วันนี้ (18 ม.ค.) เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส ที่การประชุม World Economic Forum (WEF) ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวง อาทิ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เข้าร่วมประชุม ณ โอกาสนี้ นายอนุทิน ได้ร่วมหารือในหัวข้อ การเปลี่ยนแปลงในระบบสุขภาพ ( Health Systems Transformation) และกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ประสบการณ์ด้านสาธารณสุขของไทย เราพร้อมแบ่งปันแก่ทั่วโลก เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน ความสำเร็จของประเทศไทย ที่ทำให้เราขยับขึ้นไปอยู่บนแถวหน้านั้น มาจากปัจจัย อาทิ (1) ความสำเร็จของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (2) เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ (3) ระบบบิ๊กดาต้าสำหรับจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชน และ (4) สมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เป็นความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน
ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือ พื้นฐานซึ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขไทย การระบาดของโรคร้าย ครั้งล่าสุดได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีใครปลอดภัย จนกว่าทุกคนจะปลอดภัย และนั่นคือวิธีที่เรายุติวิกฤต
“ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เราได้เพิ่ม และขยายสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลสำหรับประชาชน เราจัดหายาไปถึงร้านยาใกล้บ้าน เราวางแผนตั้งศูนย์มะเร็งในทุกจังหวัด และศูนย์ฟอกไตในทุกอำเภอ ที่สำคัญ ประเทศไทย ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว เรื่องนี้ ปัจจุบันเราได้พัฒนาระบบสุขภาพ ผ่านการกระจายการให้บริการคลินิกผู้สูงอายุ การให้บริการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ฟรี และทีมบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ลงพื้นที่ตามครัวเรือน เราต้องการให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตัวเองได้ และต้องไม่ใช่ภาระของลูกหลาน จนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่”
นายอนุทิน ได้กล่าวชื่นชมไปยังการปฏิบัติหน้าที่ของ อสม. ว่า เราเรียกพวกเขาเป็นหมอคนแรก นี่คือ เกียรติที่ได้รับจากการทุ่มเททำงานหนัก จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึงการใช้ระบบบิ๊กดาต้าด้านสุขภาพ เพื่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการรักษาพยาบาล และยังได้กล่าวถึงสมัชชาสุขภาพแห่งชาติซึ่งโดยเป็นกลไกในการชี้นำและขับเคลื่อนวาระสำคัญด้านสุขภาพอของประเทศ ตามเป้าหมายที่ประชาชนคนไทย ต้องมีสุขภาพที่ดี
“นี่คือ แนวทางที่พาไทยมายืนอยู่บนเวทีด้านสุขภาพอย่างองอาจ และเป็นความภาคภูมิใจไทย ที่พร้อมถ่ายทอดให้นานาประเทศได้นำไปพิจารณา”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่เฟซบุ๊ก นายอนุทิน ปรากฏภาพขณะนายอนุทิน กำลังร่วมวงหารือในหัวข้อ Health Systems Transformation พร้อมข้อความ ระบุว่า
“นำเสนอนโยบาย “3 หมอ ของคนไทยและความสามารถในการบริหารจัดการเรื่อง หลักประกันสุขภาพ ของประเทศไทยที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกต่อผู้เข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2023 ที่แม้กระทั่งประเทศมหาอำนาจหลายประเทศยังยอมรับว่าในประเทศของพวกเขา ยังไม่สามารถดูแลสุขภาพของประชาชนได้ครอบคลุมเท่ากับประเทศไทย
ทั้งในเรื่องของการเข้าถึงระบบสุขภาพ ความพร้อมของสถานพยาบาล งบประมาณจากรัฐบาล ฐานข้อมูลของประชาชน การมีเวชภัณฑ์ที่เพียงพอในประเทศ การเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้เข้าร่วมประชุมได้ชื่นชมและเห็นว่าระบบหลักประกันสุขภาพของไทยมีประสิทธิภาพสูงมาก และสิ่งที่ทุกประเทศทึ่งมากที่สุดคือ ประเทศไทยมี อสม. Village Health Volunteers ซึ่งทำหน้าที่เป็นหมอคนแรกของคนไทยอย่างทุ่มเทและเสียสละ”