xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายตั้ม” กำหลักฐานเด็ด “ปริญญ์” สู้สุดซอย มือดีผสมโรงปล่อยแชตไลน์สยิว หวังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส? **กระแสจ่าย ส.ส.หัวละ 5-30 ล้าน โหวตล้มนายกฯ กับ “แจกกล้วย” ต่ออายุรัฐบาล อันไหนจะมาแรงกว่ากัน เมื่อถึงเวลาสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ทนายตั้ม” กำหลักฐานเด็ด “ปริญญ์” สู้สุดซอย มือดีผสมโรงปล่อยแชตไลน์สยิว หวังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส?

ช่วงนี้โลกโซเชียลฯ ระอุคุกรุ่นด้วยดรามาหลายเรื่องต่อเนื่องกัน จากคดีแตงโม มาเรื่องนักการเมืองกับการคุกคามทางเพศ ตามติดด้วยกรณีสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างพระดังกับสีกา

เรียกว่า แต่ละเรื่องแข่งกันทำเรตติ้งเรียกผู้ชมเข้ามามุงกันแน่นเลยทีเดียว

จังหวะที่ไทยมุงกำลังดรามาชุลมุนวุ่นวาย เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ไม่รู้ “มือมืด” ที่ไหนปล่อยภาพแชตไลน์ เป็นภาพเซลฟีเซ็กซี่ของหญิงสาวนั่งอยู่บนที่นอน และห่มผ้าขนหนูสีขาวโต้ตอบกับชายคนหนึ่ง โดยบทสนทนาระบุว่า “ตามไปนอนด้วยที่ร้อยเอ็ดได้มั้ยคะ” อีกฝ่ายตอบว่า “สุขสันต์วันเกิดครับ!” ขณะที่สาวตอบว่า “ของขวัญวันเกิดหนูล่ะคะ” จนกลายเป็นประเด็นที่บ้างก็เดาว่าโยงกับอดีตหลวงพี่กาโตะ หรือไม่ บ้างก็ตีความว่า โยงกับนักการเมืองดัง โดยมีเพจดังวิเคราะห์ว่า “ตั้งใจส่งภาพนี้มาให้บอกแค่ว่า บรรดาคนที่ร่วมมือออกมาแฉเตรียมตัวให้ดี เพราะอดีตนักการเมืองกำลังซุ่มรอสวนกลับ โดยการงัดหลักฐานมายืนยันว่า สาวๆ หลายคนเต็มใจอ่อย ยั่วเพศกับเขาเอง และที่เห็นในข่าวเป็นการจัดฉากดับอนาคตทางการเมือง…เห้ออ! สุดท้ายชาวเน็ตคือไม่ต้องได้พัก คนบนเรือยังไม่จบ เขื่อนก็ดันมาแตก มีท่านรองต้องให้ตามต่ออีกนะเนี๊ยะ”
พูดง่ายๆ ว่า ให้จับตาคดีนักการเมือง ระวังจะมีคดีพลิก ไม่ใช่เรื่องคุกคาม หากเป็นเรื่องยั่วยวนหรือไม่

ษิทรา เบี้ยบังเกิด
งานนี้ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่เป็นผู้ดูแลคดีที่หญิงสาวหลายรายที่ถูกอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองกระทำอนาจาร และกระทำชำเรา ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ฝรั่งเศส เห็นแล้วก็บอกว่า ไม่ทราบว่าเป็นแชตของใคร โดยได้สอบถามไปยังผู้เสียหายรายที่เปิดเผยคลิปเสียงแล้ว พบว่า ไม่ใช่แชตของผู้เสียหายรายดังกล่าว แต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่า แชตดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายรายที่เข้าแจ้งความแล้ว หรือเป็นของหญิงสาวรายอื่น รวมถึงยังไม่ทราบว่า เป็นแชตที่มีการสร้างขึ้นมา หรือเป็นแชตของผู้เสียหายจริง หากเป็นแชตของผู้เสียหายจริง ต้องพิสูจน์ว่าเกิดขึ้นก่อน หรือหลังการล่วงละเมิดทางเพศ

