พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในโอกาส วันน้ำโลก ประจำปี 2565 โดยองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันน้ำโลก สืบเนื่องมาจากตระหนักถึงปัญหาน้ำ การขาดแคลนน้ำ และการแย่งชิงทรัพยากรน้ำ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า โดยในปี 2565 ได้กำหนดให้หัวข้อ “ร่วมรู้จัก อนุรักษ์น้ำใต้ดิน” เพื่อให้ทุกประเทศได้ให้ความสำคัญกับการรักษาดูแลทรัพยากรใต้ดิน
ทั้งนี้ จากการเจริญเติบโตขึ้นของเมือง และความก้าวหน้าทางเทคโลยีด้านต่างๆ ด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ล้วนก่อให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำที่ไหลกลับสู่ใต้ดิน ประกอบกับวิกฤตภัยแล้ว ทำให้ปริมาณน้ำใต้ดินมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการรุกตัวของน้ำเค็ม ในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ส่งผลใฟ้น้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นขุมทรัพย์น้ำจืดขนาดใหญ่มีคุณภาพต่ำ
ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญ กับการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน โดยได้ดำเนินการเติมน้ำใต้ดินตามหลักวิชาการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การฟื้นฟูป่า อันเป็นต้นทางสำคัญรักษาความชุมชื้นให้แก่ระบบนิเวศ การเติมน้ำใต้ดินตามแหล่งน้ำต่างๆ และการติดตามประเมินผล อย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติ ลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม บรรเทาอุทักภัย และใช้ประโยชน์ในช่วงวิกฤตภัยแล้ว และได้ปลูกจิตสำนึกทำให้ชาวไทยทุกคน ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์
รัฐบาลชวนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงการอนุรักษ์น้ำ โดยใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และช่วยกันลดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน เพื่อให้ประเทศไทย บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย “ทศวรรษแก่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการอนุรักษ์น้ำที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติ และเพื่อประโยชน์สูงสุด คือ การรักษาทรัพยากรน้ำเพื่อลูกหลานในอนาคต