xs
xsm
sm
md
lg

หนังชีวิตแน่ๆ เลยวิ! เมื่อศึกใน ป.ป.ช.ระเบิด “ประหยัด พวงจำปา” ทิ้งทุ่น ฮึดสู้ข้อหา “ร่ำรวยผิดปกติ” ** “พาตีเมาะ สะดียามู” หญิงมุสลิมคนแรก ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ปัตตานี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**หนังชีวิตแน่ๆ เลยวิ! เมื่อศึกใน ป.ป.ช.ระเบิด “ประหยัด พวงจำปา” ทิ้งทุ่น ฮึดสู้ข้อหา “ร่ำรวยผิดปกติ”

ที่ศาลปกครองถนนเเจ้งวัฒนะ “ประหยัด พวงจำปา” อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เพิ่งถูกคำสั่งไล่ออกจากราชการ หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช ที่มีมติว่า ร่ำรวยผิดปกติ มอบอำนาจให้ “อาทร ดำคง” ทนายความ ยื่นฟ้อง ประธาน ป.ป.ช. “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ และคณะกรรมการ” เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 ขอให้ ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 65 ที่มีคำสั่งลงโทษไล่เขาออก

งานนี้ เรียกว่า งานเข้าทั้งประธาน และบอร์ด ป.ป.ช.เมื่ออดีตคนของ ป.ป.ช.มาฟ้องกัน คงได้เห็นอะไรดีๆ แน่

“ประหยัด” ถูกชี้มูลความผิดว่า จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มูลค่ากว่า 227 ล้านบาท

ฝ่าย “ประหยัด” กางตำรากฎหมายและฟันฉับที่ต้องฟ้องเพราะเห็นว่า ตามมติการชี้มูลของบอร์ด เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายกรณี

เริ่มจาก ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งขึ้น ไม่ปรากฏว่า “ประหยัด พวงจำปา” กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ อันจะเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
โดยทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่า “ร่ำรวยผิดปกติ” นั้น เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส ซึ่งสามารถแสดงหรือพิสูจน์ถึงการได้มาซึ่งทรัพย์สินได้อย่างครบถ้วน

พูดง่ายๆ ว่า รายการทรัพย์สินต่างๆ มีทั้งในส่วนที่ถือครองแทนบุคคลอื่นเพื่อช่วยเหลือในทางธุรกิจ หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจในครอบครัว (กงสี) และเป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนที่ “ประหยัด พวงจำปา” จะเข้ารับ ตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ช.

ต่อมา ทนายของประหยัด ยังระบุว่า ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และตำแหน่งรองเลขาธิการ ที่ได้รับการแต่งตั้ง ก็ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินที่มีการชี้มูลเเต่อย่างใด

ประเด็นต่อมา กรรมการ ป.ป.ช. บางราย มีส่วนได้เสียในเรื่องที่กล่าวหา มีอคติ มีความไม่เป็นกลาง และแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อกลั่นแกล้ง

มิหนำซ้ำ มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูล มีคะแนนเสียงเท่ากัน 4 เสียง ต่อ 4 เสียง แต่ปรากฏว่า มีการชี้มูลไปในทางที่เป็นผลร้ายแก่ “ประหยัด พวงจำปา” โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

แน่นอนว่า การยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางในครั้งนี้ มีเหตุผลเพิ่มไปอีกว่า ทางหนึ่งเพื่อคุ้มครองศักดิ์ศรีของข้าราชการไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง และต้องการสร้างบรรทัดฐานในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ประหยัด ดวงจำปา
อีกทางหนึ่ง เพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมที่จะพบว่า มีหลายคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิด โดยยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของประชาชน หรือหลายคดีที่เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล แต่เมื่อมีการฟ้องร้องต่อศาล ปรากฏว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง

ว่ากันว่า หลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ถูกมองว่า โดนฝ่ายการเมืองครอบงำ ตามมาด้วยการเมืองภายใน ป.ป.ช.เอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ประหยัด ยื่นฟ้อง “วรวิทย์ สุขบุญ” เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1

ไซด์เอฟเฟกต์ของการเมืองภายใน ป.ป.ช. ยังมีประเด็นที่ว่ากันว่าเกี่ยวพันไปถึงคดีใหญ่ “ปาล์มอินโด” ด้วย หวยมันก็เลยออกมาที่ “ประหยัด” แต่ศึกภายในที่ระเบิดตูมนี้ เชื่อว่า จะยังไม่จบง่ายๆ น่าจะต้องเป็นหนังชีวิตดูกันยาวๆ เมื่อฝ่ายที่บอกว่าตัวเองถูกกระทำทิ้งทุนแบบนี้ ฮึดสู้ ความจริงจะปรากฏ ใครเป็นใครได้ “สาวไส้” แฉกันออกมาอีกหลายระลอกแน่.. ก็โปรดติดตามอย่ากระพริบตากันงานนี้

