“วิษณุ” ท้วง กกต.ปมแบ่งเขต ไม่ควรรวมประชากรแรงงานต่างด้าว โยนถาม ภท. หลัง “วีระกร” ปูด จะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม ม.152 หวั่น ฝ่ายค้านหลอกด่าแล้วชิ่ง แนะ รมต. ถามปุ๊บตอบปั๊บ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ตอนนี้ กกต.กำลังแบ่งเขต แต่ตนได้เสนอแนะไปว่า ตนเป็นห่วงเรื่องของคนต่างด้าวในแต่ละพื้นที่ ว่า จะรวมเป็นประชากรในเขตด้วยหรือไม่ ซึ่ง กกต. แจ้งว่า ที่ผ่านมา ได้รวมประชากรแรงงานต่างด้าวในเขตนั้นๆ ด้วย ทั้งนี้ เพราะรัฐธรรมนูญไปเขียนว่า ต้องใช้จำนวนราษฎรตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในประกาศของกระทรวงมหาดไทยนั้นรวมต่างด้าวไว้ด้วย ทั้งที่ความจริงมันแยกได้ เป็นคนไทยล้วน กับคนต่างด้าว ซึ่งขอให้ กกต.ขอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญเอาเองว่าจะต้องรวมหรือไม่รวม ทั้งนี้ ในส่วนของแรงงานต่างด้าวมันจะมีมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละเขต ต้องยอมรับว่า บางจังหวัดมีผล บางจังหวัดไม่มีผล แม้ว่าคนต่างด้าวเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ตนก็สงสัยว่าจะไปนับเขาด้วยทำไม เพราะคนพวกนี้เวลาที่ประเทศเขามีการเลือกตั้งเขาก็เดินทางกลับไปเลือกตั้งได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. ได้มาหารือกับนายวิษณุ เกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี เขายังไม่จำเป็นต้องคุย ในเมื่อเราให้เวลาเขาหนึ่งเดือน ซึ่งเขาร่างไว้แล้ว ไม่ได้ยุ่งยากอะไร
เมื่อถามว่า แสดงว่าโ ดยหลักจะรอให้ กกต. จัดการเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงค่อยเดินหน้า ในเรื่องของการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เล็กน้อย ตรงนั้นมาคุยกันอีกที ขณะนี้ยังไม่รู้จะคุยอะไร เค้าเองก็ยังไม่รู้ว่าเขตเลือกตั้งอยู่ที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายทั่วไปในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ ทางพรรคภูมิใจไทยบอกว่าจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมสภาอย่างนี้ทำได้หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปถามพรรคภูมิใจไทยสิ ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทำอย่างนี้ได้หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องไปถาม นายวีระกร คำประกอบ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลเขาคุยกันหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะเวลาประชุมตนไม่ได้เขาด้วย แต่ใน ครม. ซึ่งไม่มีการคุยเรื่องนี้ ซึ่งโดยหลักแล้ว ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายยื่นญัตติ ฝ่ายค้านก็ต้องเป็นผู้มีสิทธิอภิปราย ฝ่ายรัฐบาลอาจจะพูดบ้างก็ได้แต่เขาเอาเวลาของ ส.ส.มารวมกับเวลาของรัฐมนตรี ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชั่วโมง ดังนั้น หาก ส.ส. เอาเวลาไปพูดเสียเยอะ รัฐมนตรีก็จะเหลือเวลาที่จะชี้แจงน้อย แต่ถ้าประท้วงกันไปมา ก็ถือว่าทำได้ อย่างที่ตนเคยบอกเรื่องนี้ไม่มีการลงมติ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการกดออดเรียกมาให้นั่งครบองค์ประชุมแล้วลงมติ เวลาสภาล่ม มันก็จะร่มทุกครั้งเวลาที่ลงมติ แต่ครั้งนี้ไม่มีการลงมติ ถ้าไม่มีคนขอนับองค์ประชุม มันก็ไปของมันเรื่อย สมาชิกก็เดินเข้าเดินออก มองไปก็อาจจะโหรงเหรง แต่ก็ไม่ถือว่าองค์ประชุมล่ม จนกระทั่งเมื่อไหร่มีคนขอนับองค์ประชุม แล้วองค์ประชุมไม่ครบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยมารยาทแล้วเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ควรไปนั่งในสภาเป็นองค์ประชุมไม่ใช่หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า บางทีก็มีเบื่อ มีเหนื่อยหน่าย เพราะการนั่งฟังโดยไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึง 2 วัน 2 คืน ก็เบื่อเหมือนกันนะ ก็เห็นใจแต่กติกาสภาเป็นแบบนั้น
เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกันอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากจะมีก็เป็นวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
เมื่อถามว่า หากองค์ประชุมไม่ครบการอภิปรายก็ไม่ต้องมีเลยก็ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถือว่าจบแค่ไหนก็แค่นั้น แต่คงไม่ใช่ว่า เริ่มเปิดประชุมปั๊บแล้วล่มเลย น่าจะอภิปรายไปกันสักพักหนึ่ง แต่ที่ตนกลัว คือ กลัวว่าองค์ประชุมไม่ครบในช่วงรัฐบาลชี้แจงตอบนี่แหละ อาจเห็นว่าเขาด่ากันมาสองวันแล้ว พอเราจะพูด องค์ประชุมก็ไม่ครบ เลยอดพูดเลย แต่ที่จริงฝ่ายค้านอยู่ให้ครบ มัน ก็จะเป็นองค์ประชุมได้ ฝ่ายค้านเองก็ต้องอยู่ให้ครบด้วย ไม่ใช่ฝ่ายค้านไม่อยู่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่อยู่ องค์ประชุมก็ล่ม แล้วมาโทษฝ่ายรัฐบาล อย่างนี้มันก็พูดยาก ดังนั้น ต้องช่วยกันอยู่ให้ครบ เพราะรัฐบาลก็ไม่ได้อยาก กระตือรือร้นที่จะตอบ แต่เมื่อฝ่ายค้านถาม รัฐบาลก็ยินดีตอบ
เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินเป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายค้านจะเปิดประชุมเพื่อด่าแล้วก็หายไป โดยไม่เป็นองค์ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นรัฐมนตรี ก็ไม่ควร รอเอาไว้ตอบในช่วงสุดท้าย เมื่อถูกฝ่ายค้านว่าปั๊บ รัฐมนตรีก็ต้องตอบเลยทันที ไม่เช่นนั้น ฝ่ายค้านอาจจะลุกขึ้นมา อภิปรายต่อว่า แล้วก็กลับบ้านเลย มันก็ต้องทันกันด้วย
เมื่อถามว่า สัดส่วน 8 ชั่วโมงของรัฐบาล น้อยเกินไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เมื่อมีเวลาสองวันก็ต้องแบ่งกันให้ครบ 20 ชั่วโมง