ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ชะตากรรม “องครักษ์พิทักษ์ลุง” จบไม่สวยสักราย “แรมโบ้” ป้อแป้ จะเป็นคิวต่อไป ??
เมื่อ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ กลายเป็น “นางงามตกสภา” บ๊ายบาย ไม่ได้ไปต่อในเส้นทางอาชีพนักการเมือง พร้อมๆ กับปิดตำนาน ส.ส.หญิง ปะฉะดะ คอยเป็น “องครักษ์พิทักษ์ลุง” ของตัวเองไปตาม องครักษ์ฝ่ายชาย “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. ศิษย์หลวงพ่อป้อม พรรคพลังประชารัฐ เหมือนกันที่ตกสวรรค์พ้นหน้าที่ ส.ส.ไปก่อนนี้ ก็มีคำถามว่า ใครจะเป็นรายต่อไป?
งานนี้ สปอตไลต์ฉายไปที่ “แรมโบั” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เจ้าตัวประกาศตัวชัดเจนทำงานถวายหัวให้ลุง พร้อมที่จะปะฉะดะใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ลุง และรัฐบาล ว่า กำลังจะเป็นคิวต่อไปจากกรณี “คลิปเสียง” ล้อเล่น หยอกๆ กันหรือไม่
“ธีระชัย แสนแก้ว” สมาชิกพรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา “อีโต้อีสาน” อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ถึงกับออกมาทำนายว่า คิวต่อไปไม่แคล้วจะเป็น “แรมโบ้” นั่นล่ะ
กรณีนี้เป็นตัวอย่างของนักการเมืองที่อยู่รอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำนวนมาก ที่สุดท้ายก็ “โป๊ะแตก” ถือเป็นบทเรียนสำคัญให้อีกหลายๆ คน ที่ยังคิดจะใช้อำนาจ อ้างความเดือดร้อนและปัญหาของประชาชน มาเป็นประโยชน์กับตัวเอง
ขณะ “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และอดีตนักธุรกิจกลางคืนชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กถึง ชะตากรรม “องครักษ์พิทักษ์รัฐบาล” ในทำนองที่ว่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ บรรดานักการเมืองที่คุยโว โต้ตอบ ปกป้องนายไม่เว้นแต่ละวัน จนคนไทยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ชนิดที่ว่า “แม้แต่แมลงวันเกาะไหล่นาย ยังโดนด่ากราด” ทำงานได้อย่างถวายหัว สไตล์รัฐบาลนายข้า ใครอย่ากล้ามาสะเออะแตะต้องเป็นอันขาด ออกมายืนโซ้ยอยู่แถวหน้าตลอด ใครกล้ามาหือใส่นายเป็นโดนดี อวดให้นายเห็นผลงานไม่หยุดหย่อน ทั้ง “ส.ส.สิระ” ทั้ง “ส.ส.ปารีณา”
แต่ถึงวันนี้ ชะตากรรมของทั้งสองต้องหกคะเมนตีลังกาหลายตลบ สะดุดขาตัวเองล้มคะมำกลางอากาศ ส่งผลถึงฆาตขนาด “โทษประหารทางการเมือง”
“ชูวิทย์” ยังบอกด้วยว่า จะถึงคิวแรมโบ้ เพราะคลิปเสียง “ล้อเล่น” เพราะเรื่องมันเลยขยายไปกันใหญ่โต จนถึง “มือปราบสัมภเวสีในสภา” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ล้มองครักษ์พิทักษ์นายมาแล้ว 2 รายติดๆ
“ชูวิทย์” ระบุว่า ทั้ง 3 ราย ล้วนมีชะตากรรมไม่ต่างกัน ที่ตอนแรกนายคงตบมือ ชมเปาะ ลูบหัว ยกย่อง เสริมบุญญาบารมี ได้ตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาลบ้าง เป็นประธานคณะกรรมาธิการบ้าง
ถึงตอนนี้ 2 ราย... “ปารีณา-สิระ” หมดอนาคตทางการเมือง ส่วนรายล่าสุด ดูรูปมวยแล้วเริ่มหมดสภาพ ชกป้อแป้ สะเปะสะปะ เข้าขั้น “มวยข้างถนน” แถมนายไม่กล้าแบกหน้าช่วย เพราะกลัวจะลามเอาความซวยมาถึงตัว
งานนี้หวยจึงออกมาแบบ “ตัวใครตัวมันแล้วกันนะโบ้ ทำตัวเอง ช่วย บ่ ได้” เฮียชู ระบุ
นี่ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้ว “แรมโบ้” มือปราบหวยแพง ขี่มังกร ขี่เสือแดง ขย่มกองสลากพลัส จะยังแข็งแกร่งเอาตัวรอด ยืนหยัดเป็น “องครักษ์พิทักษ์ลุง” ไปได้หรือไม่
สงสารก็แต่ “ลุงตู่-ลุงป้อม” องครักษ์พิทักษ์ ต้องมีอันเป็นไปทีละคนสองคน หากแรมโบ้ไปอีกคน คงต้องจัดหา “ตัวสำรอง” รับสมัคร “ผู้กล้า” ไว้เพิ่มหลายๆ คนหน่อย หาไม่แล้วเข้าสู่ช่วงมรสุมเปิดสภา เดือนหน้า ไม่เหลือใครคอยพิทักษ์รักษาจะแย่เอานะจ๊ะ!
** “ปารีณา” ครวญ ตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว ...
ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย ไม่มีปาฏิหาริย์ สำหรับ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ต้องกลายเป็นอดีต ส.ส.แบบถาวร ไม่มีวันได้หวนกลับมาอีก เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. พร้อมตัดสิทธิตลอดชีวิตในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น อีกทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน
เรียกได้ว่าถูกลงโทษหนัก เป็นการประหารชีวิตทางการเมืองกันเลยทีเดียว!!
