น่าคิด! “อุ๊งอิ๊ง” “นายกฯ พท.” สืบทอดอำนาจหรือเปล่าจ๊ะ “ไพศาล” ชี้ ดาวรุ่งมาแรง “ซินแสเข่ง” “บิ๊กตู่” มีดวงหนุน

“อัษฎางค์” ตีปลาหน้าไซ! “อุ๊งอิ๊ง” โผล่แคนดิเดต “นายกฯ” สืบทอดอำนาจหรือเปล่าจ๊ะ “ไพศาล” ยก 5 ข้อ พท.เปิดตัว “ดาวรุ่งดวงใหม่” จับตา “ชัยชนะ-ปราชัย” อยู่ที่จัดตั้ง “ซินแสเข่ง” ทำนาย “บิ๊กตู่” ปีสมพงษ์ดวงเกื้อหนุน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (21 มี.ค.) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า


“สืบทอดอำนาจหรือเปล่าจ๊ะ!
พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม”

ชื่อโครงการก็สื่อออกมาชัดเจนแล้วว่า “หัวใจเดิม”
โดยการประกาศตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”

หัวหน้าครอบครัวซึ่งมีอำนาจและบารมีเหนือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ

พรรคเพื่อไทยหรือเพื่อใคร

ทั้งเขาและเรารู้กันอย่างดีทั้งประเทศ

เรามาไล่เรียงอดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทย สู่พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ดูหน่อยมั้ย

ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร) ล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร ว่าที่แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย

แบบนี้ไม่เรียกว่า “สืบทอดอำนาจ” แล้วจะให้เรียกว่าอะไรจ๊ะ”

ขณะเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความระบุว่า

“ดาวรุ่งทางการเมืองดวงใหม่ปรากฏแล้ว

“เมื่อแนวทางการเมืองถูกต้องแล้ว ชัยชนะและปราชัยจะชี้ขาดด้วยกำลังจัดตั้ง” (เหมาเจ๋อตุง)

1. ถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถฟื้นมวลชนจัดตั้ง 14 ล้านคนได้ จะเป็นหลักประกันชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า!!! จับตาดูว่า คุณภูมิธรรม คุณชานนท์ และ โกส่วน จะสามารถฟื้นคืนคณะกรรมการจัดตั้ง ที่เคยมีมาแต่ก่อนได้หรือไม่? กระแสนิยมพรรคเพื่อไทย กำลังขึ้นสู่กระแสสูง ถ้ากระบวนการจัดตั้งเสริมทันท่วงที สิ่งที่เรียกว่าแลนด์สไลด์ก็จะปรากฏขึ้น!!!!

2. การเปิดตัว คุณอุ๊งอิ๊ง ทำให้กระแสพรรคเพื่อไทย แรง และมีพลังมากขึ้น เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะชู คุณอุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง กระแสเยาวชนคนรุ่นใหม่จะไหลพลิกกลับมาที่พรรคเพื่อไทย เพราะถึงอย่างไรคนไทยก็เป็นไทย ที่มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน ไม่มีวันที่จะให้เขา “สวมปลอกคอเป็นหมาฝรั่ง” สำหรับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย แม้ผักตบชวาหรือขอนไม้ลอยมาก็ต้องคว้าเอาฉันใด สภาพที่รัฐราชการล้างผลาญชาติ ไร้อนาคต และสิ้นหวังเช่นนี้ ย่อมเป็นสภาพที่คนไทยไม่มีทางเลือก!!!

3. ที่น่าสังเกต คือ การปรับสี หรือธีมของพรรคเป็นสีแดง อันเป็นปูมพระอาทิตย์ เป็นสมพงศ์กับคุณอุ๊งอิ๊ง เสียดายที่ยังขาดสีสำคัญที่จะทำให้ธีมสมบูรณ์ จึงต้องรับผลแห่งความขาดนี้ต่อไป! การเลือกเปิดตัวอุ๊งอิ๊งปราศรัยครั้งแรกที่อุดรธานี ซึ่งเป็นปูมพระอาทิตย์เช่นเดียวกัน แสดงว่าพรรคเพื่อไทยมีโหราจารย์ประจำพรรคที่ไม่ธรรมดา

