xs
xsm
sm
md
lg

“หมอพรทิพย์” ห่วงแม่แตงโมฟังจากคนอื่นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยัน กมธ.เดินหน้าตรวจสอบต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอพรทิพย์” ชี้ ตำรวจไม่เข้าใจหน้าที่ กมธ. วุฒิสภา ยืนยันไม่ได้ก้าวก่ายคดี “แตงโม” ไม่เคยขอดูวัตถุพยาน ห่วงแม่ไม่ได้รับรู้เอง ฟังจากคนอื่น แล้วถูกดึงเรื่อง ปู้ยี่ปู้ยำ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ย้ำ  กมธ.จะทำหน้าที่ต่อ เพราะเป็นเรื่องของระบบ ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ กมธ.ยิ่งสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ จะเดินทางมายื่นให้ กมธ. ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม ว่า สาเหตุที่นางภนิดามายื่นให้ถอนเรื่อง ตนคิดว่าเป้าประสงค์หลักคงไม่ใช่ กมธ. แต่เป็นตนเองมากกว่า เพราะนางภนิดาคงไม่ต้องการให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวในคดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่า กมธ.เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำคดี ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่เข้าใจบทบาททำงานของ กมธ.เนื่องจากเรื่องนี้ กมธ.สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะกระทบสิทธิของประชาชน
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในคดี เรายังไม่เคยขอดูวัตถุพยาน เพียงแต่ขอเข้าไปดูเรือลำเกิดเหตุเท่านั้น เนื่องจากพบข้อมูลหลายกระแส และ กมธ.เพียงแต่ให้คำแนะนำเรื่องของการเก็บรักษาหลักฐานวัตถุพยาน ไม่ให้โดนเปลี่ยนแปลงโดยสภาพอากาศ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าก้าวก่าย
ส่วนคำแนะนำของ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานกมธ.ที่ให้นำทั้ง 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเป็นอย่างอื่น เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นทำให้เราเห็นภาพใหญ่ของการปฏิรูปว่าจุดใดต้องปฏิรูป ซึ่งส่วนตัวเข้าใจนางภนิดา แต่ก็ห่วงแตงโม ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต เหมือนถูกปู้ยี่ปู้ยำ ดึงเรื่องไปมา แทนที่จะมุ่งให้เกิดความจริงกระจ่าง อย่างไรก็ตาม กมธ.จะยังคงเดินหน้าทำเรื่องนี้ต่อไป เพราะที่ทำตั้งแต่ต้น ก็ไม่ได้ทำเพราะนางภนิดาเป็นคนร้องขอ แต่เนื่องจากตอนแรกนางภนิดาต้องการให้ตนเข้าไปดูเรื่องของการชันสูตรศพ แต่ตนมองว่าควรจะเป็นเรื่องของระบบ กมธ.ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล จึงเข้าไปทำหน้าที่ในนาม กมธ. และยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ กมธ.ยิ่งสนใจว่า เกิดอะไรขึ้น
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวห่วงนางภนิดาที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยตนเอง ฟังผ่านหูจากคำบอกเล่าของคนอื่น ซึ่งหากเป็นแบบนี้สังคมถือว่าอันตราย เพราะหากฟังคนอื่น ไม่ได้รับรู้ด้วยตัวเอง แต่ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบนี้น่าห่วง กมธ.อยากให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา แต่ที่ผ่านมาทำเท่าไหร่นางภนิดาก็ไม่ยอมมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก แตกต่างจากเรื่องทั่วไป อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ได้ห่วงว่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่ทำให้นางภนิดามาถอนเรื่องออกจาก กมธ.เพียงแต่ห่วงใยแตงโมผู้เสียชีวิต เมื่อปรับเปลี่ยนตามกระแสสังคมสุดท้ายที่สุดไม่มีใครปฏิเสธความจริงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น