ถามว่า กรณีนี้เป็น “เกมการเมือง” หรือไม่ ทนายคนดัง บอกรู้แล้วว่า ขณะนี้ฝ่ายการเมืองดำเนินการอย่างไร โดยจะให้เขาปล่อยทุกอย่างให้หมดก่อน ให้ผู้เสียหายออกมา จากนั้นจึงทำการโต้กลับ เช่น การปล่อยภาพแชต หรือการให้สัมภาษณ์ แต่เขายังมีสิ่งที่เก็บเอาไว้อยู่ เพราะรู้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น หากมีการออกมาสร้างความชอบธรรมว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ก็จะได้รู้กันว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ซึ่งคิดว่า ที่มีการนำเสนอข่าวในลักษณะนี้ออกมา แสดงให้เห็นถึงการ “โต้กลับ” ทางการเมือง เพราะพรรคการเมืองเสียหายมาก และผู้ต้องหาก็เป็นระดับใหญ่ในพรรคการเมือง มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ จึงต้องการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แต่จะบอกว่า เรื่องนี้ยิ่งวิกฤตมากกว่าเดิม เพราะขณะนี้เรื่องเงียบ เนื่องจากผู้คนสนใจเรื่องอื่นๆ แล้ว หลังกลับไปประเทศไทยก็คงจะดำเนินการต่อ และยังมีหลักฐานสำคัญที่ไม่เปิดเผยออกสื่อไว้เป็นทีเด็ด โดยขณะนี้ ผู้เสียหาย 14 ราย ที่ดูแลด้านคดีความนั้นยังไม่มีใครเปลี่ยนใจแต่อย่างใด

ปริญญ์ พานิชภักดิ์
ส่วนฟากของ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ จ.เชียงใหม่ ฟังว่าเดินหน้า “สู้สุดซอย” โดยได้มอบหมายให้ “พีรนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์” ทนายความ และหัวหน้าคณะทำงานทีมกฎหมายรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร รวมถึงพยานทางนิติวิทยาที่เกี่ยวข้อง เพื่อต่อสู้คดี และฟ้องคดีกลับในข้อหาแจ้งความเท็จฯ ต่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน หรือในข้อหาหมิ่นประมาททุกคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิของตน และครอบครัวให้ถึงที่สุด

งานนี้เรื่องน่าจะว่ากันอีกยาว ก็คงต้องติดตามกันต่อไป



**กระแสจ่าย ส.ส.หัวละ 5-30 ล้าน โหวตล้มนายกฯ กับ “แจกกล้วย” ต่ออายุรัฐบาล อันไหนจะมาแรงกว่ากัน เมื่อถึงเวลาสำคัญ โหมโรงการเมืองช่วงใกล้เปิดสภา ร้อนแรงทั้งเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ..การพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ..การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 รวมทั้งเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุทางการเมือง จน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่ง หรือ ยุบสภา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เรื่อง “นายกฯสำรอง” และเสียงสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลในการโหวต ทั้งเรื่องซักฟอกและผ่านกฎหมายสำคัญในสภาจึงเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่ถูกพูดถึงกันมากในขณะนี้

สอดรับกับการเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคเล็กที่มี “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ที่นัดกินข้าวกับแกนนำฝ่ายรัฐบาล “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ แล้วจะไปพบ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เพื่อรดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ แต่ถูกเท...เรียกว่างานนี้ไม่มีแจกกล้วย

ทางกลุ่มพรรคเล็ก จึงนัดกินข้าวกับแกนนำฝ่ายค้าน โดยอ้างว่า เป็นการหารือในประเด็นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย “พิเชษฐ” บอกว่า มีข้อมูลความไม่ชอบมาพากล เรื่องประมูลโครงการท่อส่งน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้าน ทำเอานายกรัฐมนตรี ต้องสั่งกระทรวงการคลัง ให้กรมธนารักษ์เลื่อนการเซ็นสัญญากับบริษัทที่ชนะการประมูลออกไปก่อน

แน่นอน ...การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ ถูกมองว่าเป็นยุทธการ “ปั่นราคา” สร้างมูลค่าให้กับตัวเองกับงานสภาฯที่กำลังจะมาถึง