อุ๊งอิ๊งปราศรัยในเวลาไม่กี่นาที ได้สร้างประกายความหวังขึ้นทั่วทั้งภาคอีสาน ทำให้นึกถึงภาพเส้นทางการขึ้นสู่อำนาจของอินทิราคานธี!!! และต้องนึกถึงนายกรัฐมนตรีสาวสวยที่มีอายุน้อยที่สุดของนิวซีแลนด์ ที่มีฝีมือเก่งกล้าและโด่งดัง ในขณะนี้

4.ต้องยอมรับว่า เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ที่คุณอุ๊งอิ๊งปราศรัยนั้น มีความแจ่มชัดถึงความมุ่งมั่นในชัยชนะเพื่อจัดตั้งรัฐบาลขึ้น

ที่สำคัญคือ แนวทางกอบกู้ฟื้นฟูประเทศชาติ และการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน อันสะท้อนถึงการเตรียมตัวเตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้ว และสะท้อนถึงการดำรงอยู่ของนักคิดนักยุทธศาสตร์ ที่ช่วยคิดอ่านวางแผนเรื่องนี้ ซึ่งประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด

ประกายไฟแห่งความหวัง บังเกิดขึ้นแล้วในภาคอีสาน และจะลามทุ่งไปทั่วทั้งประเทศ จะต้องคอยจับตาดูจังหวะก้าวที่ 2 ในพื้นที่อื่นต่อไป

5. ค่ายกล ส.ว. 250 คนนั้น เมื่อสถานการณ์ก้าวไปถึงจุดหนึ่งก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการสรรหานายกรัฐมนตรี

สถานการณ์ในขณะนี้ ฝ่ายหนึ่ง กำลังแก้ปัญหา ส.ส.พรรคเล็กและการสืบทอดอำนาจ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง กำลังประสบความสำเร็จในการขยายงานมวลชน การเลือกตั้งครั้งหน้าประเด็นชี้ขาดการตัดสินใจของประชาชน คือ จะเลือกกลุ่มพรรคการเมืองที่สนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไปหรือไม่? ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองจากพื้นฐานการตัดสินใจเรื่องนี้!!!

ผมว่าไปตามเนื้อผ้าอย่างนี้แหละ ติ่งลุงอย่ามาโกรธหรือด่าว่ากันเลย!!!

พึงปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเถิดว่า

คนเราตราบใดที่ยังมีผู้เตือน

ย่อมเป็นผู้มีลาภอันประเสริฐ

ที่เทพยดาท่านจะทำนุบำรุงให้เป็นไป”

ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน “ซินแสเข่ง” อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ผ่าดวงวิกฤตผู้นำรัฐบาล ครบรอบอายุปีเกิด พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อายุ 68/69 ปี ไตรมาสที่สอง ปี 2565 ปีขาล ธาตุน้ำ เมื่อดาวราหูเคลื่อนย้ายจากกุมดวงชะตา ปัญหาจากการถูกกลั่นแกล้งเบียดบัง และประกอบกับ ดาวเกต ดาวแห่งการเสริมโชคดวงชะตา เลขศักดิ์สิทธิ์ อำนวยความสำเร็จ เสริมดวงชะตาให้อำนาจวาสนา และบารมีทำให้ได้บริวารเพิ่ม ถือว่าเป็นดาวบุญฤทธิ์ ให้มีกำลังเป็นสองเท่า แต่ก็ถือว่ายังมีดาวแห่งอุปสรรคที่ยังคอยรังควาญ อยู่ด้วยรอบอายุ ที่ทำให้มีเรื่องของความขัดแย้งจากบุคคลรอบข้าง ทำให้มีเรื่องให้หงุดหงิดใจ ไม่สบายใจ และอาจไม่ได้ดั่งใจที่คาดหวัง ระวังเรื่องปัญหาทะเลาะเบาะแว้งให้เกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ในดวงชะตา จึงถือว่า เป็นช่วงจังหวะที่มีเหตุทั้งดีและร้าย หรืออย่างที่เรียกว่า ยังคงเป็นทุกขลาภ หากควบคุมอารมณ์ให้ใจเย็นลงได้ เหตุภัยต่างๆ ก็จะมลายหายไป

