนั้น จะมีการยุบสภา ซึ่งก็คือ จะมีการยุบสภาในเดือนมีนาคมอย่างแน่นอน เป็นการยุบก่อนสภาครบวาระเพียงไม่กี่วัน

อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า ที่ทำให้ไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวการย้ายพรรคอย่างเปิดเผยของบรรดา ส.ส.ต่างๆ ในช่วงกำหนดเส้นตาย วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ที่มั่นใจแบบฟันธงว่า ต้องมีการยุบสภาแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองใหม่ ยังไม่มีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งได้เต็มร้อย ทั้งในเรื่องของสาขาพรรค สมาชิกพรรคในหลายจังหวัด อีกทั้งยังต้องรอ ส.ส.ที่จะต้องย้ายพรรคมาสังกัด ซึ่งหากให้ทันการณ์ ก็ต้องสังกัดพรรค 30 วัน

สำหรับความเคลื่อนไหว และท่าทีของ ส.ส.และรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีข่าวย้ายพรรคล่าสุด ก็ได้เห็นความชัดเจนขึ้นแล้ว โดยวันนี้ถือเป็นวันกำหนดเส้นตายของการย้ายพรรคเพื่อหาสังกัดพรรคใหม่ ของ ส.ส.จึงมีการจับตาว่า จะมีรัฐมนตรีตัดสินใจย้ายพรรคสังกัดหรือไม่

เริ่มจาก “นายจุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงความชัดเจนในการตัดสินใจอนาคตทางการเมือง โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ แล้ว จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร นายจุติ ได้แต่ยิ้ม พร้อมชูนิ้วโป้ง 2 ข้าง ให้กับผู้สื่อข่าว

“นายสาธิต ปิตุเตชะ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสการย้ายพรรค หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ระยอง วันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ โดย นายสาธิต ตอบแบบทีเล่นที่จริงว่า จะตัดสินใจวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ว่าจะย้าย หรือจะอยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พูดจริงหรือพูดเล่น นายสาธิต กล่าวว่า จะประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะอยู่พรรคไหน แต่ขณะนี้ยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่ “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินเข้ามาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว พร้อมยืนยันว่า ยังคงอยู่พรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ตนไม่ได้ตอบคำถาม ไม่ได้หมายความว่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น

เมื่อถามว่า เปลี่ยนใจหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวยืนยันว่า ไม่เปลี่ยนใจ และไม่ทราบว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าจะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาจากไหน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวมาจากไหน เมื่อถามอีกว่า ที่มีกระแสข่าวดาวกระจายแยก 3 คน 3 พรรค ของกลุ่มสามมิตรนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่มี ยืนยันว่า ตน กับ นายสมศักดิ์ ไม่ไปแน่นอน แต่ “นายอนุชา นาคาศัย” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งนี้ ตนได้ยืนยันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ไปแล้วด้วยเช่นกัน ว่ายังคงอยู่พรรคพลังประชารัฐ

นั่นเป็นความเคลื่อนไหวและท่าทีในการย้ายพรรค หรือยังยืนยันที่จะยังอยู่ที่เดิม ซึ่งจะว่าไปแล้ว บรรดา ส.ส.และรัฐมนตรีดังกล่าว เคยมีท่าทีชัดเจนมานานแล้ว รวมไปถึงมีการตกลงยืนยันกันไปแล้ว และที่สำคัญ พวกเขารับรู้แล้วว่าจะมีการยุบสภาเมื่อไหร่ และยังไม่มีความจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากสามารถใช้ตำแหน่งหาเสียงแบบเนียนๆ ได้อีกสักพักหนึ่ง ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ทำแบบเดียวกัน

ดังนั้น หากให้สรุปสถานการณ์กันในช่วงเวลานี้ แม้ว่าจะถึงกำหนดเส้นสายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สำหรับกรณีสภาครบวาระ แต่นาทีนี้ประเมินชัดเจนแล้วว่าจะมีการยุบสภาในเดือนมีนาคมแน่นอน ทำให้การสังกัดพรรคลดลงมาเหลือแค่ 30 วัน จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนย้ายพรรคหรือลาออก ทำให้ไม่ค่อยได้เห็นการย้ายแบบโกลาหลเหมือนผึ้งแตกรัง แต่ก็ตกลงกันเป็นการภายในกันไปแล้ว!!



กำลังโหลดความคิดเห็น