ไตรรงค์ สุวรรณคีรี - พิเชษฐ สถิรชวาล
ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นักการเมืองรุ่นเก๋า “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” สมาชิกสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปูดข้อมูลให้ฟังว่ามีความพยายามจ่ายให้ ส.ส.กลุ่มหนึ่ง คนละ 5-30 ล้านบาท เพื่อให้โหวตล้มรัฐบาล ในช่วงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ที่กำลังจะมีขึ้น ...และไม่แน่ว่าอาจจะใช้จังหวะช่วงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ที่คนส่วนใหญ่คิดไม่ถึง ในการลงมือก็เป็นได้

เมื่อบอกว่า ซื้อเพื่อโหวตล้มรัฐบาล ผู้ซื้อน่าจะอยู่ในซีกฝ่ายค้าน ส่วน ส.ส.ที่เป็นเป้าหมายน่าจะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล!!

เรื่องนี้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เห็นว่า เป็นแค่ข่าว และไม่น่าเป็นไปได้ พร้อมยืนยันว่ าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีขบวนการล้มนายกฯ เพราะต้องทำงานร่วมกัน และรับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มองการเคลื่อนไหวของพรรคเล็ก อย่างผู้คร่ำหวอดในทางการเมือง ว่า ในปีสุดท้ายของรัฐบาลก็มักจะเป็นอย่างนี้ แต่ที่ว่ามีการจ่ายค่าหัว ส.ส.หัวละ 5-30 ล้านบาท เพื่อแลกกับเสียงโหวตล้มรัฐบาล คงไม่ใช่ จะใช้เงินอะไรมากมายขนาดนั้น ตัวเลขมันไม่สอดคล้องกับสิ่งที่มันจะเป็นเหตุเป็นผล เพราะรัฐบาลมีเวลาจากวันนี้จนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือในวันที่อาจจะมีปัญหา หรือไม่มีปัญหา มันเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน เขาจะไปจ่ายอะไรตั้ง 30 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ โมเม ยืนยันว่าไม่มี

ขณะที่ “นิโรธ สุนทรเลขา” ประธานวิปรัฐบาล ก็ยืนยันว่า เสียงสนับสนุนรัฐบาลยังแน่นปึ้ก

อนุทิน ชาญวีรกูล - สมศักดิ์ เทพสุทิน
อย่างไรก็ตาม การออกมาปูดข่าวของ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” อาจจะมองว่า เป็นการดักคอไว้ล่วงหน้า หรืออาจจะเห็นความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของบรรดา ส.ส.พรรคเล็กที่เป็นเป้าหมายของฝ่ายจ้องล้มรัฐบาล หรืออาจจะเห็นความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ประชาธิปัตย์บางกลุ่ม จึงออกมาพูดเรื่องนี้
ต้องไม่ลืมว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ มีหลายกลุ่ม หลายก๊วน และที่แสดงท่าทีไม่สนับสนุนรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็มีอยู่จริง... สังเกตได้จากกรณีที่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องคดี อนาจาร กระทำชำเรา ก็มีเสียงเรียกร้องของคนในพรรคให้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ “ชวน หลีกภัย” แกนนำคนสำคัญของพรรค รวมทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาแสดงท่าทีอุ้มให้ “จุรินทร์” อยู่ต่อ
เพราะมีการมองข้ามช็อตไปว่า หาก “จุรินทร์” ออก แล้วกลุ่มที่เป็นฝ่ายตรงข้ามได้ขึ้นมาคุมพรรค อาจกระทบไปถึงความเป็นเอกภาพในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ ... เรียกว่าเสี่ยงเกินไป ที่จะปล่อยให้มีการเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์ สู้ปล่อยให้ “จุรินทร์” อยู่ต่อไปดีกว่า
ก็ต้องจับตากันต่อไปว่า เมื่อเปิดสภาใกล้วันสำคัญในการโหวต กระแสซื้อ ส.ส.หัวละ 5-30 ล้านบาท เพื่อคว่ำรัฐบาลจะยังมีอยู่หรือไม่ ...หรือพอถึงเวลานั้นจะมีข่าวแจกกล้วยเพื่อต่ออายุรัฐบาล เข้ามาแทน




กำลังโหลดความคิดเห็น