จับตา! กมธ.กม.ลูก พรรคการเมือง ปลดล็อก ส.ว.-ตุลาการ-องค์กรอิสระ ตั้งพรรคสมัครสมาชิกได้

จับตา 17 มี.ค. กมธ. ถกกฎหมายลูกพรรคการเมือง ปลดล็อก ส.ว.-ตุลาการ-องค์กรอิสระ เป็นริเริ่มก่อตั้งพรรคและสมัครสมาชิกพรรคได้

วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 มี.ค. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะมีการพิจารณาวาระร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีประเด็นที่น่าจับตามองคือการกำหนดคุณสมบัติผู้จัดตั้งพรรคการเมืองและสมาชิกพรรค ที่รัฐสภารับหลักการ มีร่างของ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ และคณะที่เสนอประกบ โดยให้ตัดข้อกำหนดลักษณะต้องห้ามในมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญปี 60 และแก้ไข โดยให้บุคคลซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองในแนวทางเดียวกัน และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ (1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ในกรณีเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี (2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ (3) ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) (3) และ (4) ของรัฐธรรมนูญ และ (4) ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นหรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 11 หรือผู้แจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 18 จำนวนไม่น้อยกว่าห้าร้อยคนอาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขดังกล่าวจะส่งผลให้การกำหนดบุคคลต้องห้ามในการก่อตั้งพรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมือง ที่สำคัญ ถูกตัดออกไป อาทิ คดียาเสพติดให้โทษ คดีล้มละลายหรือเคยล้มละลาย คดีทุจริต เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ผู้ที่อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้ง ผู้ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ผู้ที่เคยได้รับโทษจําคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี ผู้เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการเคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกเพราะกระทําความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ทุจริตเลือกตั้ง

“ที่น่าสนใจคือ ผู้ที่เป็น ส.ว.หรือเคยเป็น ส.ว.และสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกินสองปี เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุตามมาตรา 144 หรือมาตรา 235 วรรคสาม”

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะ กมธ. กล่าวว่า ที่ประชุมกมธ.มีการตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย นายสมชาย แสวงการ นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ นายอนันต์ และตน พิจารณาประเด็นนี้ และสรุปความเห็นปรับแก้ไขจากเนื้อหาที่เสนอ แต่ยังคงความสำคัญ คือ การรวมตัวเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง ให้คงอายุที่ 20 ปี เพราะมองว่าการเป็นผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองจะมีประเด็นเกี่ยวกับการเงิน ทุนประเดิม ซึ่งต้องใช้เกณฑ์อายุ 20 ปี ที่ถือว่าบรรลุนิติภาวะ

ส่วนคุณสมบัติที่ร่างเสนอให้ตัดมาตรา 98 นั้น คณะทำงานเห็นว่าควรปรับ ให้การกำหนดคุณสมบัติตามมาตรา 98 บางประการ คงไว้ อาทิ เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย อยู่ระหว่างถูกระงับใช้สทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดต่อตำแหน่งราชการ ทำผิดกฎหมาเกี่ยวกับทรัพ์ ยาเสพติด ค้ามนุษย์

“คณะทำงานมองว่าการแก้ไขลักษณะของผู้จะจดจัดตั้งพรรคการเมืองนั้น ควรลดคุณสมบัติที่ใช้เกณฑ์บุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรี และ ส.ส. ลง เช่นเดียวกับการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทั้งนี้ คณะทำงานจะเสนอผลการพิจารณาดังกล่าวให้ที่ประชุมกมธ. พิจารณาอีกครั้ง ในวันที่ 17 มีนาคม นี้” นายนิกร กล่าว