แม้จะทำใจมาก่อน แต่เมื่อรับรู้ถึงโทษที่ตนเองได้รับ “ปารีณา” ถึงกับครวญว่า... ตอนนี้ ตัวชา กำลังทำใจอย่างเดียว ไม่ต้องทำพื้นที่แล้ว เพราะเหมือนคนตกงาน100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว...
“ปารีณา” ทายาทตระกูลการเมืองของราชบุรี เมืองโอ่งมังกร เป็นบุตรสาวของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส. 7 สมัย ...เมื่อ ทวี ผู้เป็นพ่อวางมือทางการเมือง “เอ๋ ปารีณา” ก็ลงสนามเลือกตั้งแทน ถึงวันนี้ก็เป็น ส.ส.มาแล้ว 4 สมัย โดยลงเลือกตั้งครั้งแรก ปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย จากนั้นในการเลือกตั้งปี 2550 ได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย, เลือกตั้งปี 2554 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา และครั้งล่าสุดเลือกตั้งปี 2562 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ
แม้จะเป็น ส.ส.มาหลายสมัย แต่ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่จดจำของคอการเมืองเท่าใดนัก กระทั่งครั้งล่าสุดที่ “เอ๋” สวมบทองครักษ์พิทักษ์ 2 ลุง คือ “ลุงป้อม กับลุงตู่” แบบว่าใครแตะลุง เป็นเจอปะฉะดะ ไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหม ชื่อ เอ๋ ปารีณา จึงปรากฏ
คู่กัดคนแรกที่ทำให้ “เอ๋ ปารีณา” เริ่มเป็นที่รู้จัก ก็คือ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงนั้น “ปารีณา” ได้ ไลฟ์เฟซบุ๊ก แล้วพูดคำว่า “อีช่อ” ขึ้นมา ซึ่งคนที่ได้ยินได้ฟังก็เห็นหน้า “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช ลอยมาทันที แต่ “เอ๋” บอกว่า “อีช่อ” เป็นภาษาถิ่นของคนราชบุรี หมายถึง คนที่ไม่รักษากฎระเบียบ... “เอ๋” ว่ามาอย่างนี้ คนราชบุรียังงง ว่ามีด้วยหรือ
จากนั้นก็เป็นไม่เบื่อไม้เมากับ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ... คนหนึ่งจองเวร “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกคนเป็นองครักษ์ลุงตู่ ...โดยเฉพาะเมื่อ “ปารีณา” จับคู่กับ “สิระ เจนจาคะ” ก็ทำเอาที่ประชุม กมธ. ป.ป.ช.ป่วนอยู่เนืองๆ
กับ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภา “ปารีณา” ก็เคยลองชิมลางมาแล้ว แต่ถูกกรีดกลับเลือดซิบๆ ... เหตุเกิดระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย “เสี่ยโจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายนายกรัฐมนตรี แล้วไม่เรียกนายกรัฐมนตรี ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” แต่เรียกว่า “คุณประยุทธ์” ซึ่งปารีณา ไม่ยอม อ้างเป็นการเรียกที่ไม่สุภาพ จึงขอให้ “ชวน หลีกภัย” ประธานในที่ประชุม วินิจฉัย ซึ่งท่านประธานชวน ให้ใช้คำว่า คุณประยุทธ์ได้ เพราะไม่ใช่คำไม่สุภาพ... “ปารีณา” จึงลุกขึ้นประท้วง พร้อมตั้งคำถามเชิงปรียบเปรยว่า “ถ้าเรียกว่า คุณชวน หลีกภัย ท่านประธานฯ จะวินิจฉัยอย่างไร... เลยเจอเจ้าของฉายา “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” กรีดกลับว่า...“ถ้าไม่เรียกไอ้..ก็ใช้ได้นะครับ” พร้อมกับย้ำอีกครั้งว่า คำว่า คุณประยุทธ์ ไม่ใช่คำหยาบ....
สำหรับกับ ส.ส.ก้าวไกล และบรรดาแกนนำม็อบสามนิ้ว ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ต่างโดนกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “เจี๊ยบ นครปฐม” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ... “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “ไมค์ ระยอง” ภาณุพงศ์ จาดนอก ที่ไปชี้แจง กมธ.ป.ป.ช. แล้วชี้หน้า “ปารีณา” ทำให้ ปารีณาพูดขึ้นว่า “อย่าชี้หน้า..ที่นี่ไม่ใช่ม็อบ” ส่วน “เพนกวิน” ก็สวนไปทันควันว่า ...“ที่นี่ก็ไม่ใช่เล้าไก่” ซึ่ง “ปารีณา” ไม่ยอมเสียเชิงอยู่แล้ว เลยโต้กลับไปว่า “เคยเลี้ยงไก่..แต่ไม่ชอบเลี้ยงหมู” ...
เมื่อ “ปารีณา” ถูกร้องเรียนเรื่องรุกป่า อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม กระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิด พร้อมยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัย ซึ่งศาลรับเรื่องไว้พิจารณา พร้อมสั่งให้ “ปารีณา” สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 64 โดยในวันที่ 24 มี.ค. 64 หรือ 1 วันก่อนที่ศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. “ปารีณา” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เหมือนรู้ชะตากรรมว่า... “ราตรีสวัสดิ์ ปารีณาพลังประชารัฐ # ปารีณาพักก่อน”
และในที่สุด วันที่ 7 เม.ย. 65 ศาลได้มีคำพิพากษาตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต ปิดฉากเส้นทางการเมืองของ “เอ๋ ปารีณา” ไปอย่างถาวร