“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ตอน “เพื่อไทย” หมกเม็ด สกัดทาง “ยุบพรรค-เลือดไหล”
ความคืบหน้าจัดทำกฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่รัฐสภาได้นัดประชุมในวาระที่ 1 เพื่อลงมติ “รับหลักการ” วันที่ 24 - 25 ก.พ.นี้
จากนั้นในช่วงปิดสมัยประชุม “กรรมาธิการสามัญ” จะทำหน้าที่พิจาณาให้แล้วเสร็จ และเมื่อเปิดสมัยประชุมช่วงเดือน พ.ค.นี้ ก็จะนำมาพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป
ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบนิ่ง แต่กลับมีความเคลื่อนไหวอย่างมี “นัยยะ” เกิดขึ้น
หลังร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับพรรคเพื่อไทย ได้เสนอแก้ มาตรา 28 มาตรา 29 ก็ถูกมองว่า “เปิดช่อง” ให้ “คนนอก” เข้ามาแทรกแซงพรรค โดยฝั่งพรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงว่าเป็นลักษณะการ “ให้คำปรึกษา” เท่านั้น ไม่มีอำนาจ “ตัดสินใจ” ใดๆ โดยการ “บริหารจัดการ” ยังคงเป็นเรื่องภายในของพรรค
จึงต้องกำหนดขึ้นมาให้มี “กรอบชัดเจน” ไม่กว้างขวางจนเกินไป เพื่อป้องกันถูกใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง ที่มีโทษถึงขั้น “ยุบพรรค” ด้วย หากมีการส่งเรื่องให้ศาล รธน. พิจารณา เพราะมาตรา 28-29 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ผูกโยงกับ รธน. มาตรา 45 ที่พูดถึง “ความอิสระ” ในการจัดตั้งพรรคการเมือง
.
ซึ่งกรณีการ “เปิดช่อง” ครั้งนี้ หนีไม่พ้นถูกโยงไปยัง “ผู้มีบารมีนอกพรรค” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่มักมีข่าวว่าพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ที่ปรากฏเด่นชัด คือ กรณี “ทักษิณ” วิดีโอคอลในงานวันเกิดของ “เกรียง กัลป์ตินันท์” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อ ต.ค.64
ที่พูดถึงแนวทาง “แลนด์สไลน์” พูดปราม ส.ส. ที่คิดจะออกจากพรรค ต้องเอาตังค์ไปคืน รวมทั้งในคลิปมีการชงชื่อ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ด้วย จนถูกร้องว่าอาจจะเข้าข่ายมาตรา 28 และ 29 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ฉบับปัจจุบันหรือไม่
ฝั่งรัฐบาลมีความชัดเจนที่จะโหวตผ่านร่างฉบับ “พรรคร่วมรัฐบาล” และใช้ฉบับที่เสนอโดยนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น ทั้งนี้ “นิโรธ สุนทรเลขา” ประธานวิปรัฐบาล ได้ออกมาพูดดักคอว่า
“พรรคเพื่อไทย ทำอะไรรู้อยู่นะ รู้นะจะทำอะไร หากเป็นสมาชิกพรรคก็หมดเรื่อง จะสามารถเสนอแนะอะไรได้ทั้งนั้น ถ้าไปแก้ไขก็จะทำให้กฎหมายบิดเบี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด อย่างนั้นทำไม่ได้ เพราะกฎหมายเดิมเขาดีอยู่แล้ว"
ส่วนท่าทีของ “สมาชิกวุฒิสภา” ระดับตัวจี๊ดก็ชัดเจนขู่ “คว่ำ” ร่างฉบับพรรคเพื่อไทย โดย “กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” มองว่า เป็นการเปิดช่องให้คนนอกแทรกแซงครอบงำพรรคได้ เป็นการฉวยโอกาสลักไก่ เพื่อผลประโยชน์คนนอกถือว่าน่าเกลียด อาจขัดกับ รธน. ที่เขียนกลไกป้องกันการแทรกแซงครอบงำจากคนภายนอก ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงก็เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ไม่คิดเคารพกติกากฎหมาย
ด้าน “เสรี สุวรรณภานนท์” ระบุว่า ร่างขอบพรรคเพื่อไทย ดูแล้วไปไกลเกินไป แม้จะอ้างว่า การขอคำปรึกษาหารือ ไม่เข้าข่ายครอบงำ ฟังแล้วไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร เพราะถึงอย่างไรก็เปิดช่องให้ “คนนอก-นอมินี-นายทุน” แทรกแซงชักใยอยู่เบื้องหลังได้ การอ้างเหตุผลขอแก้ไขว่าป้องกันการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่ามีการกลั่นแกล้งจริงหรือไม่
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของพรรคเพื่อไทย สะท้อนขึ้นมาหลัง “คลิปลับ” ที่ถ่ายในงานวันเกิด “เกรียง กัลป์ตินันท์” ถูกเผยแพร่
สัญญาณที่เห็นได้ชัดและถูกพูดถึงในวงการเมือง คือ ทำให้ไม่มีใครอยากขึ้นมาเป็น “กรรมการบริหารพรรค” เพราะเกรงจะโดนหางเลข “ตัดสิทธิการเมือง” ได้ หากพรรคมีอันเป็นไปในอนาคต จึงทำให้ กก.บห.เพื่อไทย ชุดปัจจุบัน มีแต่ “คนรุ่นใหม่” ขึ้นมาจำนวนมาก รวมทั้งการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคของ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ด้วย
.
อีกสัญญาณ คือ บรรดา “บ้านใหญ่” ที่อยู่พรคคขั้วรัฐบาล ไม่ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย รวมทั้งข่าวพรรคกำลังจะ “เลือดไหล” มี ส.ส. ลาออก ทำให้ “ทักษิณ” ออกอาการระหว่างจัดคลัปเฮ้าส์เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ออกมาแฉว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน โดนวัคซีนไล่ฉีดกันเป็นแถว 30 ล้าน 20 ล้าน เตรียมย้ายพรรค วันก่อนมี ส.ส.เพื่อไทย ไปร่วมประชุมกับพรรคฝ่ายรัฐบาลอยู่ ตนได้ยินมาและรู้ชื่อด้วย ว่าจ่ายคนละ 2 แสนบาทต่อรายเดือน เอาเงินที่ไหนมา
สิ่งเหล่านี้สะท้อนปัญหาของพรรคเพื่อไทย ที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเห็นแผล และยิ่งสะท้อนว่า “เพื่อไทย” ไม่สามารถสลัดตัวเองทิ้งจาก “ทักษิณ” ได้ ถูกตอกย้ำยิ่งขึ้นไปอีก หลังเสนอแก้มาตรา 28-29 ของร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ฉบับพรรคเพื่อไทย
ทำให้พอเห็น “สัญญาณการเมือง” ในอนาคตได้บ้างว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้