xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ขยับแรง รุกถ่วงดุล พปชร.!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประยุทธ์ จันทร์โอชา -พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เมืองไทย 360 องศา

เห็นบรรยากาศการออกตรวจราชการและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา เริ่มจากจังหวัดสงขลา และพัทลุง ท่ามกลางการต้อนรับจากชาวบ้านในลักษณะที่เรียกว่า ได้ยินเสียงกรี๊ดกันตลาดแตกเลยทีเดียวว่ากันอย่างนั้น

ขณะเดียวกัน ในภาพข่าวที่เห็นก็มีบรรดา ส.ส.ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐ ทุกจังหวัดมาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันอย่างพร้อมเพรียง แม้ว่าจะมี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลอื่น เช่น จากพรรคภูมิใจไทยที่มาด้วยก็ตาม แต่ภาพที่ปรากฏให้เห็นดังกล่าว มันสะท้อนภาพการเมืองทั้งภายในและภายนอกได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงได้เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างตามมาได้อีกด้วย

แน่นอนว่า สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องยืนยันว่า ไม่ได้มาหาเสียง เป็นเพียงมาติดตามโครงการพัฒนาหลายโครงการ ทั้งที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และโครงการอื่นๆ ขณะเดียวกัน ถือโอกาสเยี่ยมเยียนรับฟังปัญหา และแลกเปลี่ยนความรู้สึก ปัญหาความทุกข์ร้อนซึ่งกันและกันอะไรประมาณนี้ แต่ไม่ว่ามองในมุมไหนมันก็ต้องมีเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน

ที่บอกว่าต้องจับตาก็คือในการลงพื้นที่คราวนี้ นอกจากมี ส.ส.ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐมาร่วมต้อนรับอย่างพร้อมเพรียงแล้ว ยังมีการปิดห้องคุยกันอย่างใกล้ชิดนานถึง 30 นาที ถือว่าเวลาใช้ได้ทีเดียวสำหรับนายกรัฐมนตรี ที่มีคิวยาวเหยียดแบบนี้ แต่การเจียดเวลามาพบปะแบบนี้ มันก็สะท้อนภาพชัดเจนว่า นี่คือ “ฐานเสียง” ที่เป็นพลังสนับสนุนชัดเจน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากที่ผ่านมาในความเป็นจริง บรรดา ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐพวกนี้ล้วนมาจากกระแสของ “ลุงตู่” ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ภาพการเดินตลาดกิมหยง ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีชาวบ้านออกมาต้อนรับจำนวนมาก และตะโกนให้กำลังใจสู้ๆ นายกฯอยู่ต่อ และขอให้นายกฯ รักษาสุขภาพด้วย ทั้งนี้ นายกฯได้อุดหนุนขนมลอดช่อง และยังได้กล่าวให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าว่า ขอให้เข้มแข็ง ขอให้ต่อสู้ ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนยังได้เข้ามารุมล้อมขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมขอจับมือ

นายกฯ กล่าวกับประชาชน ว่า วันนี้เอาตัวและหัวใจมาฝาก ที่ผ่านมาเรารู้อยู่แล้วว่าเจอปัญหาหลายๆ อย่างด้วยกัน ทั้งโควิดและสงครามความขัดแย้งที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้พวกเราอยู่รอด คำว่าอยู่รอด คือให้มีพอกินพอใช้ไปก่อน เราต้องเร่งสร้างรายได้ให้ประเทศ เศรษฐกิจฐานรากเหมือนที่ตลาดกิมหยง เราต้องช่วยกัน ถ้าจะให้เปล่าไป ตามหลักการมันไม่ได้ ทั้งนี้อะไรที่ทำได้จะทำให้จบให้ได้ ให้สิ้นสุดให้ได้ ก็รับฟังจาก ส.ส.ของเรา ตัวแทนของพวกเรา โดยจังหวะนี้ประชาชนได้ปรบมือชอบใจ พร้อมตะโกนว่า นายกฯสู้ๆ ขณะที่ นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรค พปชร. ที่ยืนอยู่ข้างๆ นายกฯ ได้ยกมือแสดงสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ให้ประชาชน ก่อนก้าวไปข้างหน้าและโค้งตัว ไหว้ประชาชน นายกฯ จึงแซวว่า “เฮ้ย นี่มาหาเสียงหรือเปล่าวะเนี่ย” ก่อนกล่าวอีกว่า แหย่เล่น วันนี้มีความสุข นายกฯไม่มีความสุขมาหลายวันแล้ว เพราะมีหลายปัญหา มีแต่ปัญหาๆเข้ามา จึงอยากจะแก้ให้เสร็จทุกอย่าง

