นายกฯ อ่านสารเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 เชิญชวนทุกภาคส่วนตระหนักถึงการอนุรักษ์น้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ร่วมกันลดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน ให้ไทยบรรลุวัตถุประสงค์ “ทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติ
วันนี้ (22 มี.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อเวลา 11.57 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อ่านสารเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 เผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสื่อออนไลน์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำคัญของ “น้ำ” ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ตระหนักถึงปัญหาทั้งการขาดแคลนน้ำ และการแย่งชิงทรัพยากรน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงได้กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เป็นวันน้ำโลก เพื่อให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า โดยในปี 2565 นี้ ได้กำหนดหัวข้อ “ร่วมรู้จัก อนุรักษ์ น้ำใต้ดิน” เพื่อให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการรักษาดูแลทรัพยากรน้ำใต้ดิน โดยเฉพาะการเจริญเติบโตขึ้นของเมือง และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ ล้วนก่อให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำที่ไหลกลับลงสู่ใต้ดิน รวมไปถึงวิกฤตภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณน้ำใต้ดินมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการรุกตัวของน้ำเค็มในหลายพื้นที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้น้ำใต้ดินที่ถือเป็นขุมทรัพย์น้ำจืดขนาดใหญ่มีคุณภาพต่ำลง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน โดยได้ดำเนินการเติมน้ำใต้ดินตามหลักวิชาการมาโดยตลอด ตั้งแต่การฟื้นฟูป่าอันเป็นต้นทางสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ระบบนิเวศ การเติมน้ำใต้ดินผ่านแหล่งน้ำต่างๆ และมีการติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม บรรเทาอุทกภัย และการใช้ประโยชน์ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง พร้อมกันนี้ยังได้ปลูกจิตสำนึกให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า เนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 รัฐบาลจึงขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์น้ำ โดยการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และร่วมกันลดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย “ทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติ และเพื่อประโยชน์สูงสุด คือการรักษาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อลูกหลานของเราในอนาคตสืบไป
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เป็นวันน้ำโลก (World Water Day) เพื่อกระตุ้นให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้สัปดาห์ที่ตรงกับวันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เป็นสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