** “พาตีเมาะ สะดียามู” หญิงมุสลิมคนแรก ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ปัตตานี

ที่ประชุม ครม.เมื่อวันวาน (15 พ.ย.) “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และโยกย้ายข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย ตามที่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชงขึ้นมา รวม 37 ตำแหน่ง แบ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด 26 จังหวัด ผู้ตรวจราชการ 11 ตำแหน่ง

เมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้าย “นอกฤดู” เช่นนี้ ย่อมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ว่าเป็นการจัดทัพข้าราชการ เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง หรือไม่

พาตีเมาะ สะดียามู
ส่องดูในรายละเอียด ส่วนใหญ่เป็นรองผู้ว่าฯ ที่ได้ขึ้นมาเป็นผู้ว่าฯ และผู้ตรวจราชการฯ ในจำนวนนี้มี บุคคลที่น่าสนใจคือ “นางพาตีเมาะ สะดียามู” รองผู้ว่าฯ นราธิวาส ที่ได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ปัตตานี ...ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในแววดวงข้าราชการมหาดไทย เพราะเธอเป็น “ผู้ว่าฯหญิงมุสลิมคนแรก” ของประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ เป็นที่รับรู้กันว่า คนที่จะไปเป็นผู้ว่าฯในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อย่าง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ถ้าไม่ถูกย้ายในลักษณะ “ถูกลงโทษ” ก็เป็นพวกที่เหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียวก็เกษียณ

อย่างที่ตกเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้ว ที่ชาวปัตตานี ขึ้นป้ายไวนิลเกลื่อนเมือง แสดงความไม่พอใจ ที่ได้ผู้ว่าฯคนใหม่ เหลืออายุราชการอีกแค่ปีเดียว เพราะเป็นอย่างนี้มาหลายคนแล้ว

...“อย่าดูถูกคนปัตตานี คนปัตตานีไม่เอาผู้ว่าฯปีเดียว มหาดไทยใจดำ” หรือ “คนปัตตานีก็เสียภาษี แต่ส่งของใกล้หมดอายุมาเป็นผู้ว่าฯ ทุกปี มหาดไทยใจดำ”

ชาวบ้านบอกว่า จ.ปัตตานี มีปัญหาสะสม มีเรื่องที่ปรับปรุงอีกเยอะ จึงอยากเห็นผู้ว่าฯ ที่ลงมาสัมผัสพื้นที่ สัมผัสชาวบ้านบ้าง ถ้ามาอยู่แค่ 1 ปี ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรเลย เพราะบ้านเรามีวัฒนธรรมหลากหลาย จึงอยากให้คนที่ศึกษามาก่อน และรู้จริงเข้ามาเป็นผู้ว่าฯและควรอยู่อย่างน้อย 2 ปี ไม่ใช่มาเพื่อรอเกษียณ

ปีนี้ชาวปัตตานี ได้ “พาตีเมาะ สะดียามู” ซึ่งเป็นหญิงไทยมุสลิม มาเป็นผู้ว่าฯ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนในพื้นที่ เพราะผู้ว่าฯหญิงคนนี้ เพิ่งอายุ 57 ปี เหลืออีก 3 ปี ถึงเกษียณ

พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา
“พาตีเมาะ สะดียามู” เกิดเมื่อ 19 พ.ย. 2508 เป็นคนบ้านปีซัด หมู่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมืองฯ จ.ยะลา เริ่มต้นการศึกษาระดับประถมตอนต้น-ตอนปลายที่ ร.ร.วัดลำใหม่ และ ร.ร.พัฒนาวิทยา จ.ยะลา ก่อนเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ตอนปลาย ที่ ร.ร.พัฒนาวิทยา จ.ยะลา และ ร.ร.สาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา

เข้าศึกษาคณะวิทยาการจัดการ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.) ต่อปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาพัฒนาสังคม) สาขา การจัดการการพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่นิด้า

เริ่มบรรจุรับราชการ เมื่อปี 2536 เป็นนักการข่าวนักบริหารงานทั่วไป ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานจังหวัดระนอง แล้วก็เติบโตตามสายงาน ทั้งในสำนักงานจังหวัดยะลา และปัตตานี ก่อนจะเป็น ผอ.สำนักบริหารกลาง (อำนวยการสูง) ศูนย์อำนวยการบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตามด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง

จากนั้นก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง “รองผู้ว่าฯ พัทลุง” และไปต่อในตำแหน่ง “รองผู้ว่าฯ นราธิวาส” 4 ปีเต็ม และล่าสุดกับตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี”

จึงเป็นเรื่องน่ายินดี ที่วันนี้ชาวปัตตานี ได้ผู้ว่าฯคนใหม่ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ขณะเดียวกัน “พาตีเมาะ สะดียามู” ก็เป็นหญิงมุสลิมคนแรก ที่ได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ...เมื่อมีการประกาศแต่งตั้งเผยแพร่ออกไป ก็มีคนจำนวนมาก รวมทั้งผู้ร่วมงาน เข้าไปแสดงความยินดีกับเธอ ในช่องทางต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น