โดยจังหวะนี้มีชาวบ้านตะโกนว่า “ลุงหล่อมากค่ะวันนี้” นายกฯ ตอบกลับว่า “เหรอ วันนี้กลับไปไม่ทานข้าวแล้ว” พร้อมบอกอีกว่าแก่จะแย่แล้ว ขณะชาวบ้านตะโกนอีกว่ารักลุงตู่ สู้ๆ นายกฯ จึงตอบกลับไปว่า “รักจังฮู้ไหม”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองมันก็ยุ่งอยู่อย่างนี้ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ที่ดี เป็นผู้นำที่ดี เป็นเรื่องของอนาคต ก็ลองดูแล้วกันเพราะการเลือกส.ส.ก็เป็นการเลือกนายกฯ เพราะนายกฯก็มาจาก ส.ส.เลือก มีใครเกลียดนายกฯหรือยัง นายกฯ ก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน ตื่นมาไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลย คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรต่อ เช้านี้มีอะไร กลางคืนกลับไปบ้านต่อมีอะไร ตื่นมากลางดึกเห็นงานที่ค้างอยู่ก็นอนไม่หลับอีก แต่วันนี้จะนอนหลับแล้วล่ะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะนี้มี ส.ส.พูดขึ้นมาว่า ใครอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ปรบมือหน่อย ชาวบ้านจึงปรบมือเกรียวกราว นายกฯจึงกล่าวว่า เดี๋ยวพรรคอื่นตกใจ วันนี้มีพรรคร่วมรัฐบาลมาด้วยกัน พรรคภูมิใจไทยก็มา นายกฯเป็นผู้ที่กำหนดนโยบาย และเป็นผู้ที่นำโครงการแผนทั้งหมดเข้าพิจารณาใน ครม. เรื่องที่ ส.ส.เสนอขึ้นไป ไม่ว่าจะพรรคไหนเสนอเข้ามา เข้ากระทรวง ก็ต้องทำแผนงานขึ้นมาตามขั้นตอนเพื่อเสนอเข้า ครม. เพราะฉะนั้นสำคัญที่สุดคือนายกฯ นี่แหละ สำคัญรองลงมาคือ รัฐมนตรี เลือกให้ดี ขณะที่ประชาชนตะโกนขึ้นมาว่า “เลือกลุงตู่” นายกฯ จึงตอบว่า “ตกลงเลือกลุงตู่ จะไม่ให้ผมไป จะเลือกผมอยู่คนเดียวหรือ ประชาธิปไตยก็ว่าไป” พร้อมกล่าวอีกว่า แล้วใครที่ทะเลาะกันอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องตามไป บ้านเราเยอะพอแล้ว สงครามก็ฟังไว้ ดูไว้ เราต้องรักษาสมดุล

ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า สำคัญวันนี้มีคนบางคนชอบสร้างความขัดแย้ง เบาๆ ลงหน่อย บอกลูกหลานพอแล้ว เด็กรุ่นใหม่จะคิดอีกแบบ คิดแบบคอมพิวเตอร์ที่คิดเร็ว แล้วทำไม่ได้ ต้องทำให้ได้ ผสมผสานกัน ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ คนต่างประเทศอยากมาอยู่ประเทศไทยหมด อาหารอร่อย คนใจดี อากาศก็สบายๆ ลองไปอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้หนาวตาย เพราะไม่เคยอยู่ ภาษีกี่เท่า พลังงานแพง ต้องเปิดแอร์ เปิดฮีตเตอร์ แต่คนรวยๆก็ช่างเขาเถอะ อยากไปก็ไป แต่นี่คือแผ่นดินเกิดที่นี่ หากินที่นี่ ตายที่นี่ นี่คือแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของเรา

จากนั้นก็เป็นการสำทับตามหลังจาก นายชัยวุฒิ ธนคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่าการลงพื้นที่ของนายกฯครั้งนี้ มีกระแสตอบรับดี และยังระบุอีกว่า มีแผนที่จะลงพื้นที่ให้ครบทุกจังหวัดอีกด้วย

