“ส.ว.สมชาย” เผย เป็นสิทธิของแม่แตงโมยื่นขอให้ กมธ.ถอนเรื่องการตรวจสอบคดี บ่าย 2 วันนี้ ส่วนจะมีอะไรแปลกๆ หรือไม่ ไม่ทราบ ยอมรัยยังงงๆ อยู่ ยืนยัน กมธ.ทุกคนมีวุฒิภาวะและเป็นนักกฎหมายมีหน้าที่ดำเนินการต่อ ไม่เช่นนั้นสังคมจะไม่มีหลักในเรื่องความยุติธรรม ย้ำไม่เคยแทรกแซงตำรวจ เพราะไม่ใช่ ผบ.ตร.
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานตณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ จะเดินทางมายื่นให้ กมธ. ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโมว่า ตนได้รับทราบจากสื่อมวลชนว่านางภนิดาจะมายื่นเรื่องในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ ซึ่งการนำเรื่องออกจาก กมธ.ก็ต้องดำเนินการไปตามระบบเช่นเดียวกับขั้นตอนการมายื่นเรื่องที่ก่อนหน้านี้ที่นางภนิดามีหนังสือมอบอำนาจให้นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์ อดีตทนายความเป็นตัวแทนมายื่นเรื่อง เพื่อขอคำปรึกษาและความเป็นธรรมในการชันสูตรศพแตงโม และการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ในคดี ซึ่งการที่ กมธ.พิจารณารับเรื่องไว้ก็ยึด 2 สาเหตุหลัก คือ 1. มีผู้เดือดร้อนเป็นคดีอาชญากรรม 2. เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นต่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ คาดว่า การพิจารณาถอนเรื่องจะเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคล ส่วนเรื่องประโยชน์สาธารณะทาง กมธ.จะพิจารณาว่าจะทำงานอย่างไรต่อไป ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ เพื่อตอบข้อสงสัยในการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ส่วนรายละเอียดจะทำในรูปแบบใดต้องรอในการประชุม กมธ.ในสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่า มีอะไรแปลกๆ หรือไม่ที่อยู่ดีๆ ก็มีการขอถอนเรื่อง นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ คงเหมือนกับที่สังคมก็ยังงงอยู่ ซึ่งขอไม่ก้าวล่วง เป็นสิทธิของนางภนิดาที่จะยื่นถอนเรื่องออก ยืนยันว่ากมธ.ทุกคนเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ และเป็นนักกฎหมายมีหน้าที่ของตัวเองในการดำเนินการต่อ ไม่เช่นนั้นสังคมจะไม่มีหลักในเรื่องความยุติธรรมที่สังคมถามหา และประชาชนที่ต้องการรับรู้ข่าวสาร สิทธิ์ของคดีที่ต้องตรงไปตรงมา
“คนๆ เดียวเมื่อเสียชีวิตก็เป็นคดีอาญาแผ่นดินอยู่แล้ว แต่ถ้ายังกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็เป็นหน้าที่ของ ส.ส. และ ส.ว.อย่างถูกต้อง ในฐานะ กมธ. ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงการทำงานแต่เป็นการติดตามการทำงานในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการฝ่ายประจำซึ่งเป็นหน้าที่หลักตามกรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามว่า ถูกมอง กมธ.แทรกแซงการทำหน้าที่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีการแทรกแซง สามารถตรวจสอบได้ ยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้สั่งการใคร แต่เป็นการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยการพูดคุย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มีการรับเรื่องก็ต้องตรวจสอบและสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีที่มีข้อเสนอแนะให้เข้าเครื่องจับเท็จ ตนพูดมาตลอดว่าเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อมีเหตุสงสัยเพื่อให้สิ้นกระแสความจึงเป็นข้อเสนออย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่การสั่งตำรวจ เพราะตนไม่ใช่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากไม่ทำก็เรื่องของท่าน รวมถึงวันที่ไปสภ.นนทบุรีก็เพื่อขอดูเรือลำเกิดเหตุเท่านั้นว่าพยานแวดล้อมมีความจริงใกล้เคียงมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ กมธ.ได้เข้าใจสถานการณ์ และการลงพื้นที่ก็มีเพียงแต่ซักถาม
นายสมชาย กล่าวย้ำว่า การมาขอถอนเรื่องออกไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของ กมธ. แต่เป็นหน้าที่ของทุก กมธ.อยู่แล้วที่จะตรวจสอบ ยืนยันว่า ไม่ได้หิวแสง ไม่ได้ไปแสวงหา แต่ที่ผ่านมานางภนิดามายื่นเรื่องเอง รวมถึงเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และบทบาทหลายคนที่เป็น กมธ.ชุดนี้ก็ทำเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องกังวลถึงการทำหน้าที่ของ กมธ.ว่าจะไปกระทบต่อรูปคดี เพราะความจริงเรื่องคดีควรจะคลี่คลาย และขอให้ร่วมมือกันทุกหน่วยงานทำงานด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม และถูกต้อง เราอยากเห็นตำรวจเป็นที่พึ่ง เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน