กัญชาฝ่าวิบากกรรมดรามา แฉเบื้องหลังล้มกฎหมายหวังปล่อยทุนใหญ่ผูกขาด!! **โยกย้ายผู้ว่าฯนอกฤดู ทำ อ.เฉลิมชัย เดือด งานศิลปะเบียนนาเล่เชียงรายส่อล้ม

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**กัญชาฝ่าวิบากกรรมดรามา แฉเบื้องหลังล้มกฎหมายหวังปล่อยทุนใหญ่ผูกขาด!!

กระบวนการเตะตัดขา “กัญชา” ช่วงนี้ปล่อยข่าวรัวๆ และรั่วๆ ออกมาให้เห็นถี่ๆ ขึ้น เพื่อด้อยค่าพืชสมุนไพร “แก้เจ็บ แก้จน” ที่อยู่ระหว่างจะเข้าสู่การพิจารณาในสภา

ระหว่างที่รอกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงเกี่ยวกับสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เจตนาเพื่อไม่ให้ใข้กัญชาไปในทางผิดๆ ก็ยังมีดรามา วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา อย่างกรณี ส.ว. “สมชาย แสวงการ” หารือในที่ประชุม ส.ว. วันก่อน แสดงความกังวลเกี่ยวกับร้านขายกัญชาเพื่อสันทนาการที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ซึ่งก็ย้อนแย้งกับการลากถ่วงไม่ให้กฎหมายเข้าสู่สภา

งานนี้ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แจงสี่เบี้ยเหตุที่ต้องออกประกาศกระทรวง ก็เพราะห่วงที่กฎหมายยังไม่ออกมา และความกังวลต่อร้านค้าที่ขายกัญชา ให้นักท่องเที่ยวสูบในร้าน เห็นด้วยที่ต้องเร่งให้สภาพิจารณาผ่าน ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ แต่ระหว่างรอ จำเป็นที่จะมีประกาศควบคุม


นั่นคือ เหตุผลที่ออกประกาศสมุนไพรควบคุมกัญชาฉบับใหม่ที่ปรับปรุงจากฉบับเดิมขึ้นมา เพราะประกาศฉบับเดิมนั้น เน้นควบคุมการขายให้เด็กและสตรีมีครรภ์ แต่ฉบับใหม่มีการห้ามการขายช่อดอกทั้งหมดไม่ว่ากับใคร ยกเว้นได้รับอนุญาต โดยเฉพาะการขายช่อดอกที่แปรรูปเพื่อสูบด้วย แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ยืนยันว่า การสูบกัญชาแบบคนที่ใช้เป็นจะไม่เป็นอันตรายเท่าเหล้า บุหรี่ ซึ่งเราก็ทำเพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของสังคมโดยตรง ระหว่างรอ พ.ร.บ.กัญชาฯ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ว่าด้วยเรื่องกำหนดช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุมนั้น “หมอหนู” บอกว่า ได้ลงนามและส่งไปที่สำนักงานเลขาธิการ ครม. เพื่อให้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หมายความว่า หลังประกาศฉบับนี้ถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ใครก็เปิดร้านกัญชาเพื่อสูบไม่ได้ ขายช่อดอกไม่ได้ ยกเว้นคนที่ขอใบอนุญาต ซึ่งเปิดช่องไว้สำหรับการแพทย์ อย่าลืมว่ามีการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคและบำบัดการติดยาเสพติดเช่นพวกยาบ้าได้ด้วย

สรุปว่า เห็นตรงกับ ส.ว. อยากให้สภาพิจารณาผ่านกฎหมายโดยเร็ว ไม่ควรประวิงเวลา เพราะถ้ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในที่เดียวกัน แทนที่จะเป็นประกาศหลายๆ ฉบับ อย่างที่มีอยู่ ก็ย่อมสะดวกกว่าสำหรับผู้บังคับใช้ หากมีอะไรที่กระทรวงสาธารณสุขทำเพิ่มเติมได้ระหว่างนี้ก็จะดำเนินการอย่างดีที่สุด

เรียกได้ว่า เวลานี้กัญชาต้องฝ่าวิบากกรรมอย่างหนัก แม้จะหลุดออกจาก “ยาเสพติด” แล้วก็ตาม


ว่ากันว่า เรื่องนี้มีเบื้องหลังที่มีคนคอยจ้องจะล้มกฎหมายกัญชา กัญชง โดย “ประสิทธิ์ชัย หนูนวล” นักกิจกรรมประชาสังคม แนวร่วมเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และ กมธ.กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัวระบุว่า เส้นทางการล้มกฎหมายกัญชา