ซินแสเข่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากท่านบิ๊กตู่ใช้จังหวะนี้สร้างทั้งพระเดชพระคุณ ก็จะได้ใจจากบริวารดั่งที่คาดหวัง หากใช้พระเดชอย่างเดียว อาจทำให้บริวารแตกแยกได้ เพราะถือว่าเป็นช่วงจังหวะโอกาสน้ำขึ้นต้องรีบตัก โอกาสมาถึงต้องรีบโกย อย่างน้อยก็จะได้กำลังหนุนอย่างมหาศาล และอาจแก้ปัญหาถึงเหตุการณ์ความรุนแรงให้ลดลงได้ (ขอบคุณข้อมูลจากแนวหน้า)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ คู่ต่อสู้ในการเลือกตั้งสมัยหน้า (ถ้าบิ๊กตู่จะเล่นการเมืองต่อ) ของ “บิ๊กตู่” อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” ดาวรุ่งดวงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย แถมยังเป็น “ทายาท” หัวแก้วหัวแหวน (ลูกสาวคนเล็ก) ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่า ไม่ธรรมดา

แม้วันนี้จะยังแค่เห็นแววทางการเมือง ยังไม่ถึงขั้นน่ากลัว แต่ที่ประมาทไม่ได้ ก็คือ มี “ทักษิณ” หนุนหลัง และพร้อมดึงทุกสรรพกำลังออกมาช่วย มีพรรคเพื่อไทย ที่แม้ว่าเวลานี้จะดูกระแสตกลงกว่าก่อนหน้านี้ หรือเทียบไม่ได้กับ พรรคพลังประชาชน และ ไทยรักไทย ที่เลือกตั้งทุกครั้งนอนมาก็ตาม

แต่อย่าลืมว่า นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของ “ทักษิณ” ที่ต้องการให้ “อุ๊งอิ๊ง” พากลับบ้าน ไม่ว่าจะด้วยกลเกมอะไร? และการลงทุนครั้งใหญ่ทางการเมืองที่ต้องการให้มีทายาท “นายกรัฐมนตรี” ของตระกูลชินวัตร อีกคน ด้วยเหตุนี้ “ทักษิณ” จึงฝันเอาไว้สูง แต่ความจริงจะเป็นเช่นไร ต้องติดตาม

อย่างไรก็ตาม สำหรับ “บิ๊กตู่” สิ่งที่ท้าทายที่สุดเช่นกัน ก็คือ การเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ที่อยู่ในตำแหน่งมา 8 ปี มีผลงานอะไรให้คนไทยประทับใจหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะนโยบายประชานิยมที่โปรยหว่านงบประมาณจำนวนมหาศาล มีผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่

รวมทั้งกระแสการเมืองที่ยังคงเชี่ยวกราก ระหว่างการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” การต่อสู้เรียกร้องของ “คนรุนใหม่” เพื่อ “ปฏิรูปสถาบันฯ” การช่วงชิงอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเล็ก ล้วนสร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชน และนับวันจะมีผลกระทบอย่างสูงกับรัฐบาล “บิ๊กตู่” คือ ความเสียเปรียบและกลายเป็น “จุดอ่อน” แทนที่จะได้เปรียบ และเป็น “จุดแข็ง” ในฐานะรัฐบาล

สุดท้าย ไม่แปลกที่การเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” ทายาท “ทักษิณ” สังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นคู่ต่อกร จะทำให้กระแส “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีสมัยหน้า อะไรก็เกิดขึ้นได้ และไม่แน่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือ “บิ๊กตู่” จะได้ไปต่ออีกสมัย?

เหนืออื่นใด ตัวแปรสำคัญอีกอย่าง อยู่ที่ว่า คนไทยลืมวีรกรรมที่ “ทักษิณ” ทำเอาไว้ จนเป็นเหตุให้หนีโทษและคดีไปอยู่ต่างประเทศยาวนานจนถึงวันนี้หรือยัง ทั้งจะมีผลต่อทายาททางการเมืองที่แทบจะพูดได้ว่า ถ่ายทอดพันธุกรรมกันมาทุกอย่าง หรือไม่เท่านั้นเอง