xs
xsm
sm
md
lg

ไม่สู้ก็อยู่บ้านลาด ภาคประชาชนหนุน พ.ร.บ.กัญชา บุกพรรคฝ่ายค้านแสดงสัญลักษณ์วันนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เครือข่ายภาคประชาชนที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา เตรียมเคลื่อนไหวแคมเปญ "ไม่สู้ก็อยู่บ้านลาด" ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคการเมืองที่ออกมาค้านร่างกฎหมาย ประเดิมพรรคก้าวไกล จากนั้นนัดทำกิจกรรมที่ถนนข้าวสารในตอนเย็น ขณะที่ภาคีประชาชนฯ แถลงการณ์เรียกร้องให้ 12 พรรคการเมืองนำร่างกฎหมายพิจารณาในสภาฯ ดีกว่าคว่ำแล้วไปโจมตีพรรคอื่น ไม่มีประโยชน์

วันนี้ (15 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เครือข่ายภาคประชาชนที่สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกัญชา (พ.ร.บ.กัญชา) เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดในวันนี้ ภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า "ไม่สู้ก็อยู่บ้านลาด" โดยการยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคการเมืองทุกพรรค และออกมาร่วมกันทำเวทีกิจกรรมเล็กๆ ที่ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ ตามกำหนดการจะเริ่มจากเวลา 13.00 น. ได้นัดรวมตัวกันที่พรรคก้าวไกล ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ และไปพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างรอการตอบรับ จากนั้นเวลา 16.20 น. จะมีการจัดกิจกรรมที่ถนนข้าวสาร ส่วนสถานที่รอการยืนยันอีกครั้ง

สำหรับหลักการและเหตุผลในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ระบุว่า "ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ภาคประชาชนต่อสู้กันมาด้วยความยากลำบากเพื่อสิทธิที่ถูกต้องของพวกเรา วันเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เราต้องเจอมากกว่าสิ่งที่สังคมมองเห็น ทั้งการรีดถูกไถ ข่มขู่ ถูกปฏิบัติเยี่ยงอาชญากร ถูกดำเนินคดีอาญาอย่างไม่เป็นธรรม ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และหวาดกลัว ต้องเจอกับคุณภาพสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ฯลฯ สิ่งที่เราต้องการเพียงแค่สิทธิที่ถูกต้องในการเลือกใช้สิ่งที่เราชอบโดยไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้สังคม มีการควบคุมและการจัดการที่ดี ป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน ลดอันตรายจากกัญชาลงได้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สังคมต้องการเช่นกัน

หากแต่วันนี้มีความพยายามที่จะนำกัญชากลับเข้าไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เรามองว่าจะสร้างผลเสียที่รุนแรงไม่แพ้กัน ประชาชนจำนวนมากจะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะอาชญากร คนที่ปลูกกัญชาจะถูกจับในข้อหาผลิตยาเสพติด คนที่อยากจะทำสิ่งที่ดีๆ อยากพัฒนาในด้านต่างๆ และทำอยู่ในกรอบกติกาก็จะต้องติดร่างแหนี้ไปด้วย และทุกอย่างก็จะกลับลงไปอยู่ใต้ดินที่รัฐไร้ความสามารถในการควบคุม ในขณะที่ปัญหาเดิมๆ ก็จะยังคงอยู่และจะทวีความรุนแรงขึ้นโดยไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ เป็นเพียงแค่เอาปัญหาไปไว้ใต้พรมดังเดิม ในฐานะประชาชนจึงออกมาร่วมกันคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด"


สำหรับแคมเปญที่ใช้ชื่อว่า "ไม่สู้ก็อยู่บ้านลาด" คาดว่าเป็นการพ้องเสียงคำว่า "ไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส" ที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่าม็อบราษฎร และผู้สนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นำมาใช้ จากการสืบค้นข้อมูลคำว่าบ้านลาด พบเพจที่ชื่อว่า "Channel Weed Thailand" โพสต์ข้อความหัวข้อ "ด่านบ้านลาดในตำนาน" เมื่อเดือน ก.พ. 2563 จึงคาดว่ามาจากด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม ตำบลท่าเสน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ที่ผ่านมาเคยมีชื่อเสียงเรื่องการบังคับรถยนต์ทุกคันให้จอดเพื่อตรวจค้น ทำให้การจราจรติดขัด จากนั้นจึงบังคับให้ตรวจปัสสาวะทุกคนเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่ใช้กัญชาถูกจับกุมและเสียเงินค่าปรับจำนวนมาก จึงถูกยกให้เป็นด่านตรวจในตำนาน ภายหลังรัฐบาลได้ปลดล็อกพืชกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติด และยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่าย มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

อ่านโพสต์ คลิกที่นี่

อีกด้านหนึ่ง เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) ภาคีประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย นำโดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง จัดงานเสวนา เรื่องความจำเป็นของการมีกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา เพื่อการควบคุมการใช้กัญชากัญชงในประเทศไทย ที่สวนครูองุ่น ทองหล่อซอย 3 กรุงเทพฯ โดยได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หัวหน้าพรรคการเมือง 12 พรรค ที่ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง เปิดร่างพิจารณาสาระรายมาตรา เพื่อให้สังคมไทยมีกฎหมายควบคุมกัญชาเชิงระบบ เพราะการที่ ส.ส.ลงมติไม่พิจารณาเท่ากับปิดการรับรู้ของประชาชน อีกทั้งหากพรรคการเมืองมีจุดยืนว่าจะต้องไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชา เพื่อให้เกิดปัญหาและนำไปโจมตีพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องนั้นไม่มีประโยชน์อันใด หากปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้การแปรรูปหรืออื่นใดจากกัญชาโดยไม่มีกฎหมายควบคุม ต้องเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส.ทั้งหมด

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และโฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง กล่าวในงานเสวนาดังกล่าวว่า กัญชาถูกกำหนดให้ออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ตามมาตรา 29 ประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามมติประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2564 โดยการลงมติครั้งนั้นไม่มีการขอให้แก้ไขจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แม้แต่คนเดียว ต่อมาวันที่ 24 ส.ค. 2564 ที่ประชุมรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบประมวลกฎหมายยาเสพติด วาระ 3 ที่มีการแก้ไขทั้งฉบับ ด้วยคะแนน 467 เสียง อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยไม่มี ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คนใดลงมติคัดค้านแม้แต่คนเดียวเช่นกัน จึงขอย้ำว่าหาก ส.ส. และ ส.ว. ไม่มีมติให้แก้ไขการลบกัญชาออกจากมาตรา 29 ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 2564 กัญชาก็จะยังคงเป็นยาเสพติดต่อไปจนถึงปัจจุบัน เท่ากับว่าเห็นดีเห็นงามแต่มาเปลี่ยนจุดยืนเอาตอนท้าย ส่วนที่ออกมาเป็นห่วงสังคมนั้น ต้องขอบคุณการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับล่าสุด โดยไม่ต้องรอเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โดยเฉพาะเรื่องการคุ้มครองการใช้ในเด็กและเยาวชน


กำลังโหลดความคิดเห็น