ที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันก่อนล้วนแล้วแต่เป็นการหอบหิ้วเอาเฉพาะทีมงานใกล้ชิด และมือไม้ทำงานการเมืองแทบทั้งสิ้น ไม่นับรวม ส.ส.ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึง นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่มีข่าวว่าอาจจะไปขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคสำรองในอนาคต หรือไม่

ดังนั้น หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวที่เห็นถือว่าเป็นการเริ่มเดินเครื่องทางการเมืองอย่างเต็มตัวแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นการเดินเกมรุกเข้าไป “ถ่วงดุล” ภายในพรรคพลังประชารัฐอย่างชัดเจนเหมือนกัน หลังจากได้เห็นความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นาทีนี้ก็เริ่ม “เปิดหน้า” ชัดๆ ขึ้นมาก อย่างน้อยก็เริ่มเผยท่าทีแบบ “แอบชิง” เก้าอี้นายกฯ เป็น นายกฯสำรอง หรือรอ “ส้มหล่น” อะไรประมาณนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า ในวันข้างหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องเจออีกหลายด่านหิน ที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งเรื่องกฎหมายสำคัญ ญัตติซักฟอก รวมไปถึงข้อถกเถียงเรื่องวาระ 8 ปี ในเดือนสิงหาคม ซึ่งในที่สุดแล้วก็คงต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มันถึงต้องลุ้น “ส้มหล่น” ไงล่ะ

โดยเฉพาะสองเรื่องหลัง คือ ญัตติซักฟอก เมื่อมีการยื่นญัตติและบรรจุเข้าระเบียบวาระแล้ว จะยุบสภาไม่ได้ รวมไปถึงคำวินิจฉัยเรื่องวาระนายกฯ 8 ปี ล้วนเป็นเรื่องที่หากออกมาทางลบก็ต้องลาออกสถานเดียว หมดสิทธิ์ยุบสภา เพียงแค่นี้ก็พอเห็นภาพแล้วใช่หรือเปล่า นอกเหนือจากนี้ ยังมี “ดีลลับ” หรือ “ภารกิจปริศนา” ช่วงเดินทางไปต่างประเทศ (อังกฤษ) ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ถูกสงสัยว่าไปพบกับ “โทนี่แม้ว” นายทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว แม้จะปฏิเสธ แต่ก็ดูอึมครึมพิกล เพราะเมื่อย้อนคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้ ที่เมื่อถูกถามว่า “พล.อ.ประวิตร ไปพักผ่อนต่างประเทศหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบว่า “เปล่าไม่ได้ไปพักผ่อน แต่ไปทำงาน” ... คำถามต่อก็คือ ทำงานอะไร เหมือนเจตนาสื่อสารให้คิดเอง ในทำนองตัวเองไม่ได้พูด ไม่ได้เปิดโปง ซึ่งทำให้สังคมเขม้นมองไปที่ “บิ๊กป้อม” เป็นจุดเดียว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีการอ้างว่ามีดีลแบบนี้มาแล้วในช่วง “โหวตล้มนายกฯ”

และล่าสุด พล.อ.ประวิตร ก็เพิ่งเปิดโอกาสให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และทีมงานจากพรรคเศรษฐกิจไทย เข้าพบที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ทุกอย่างเหมือนสอดคล้องกันพอดีเป๊ะ และยังพูดอีกว่าพรรคพลังประชารัฐอาจจะ “เสนอชื่อนายกฯสำรอง” ในการเลือกตั้งคราวหน้า ความหมายก็คือ ไม่ใช่ “บิ๊กตู่” คนเดียวแล้ว อีกความหมายหนึ่งก็คือเป็น “คู่ชิง” แล้ว

ถึงได้บอกว่า หลังจากนี้ ให้จับตาบทบาทและความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดี เพราะเชื่อว่าต้องมีการรุกตอบโต้ อย่างน้อยก็ต้องสร้างฐานของตัวเองไม่ให้ “ขาลอย” อย่างแน่นอน โดยต้องโฟกัสไปที่ภายในพรรคพลังประชารัฐ หากต้องการความชัวร์กว่าที่เป็นอยู่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น