นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า“ชะตากรรม “องครักษ์พิทักษ์รัฐบาล”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
บรรดานักการเมืองที่คุยโว โต้ตอบ ปกป้องนายไม่เว้นแต่ละวัน จนคนไทยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
ชนิดที่ว่า “แม้แต่แมลงวันเกาะไหล่นาย ยังโดนด่ากราด” ทำงานได้อย่างถวายหัว สไตล์รัฐบาลนายข้า ใครอย่ากล้ามาสะเออะแตะต้องเป็นอันขาด
ออกมายืนโซ้ยอยู่แถวหน้าตลอด ใครกล้ามาหือใส่นายเป็นโดนดี อวดให้นายเห็นผลงานไม่หยุดหย่อน ทั้ง ส.ส.สิระ ทั้ง ส.ส.ปารีณา
แต่ถึงวันนี้ ชะตากรรมของทั้งสองต้องหกคะเมนตีลังกาหลายตลบ สะดุดขาตัวเองล้มคะมำกลางอากาศ ส่งผลถึงฆาตขนาด “โทษประหารทางการเมือง”
สิระ กระเด็นหลุดออกจากเก้าอี้ ส.ส. เพราะขาดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต และจะโดนโทษคดีอาญาจำคุก 1-10 ปี เพราะรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีสิทธ์ ยังมาสมัคร
ปารีณา กระดอนจากเก้าอี้ ส.ส. โดนตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี แถมห้ามยุ่งเกี่ยวงานการเมืองอีกตลอดชีวิต เพราะไปรุกป่าสงวน ผิดจริยธรรม ส.ส. อย่างร้ายแรง
และล่าสุด ถึงคิวนายแรมโบ้ เพราะคลิปเสียง “ล้อเล่น” เรื่องเงินหาเสียงบ้าง เงินยืมบ้าง
เบ๊อะบ๊ะ เฟอะฟะ อ้าปากให้สัมภาษณ์ เออะเออะ อะอะ หน้าเบ้ ขมวดคิ้วหน้าผากแคบ งงงวยเหมือนโดนของ หลุดปากว่า “ใครๆ เขาก็พูดล้อเล่นกันทั้งนั้น”
แค่ “คุยเล่นกันอย่างพี่น้อง” แต่คนฟังไม่ได้ฟังเป็นเรื่องล้อเล่นด้วย
เรื่องมันเลยขยายไปกันใหญ่โตจนถึง “มือปราบสัมภเวสีในสภา” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ล้มองครักษ์พิทักษ์นายมาแล้ว 2 รายติดๆ
หากรวมแรมโบ้ด้วย ทั้ง 3 รายล้วนมีชะตากรรมไม่ต่างกัน ที่ตอนแรกนายคงตบมือชมเปาะ ลูบหัว ยกย่อง เสริมบุญญาบารมี ได้ตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาลบ้าง เป็นประธานคณะกรรมาธิการบ้าง
ถึงตอนนี้ 2 รายแรกหมดอนาคตทางการเมือง
ส่วนรายล่าสุด ดูรูปมวยแล้วเริ่มหมดสภาพ ชกป้อแป้สะเปะสะปะ เข้าขั้น “มวยข้างถนน”
แถมนายไม่กล้าแบกหน้าช่วย เพราะกลัวจะลามเอาความซวยมาถึงตัว
งานนี้หวยจึงออกมาแบบ “ตัวใครตัวมันแล้วกันนะโบ้ เสือกทำตัวเอง ช่วย บ่ ได้”
มีเสียงส่งไล่หลังกระซิบบอกนายทันทีว่า
“ผมบอกนายแล้วว่าอย่าเอาคนอย่างนี้มาเป็น องครักษ์พิทักษ์นาย”
เรื่องหวยนะโบ้ คนไทยเวลาเสีย โดนเจ้ามือแดก เขาไม่ล้อเล่นนะครับ”