1. วันจันทร์ที่จะถึงนี้ มีข่าวว่า ป.ป.ส. จะพากัญชาเข้าสู่โหมดยาเสพติด

2. ล้ม พ.ร.บ.กัญชา ที่จะเข้าสภาประมาณวันพุธ

3. หลังจากนั้น จะนำไปสู่การเขียนกติกาบางอย่าง เพื่อให้กลุ่มเฉพาะเท่านั้น ที่ทำกัญชาได้

4. ตอนนี้บรรษัทใหญ่หลายสิบบริษัท ได้เตรียมการสำหรับธุรกิจกัญชาไว้เรียบร้อยแล้ว รวมเงินลงทุนคงจะหลายพันล้าน

ประเทศนี้เกิดการรวมหัวของนักการเมืองกับกลุ่มทุนเสมอ และประชาชนจะต้องตกเป็นผู้ถูกกระทำในทุกอย่างของประเทศนี้ เรื่องใหญ่สุดตอนนี้ คือ ป.ป.ส. จะนำกัญชาไปสู่ยาเสพติดในวันจันทร์นี้ มันจะเจ๊งระนาวกันทั้งประเทศ เหลือเฉพาะทุนใหญ่

ต้นไม้ต้นหนึ่งประชาชนยังปลูกไม่ได้ แต่ผู้มีอำนาจจะปลูกกี่ล้านต้นก็ได้


ก่อนหน้านี้ “ประสิทธิ์ชัย” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ความจำเป็นของการมี พ.ร.บ.กัญชาฯ คือ การคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกัญชา มูลค่านับแสนล้านต่อปี ทำให้บรรษัทยักษ์ใหญ่ทุ่มทุนมหาศาลหลายสิบบริษัท ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจไฟฟ้า

การรวมกันคว่ำ พ.ร.บ.กัญชาฯ จึงเป็นการเปิดทางในการสร้างกติกาใหม่ เอื้อกลุ่มทุน ส.ส.ทั้งหลายพึงตระหนักให้ดี

งานนี้ต้องจับตาว่า ในที่สุด กัญชาจะฝ่าวิบากกรรมได้แค่ไหน ใครจะได้ประโยชน์ระหว่างกลุ่มทุน หรือประชาชน ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายจะเป็นผู้ให้คำตอบ



**โยกย้ายผู้ว่าฯ นอกฤดู ทำ อ.เฉลิมชัย เดือด งานศิลปะเบียนนาเล่เชียงรายส่อล้ม

ควันหลงการแต่งตั้ง โยกย้าย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย 37 ตำแหน่ง ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็นการโยกย้ายนอกฤดู ที่อาจจะเกี่ยวกับการเมืองที่กำลังจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง

หนึ่งในนั้นมีชื่อของ “ภาสกร บุญญลักษณ์” ผู้ว่าฯ เชียงราย ถูกย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ กระบี่ และให้ “พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์” ผู้ว่าฯ กระบี่ มาเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย รวมอยู่ด้วย

จะเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ ไม่แน่ชัด แต่ชาวเชียงรายรู้สึกตกใจต่อคำสั่งนี้เป็นอย่างมาก เพราะ “ภาสกร บุญญลักษณ์” เพิ่งมาเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย ได้เพียงปีเดียว เป็นคนมุ่งมั่นในการทำงาน มีการวางแผนงานที่จะดำเนินการในช่วงฤดูการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ ทั้งการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน และเตรียมจัดงานศิลปะโลก “ไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย 2023”


เมื่อ “ผู้ว่าฯ ภาสกร” ถูกย้าย จึงมีผลกระทบกับการจัดงานศิลปะของจังหวัดเชียงรายเข้าอย่างจัง ถึงขั้น “ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” หรือ อ.เฉลิมชัย ศิลปินแห่งชาติ ต้องหลั่งน้ำตา

“อ.เฉลิมชัย” อัดคลิปวิดีโอระบายความรู้สึกต่อคำสั่งโยกย้ายดังกล่าว ระบุแคปชันว่า... ปวดใจกับงานศิลปะโลก_ไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย 2023 หนีไปขี่มอเตอร์ไซค์ดีกว่า

ภาพ “อ.เฉลิมชัย” ใช้มือกุมหน้าอย่างเจ็บปวด ทรมาน...โอยประเทศไทยของกู วันนี้ขอมาพูดหน่อย แม้จะปวดใจ ผู้ว่าฯ เชียงราย ถูกย้าย จะเรื่องอะไรผมไม่รู้ เรื่องการเมืองบ้าบอคอแตกอะไร ผมก็ไม่รู้ แต่ว่าผู้ว่าฯคนนี้ เรื่องงานศิลปะนั้นสุดยอด ผมมีความคาดหวังว่า เบียนนาเล่เชียงรายจะต้องยิ่งใหญ่ งานศิลปะของโลกที่มาแสดงที่เชียงราย จะได้เงินทองเข้า จ.เชียงราย เยอะ ผมร่วมกันลุยกันตั้งแต่ท่านเป็น รองผู้ว่าฯแล้ว พอได้เป็นผู้ว่าฯ และมาเป็นผู้ว่าฯเชียงราย ผมดีใจและโชคดีของคนเชียงรายแล้ว โชคดีของการแสดงงานเบียนนาเล่เชียงราย เพราะคนๆ นี้รู้จักงานศิลปะดี

