เปิดประวัติ “2 ผู้ว่าฯ กระบี่-เชียงราย” ต้นตอ “ศิลปินแห่งชาติ” ตัดพ้อ! “เปลี่ยนผู้ว่าฯ ผมนี้จบเกมเลย” หลังวานนี้ ครม.เห็นตาม “มหาดไทย” สลับ ผู้ว่าฯ ภาสกร ไปกระบี่ โยกลูกหมอ “พ่อเมืองถิ่นเหนือ” กลับถิ่นเก่า เผย “พุฒิพงศ์” ศิษย์เก่าสาธิต มช. ก่อนสลับเข้าพื้นที่เชียงราย เคยนั่งเก้าอี้ รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ “ด้านความมั่นคง” - ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ แถมเคยนั่ง “นายอำเภอเชียงใหม่” ถึง 3 อำเภอ
วันนี้ (16 พ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (15 พ.ย.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและโยกย้ายข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย รวม 37 ตำแหน่ง
ล่าสุด มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยเฉพาะในส่วนของการโยกย้าย “สลับ” นายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดกระบี่
และให้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มาเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แทน
พบว่า นายภาสกร และ นายพุฒิพงศ์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง เป็น “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ในคราวโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) 28 ตำแหน่ง เมื่อการประชุม ครม. (3 ส.ค. 64)
โดยก่อนถูกสลับมานั่ง ผู้ว่าฯ กระบี่ นายภาสกร นั่งเก้าอี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เกิดเมื่อ 11 ตุลาคม 2510 ภูมิลำเนากรุงเทพมหานคร
ขณะเป็นนายอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับรางวัล “ครุฑทองคำ” จาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในปี 2558 และ ยังเคยเป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2559
ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ นั่งเก้าอี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เกิด 13 พฤศจิกายน 2506 การศึกษา จบมัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
เริ่มรับราชการ ตำแหน่งปลัดอำเภอ (จพง.ปค.3) อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เป็นนายอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ นายอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่, นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่, นายอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นนายอำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี, ผู้อำนวยการสำนัก สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง, ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง , ปลัดจังหวัดเชียงใหม่
และ 1 ต.ค. .2558 เป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ด้านความมั่นคง
โดยเฉพาะ นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ก่อตั้งวัดร่องขุ่น ได้อัดคลิปวีดีโอความยาวประมาณ 3.39 นาที วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เพื่อระบายความรู้สึก
โดยมีการแชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ นรินทร ทามาส ซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดนายเฉลิมชัย ที่โพสต์ประกอบคลิป ว่า “ปวดใจกับงานศิลปะโลก_ไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย2023 หนีไปขี่มอเตอร์ไซด์ดีกว่า”
ในคลิป นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้ขอมาพูดหน่อยแม้ปวดใจ ผู้ว่าฯ เชียงราย ถูกย้าย จะเรื่องอะไรผมไม่รู้ เรื่องการเมืองบ้าบอคอแตกอะไรผมก็ไม่รู้ แต่ว่าผู้ว่าคนนี้ เรื่องงานศิลปะนั้นสุดยอด ผมมีความคาดหวังว่าเบียนนาเล่เชียงรายจะต้องยิ่งใหญ่ งานศิลปะของโลกที่มาแสดงที่เชียงราย จะได้เงินทองเข้าจังหวัดเชียงรายเยอะ
โดยผมร่วมกับผู้ว่าฯ ลุยกันมาตั้งแต่ท่านเป็นรองผู้ว่าฯ แล้ว พอได้เป็นผู้ว่าฯ และมาเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย ผมดีใจ และโชคดีของคนเชียงรายแล้ว โชคดีของการแสดงงานเชียงรายเบียนนาเล่ เพราะคนๆ นี้รู้จักงานศิลปะดี
ผมคาดหวังมากสร้างหอศิลป์ด้วยเงินของตัวเอง 35 ล้าน เพื่อรองรับตรงนี้และก็ร่วมกันกับผู้ว่าฯ กับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งรัฐมนตรีก็เต็มที่ปลัดก็เต็มที่ ส.ส.ร. ผอ.ส.ส.ร.แม้จะเปลี่ยนจากโกวิทมาเป็นประสพก็โอเคอยู่ ผมก็ยังโอเค
“แต่พอผู้ว่าฯ เปลี่ยนเนี่ย โอ้โห ผู้ว่าฯ ย้ายโอ้ ผู้ว่าฯ ที่ย้ายมาผมไม่ทราบว่าจะมีความรู้ความสามารถในผลงานศิลปะเท่ากันไหม อาจจะยาก เพราะคนๆ นี้คือความหวังของผมและเข้าขา การทำงานกันเต็มที่”
พอมาเปลี่ยนผู้ว่าฯ จบเกมเลย งบประมาณอะไรถูกตัดไม่ว่า ตัดนุ่นตัดนี่เหลือนิดเดียว งานเชียงรายเบียนนาเล่ ทำให้ผมปวดหัวมาก ทุกอย่างจะรออาจารย์เฉลิมชัยช่วยอย่างเดียว หาเงินอาจารย์เฉลิมชัยหาเงิน แม้ไอ้ห่ากูแทบจะตายห่าอยู่แล้ว สร้างหอศิลป์รองรับ 35 ล้านนี่ออกคนเดียว หาเงินเองสร้างเอง แล้วยังจะให้กูหาเงินอีกเหรอ รัฐบาลก็ต้องส่งเงินมาตัดนุ่นตัดนี่นแทบไม่เหลือเหี้ยอะไร ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยว่า “โอ้บ้านเมืองกู เงินก็ไม่มา ช้า อืดอาด โอ้โหตัดนุ่นตัดนี่ กระบี่โคราชเขาจัดงานยังได้มากกว่าเชียงราย เชียงรายพร้อมกว่าตั้งเยอะเแยะ ตัดนุ่นตัดนี่แทบไม่เหลือห่าอะไร”
“ผมเลิก บอกได้เลย วันนี้ที่มาประกาศ คือ พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมดทั้งประเทศ คาดหวังว่า เบียนนาเล่เชียงราย จะยิ่งใหญ่ ต่างประเทศด้วยคาดหวังว่าผมเนี่ยเป็นคนจัด ต้องยิ่งใหญ่แล้วก็ได้ผู้ว่าที่เข้าขากันด้วย กระทรวงวัฒนธรรมก็เต็มที่ อัดเต็มที่ หนุนเต็มที่ แต่ว่าตอนนี้ยาก ผมยากแล้ว ผมถอดใจแล้ว”