รองนายกฯ อนุทิน เตรียมนำคณะเข้าร่วม 2 ภารกิจใหญ่ ประชุม WEF ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส และการลงนามความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร 17-22 ม.ค. นี้
วันนี้ (16 ม.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 17-22 ม.ค. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีกำหนดการนำคณะผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วม 2 ภารกิจสำคัญใน 2 ประเทศ ประกอบด้วย การเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ณ เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส และการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
สำหรับการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส ปีนี้จัดการประชุมขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค. 66 ภายใต้หัวข้อ “Cooperation in a Fragmented World” มีผู้นำระดับสูงทางการเมือง อาทิ ผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีการค้า รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ว่าการธนาคารกลาง และภาคธุรกิจจากทั่วโลก ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนอกจากนายอนุทินพร้อมคณะแล้ว นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง จะเข้าร่วมในการประชุมด้วย
ทั้งนี้ นายอนุทิน พร้อมคณะ จะเข้าร่วมประชุมในวันที่ 17-18 ม.ค. 66 ในหัวข้อ Health Systems Transformation ซึ่งที่ประชุมจะหารือกันถึงความร่วมมือระดับโลก ทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับระบบดูแลสุขภาพที่มีความยั่งยืน และหัวข้อ The Pulling Power of ASEAN เกี่ยวกับบทบาทของอาเซียนท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิเศรษฐศาสตร์ที่รุนแรง และบทบาทการมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่งคั่งของโลกตลอดจนความร่วมมือในภูมิภาค
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงร่วมประชุม WEF รองนายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการร่วมหารือกับผู้นำจากประเทศต่างๆ ในหัวข้อ How to Restart Global Cooperation ซึ่งจะว่าด้วยความร่วมมือระดับโลกในระยะต่อไปเพื่อรับกับความท้าทายระดับโลกในประเด็นหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน เศรษฐกิจที่อ่อนแอลง วิกฤตการณ์ด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงมีกำหนดการพบปะกับผู้แทนประเทศและผู้บริหารองค์กรธุรกิจระดับโลกเป็นการเฉพาะหลายรายด้วยกัน
จากนั้นนายอนุทินพร้อมคณะ จะเดินทางไปยังกรุงลอนดอน เพื่อเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ระหว่าง Genomics Thailand และ Genomics England และหารือแนวทางการดำเนินความร่วมมือในอนาคตทั้งด้านการแพทย์ และการวิจัย ซึ่งในระหว่างนี้ยังมีกำหนดพบหารือกับหน่วยงานที่ดูแลความร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอินโด-แปซิฟิก หน่วยงานที่ผลักดันเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของอังกฤษ เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่ประโยชน์ในการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพคนไทยให้ดียิ่งขึ้นด้วย