...ผมคาดหวังมาก สร้างหอศิลป์ด้วยเงินของตัวเอง 35 ล้าน เพื่อรองรับตรงนี้ และร่วมกันกับผู้ว่าฯ กับรัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม ซึ่งรัฐมนตรีก็เต็มที่ ปลัดก็เต็มที่ แต่พอผู้ว่าฯ เปลี่ยน โอ้โห ผู้ว่าฯ ย้าย โอ้...ผู้ว่าฯ ที่ย้ายมา ผมไม่ทราบว่าจะมีความรู้ ความสามารถในผลงานศิลปะเท่ากันไหม อาจจะยาก เพราะคนๆ นี้ คือ ความหวังของผม และเข้าขา การทำงานกันเต็มที่ พอมาเปลี่ยนผู้ว่าฯ จบเกมเลย...


...งบประมาณอะไรถูกตัดไม่ว่า ตัดนู่นตัดนี่เหลือนิดเดียว งานเบียนนาเล่เชียงราย ทำให้ผมปวดหัวมาก ทุกอย่างจะรอ อ.เฉลิมชัย ช่วยอย่างเดียว หาเงิน อ.เฉลิมชัย หาเงิน แม้ไอ้… กูแทบจะตาย… อยู่แล้ว สร้างหอศิลป์รองรับ 35 ล้าน นี่ออกคนเดียว หาเงินเอง สร้างเอง แล้วยังจะให้กูหาเงินอีกเหรอ รัฐบาลก็ต้องส่งเงินมา ตัดนู่นตัดนี่แทบไม่เหลือ…อะไร ทำอะไรไม่ได้แล้ว...ผมเลิก บอกได้เลย วันนี้ที่มาประกาศพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศคาดหวังว่าเบียนนาเล่เชียงรายจะยิ่งใหญ่ ต่างประเทศด้วย คาดหวังว่าผมเป็นคนจัดต้องยิ่งใหญ่ แล้วก็ได้ผู้ว่าฯ ที่เข้าขากันด้วย กระทรวงวัฒนธรรมก็เต็มที่ อัดเต็มที่ หนุนเต็มที่ แต่ว่าตอนนี้ยาก...

...ผมถอดใจแล้วนะ บอกก่อนนะว่าไม่เอาแล้ว อย่าคาดหวังกับผมแล้ว เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว ผมคิดว่าวางมือแน่ เพราะไม่ไหวแล้ว ทุกข์ใจเปล่าๆ ไม่เอาละ พอ เบื่อโคตรๆ เลย สิ้นหวัง พี่น้องอย่ามาคาดหวังกับผมนะ เบียนนาเล่เชียงรายล้มเหลวไม่เกี่ยวกับผมนะ สวัสดี ผมไม่เกี่ยวๆ...

คงไม่ต้องอธิบายมากกว่านี้ ว่า “อ.เฉลิมชัย” ผิดหวังกับคำสั่งโยกย้ายนี้แค่ไหน!!

สำหรับ "ผู้ว่าฯ ภาสกร บุญญลักษณ์" นั้น เกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค.10 มีภูมิลำเนา ที่ กรุงเทพฯ เคยได้รับรางวัล “ครุฑทองคำ” จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อปี 58 ซึ่งตอนดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอเมืองพิษณุโลก เคยเป็นรองผู้ว่าฯ เชียงราย ในช่วงที่มีเหตุการณ์ 13 หมูป่า จากนั้นไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ก่อนได้ขึ้นเป็น ผู้ว่าฯ เชียงราย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 64 ที่ผ่านมานี่เอง

ด้วยเหตุที่เคยเป็นรองผู้ว่าฯเชียงรายมาก่อน จึงมีความผูกพันกับชาวเชียงราย รู้ปัญหาของท้องถิ่น รู้ว่าเชียงรายมีจุดขายอะไร ที่จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดดีขึ้น เมื่อได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯเชียงราย ก็เตรียมแผนพัฒนา แก้ปัญหา แต่อยู่ได้เพียงปีเดียวก็ถูกย้ายเสียแล้ว

อย่าว่าแต่ “อ.เฉลิมชัย” เลยที่เสียใจ คนเชียงรายทั้งจังหวัดก็เสียดายมาก