ส.ว.เล็งพร้อมใจให้ กม.ลูกผ่านเฉพาะร่าง ครม. ระบุของ พท.หาช่องให้คนนอกแทรกแซง ครอบงำพรรคการเมือง ชี้ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น ย้ำ ถ้า กม.ลูกไม่เสร็จ ก็เลือกตั้งไม่ได้
วันนี้ (22 ก.พ.) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 24 ก.พ. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ส่วนตัวจะให้ร่างทั้ง 2 ฉบับผ่านเฉพาะร่างที่เสนอมาจาก ครม.เท่านั้น แต่ร่างที่เสนอโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หรือ ส.ส.ฝ่ายค้าน จะไม่ให้ผ่านสักฉบับ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับพรรคเพื่อไทย จะไม่ให้ผ่านแน่นอน เพราะไปแก้ไขมาตรา 28-29 เปิดช่องให้คนนอกแทรกแซงครอบงำพรรคได้ เป็นการฉวยโอกาสลักไก่ เพื่อผลประโยชน์คนนอก ถือว่าน่าเกลียด อาจขัดกับรัฐธรรมนูญที่เขียนกลไกป้องกันการแทรกแซงครอบงำจากคนภายนอก ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การรับขอฟังคำปรึกษา หารือจากคนนอก ไม่ถือเป็นการครอบงำ ถ้าการให้คำปรึกษาเป็นเพียงการเสนอแนะ แต่อำนาจการตัดสินใจยังคงอยู่กับพรรคนั้น เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ไม่คิดเคารพกติกากฎหมาย
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่า ส.ว.จะรับหลักการร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ ในส่วนของฝ่ายใดบ้าง แต่ส่วนตัวแนวโน้มจะให้ผ่านเฉพาะร่างที่เสนอโดย ครม.เท่านั้น ร่างที่เสนอจากส่วนอื่นๆ คงไม่ให้ผ่าน เพราะมองแล้วร่างที่เสนอโดย ครม.มีความครอบคลุม เป็นกลางมากที่สุด แต่ร่างที่เสนอโดย ส.ส.ทำเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง ไม่ได้ช่วยให้เกิดการพัฒนาการเมือง อย่างร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ของพรรคเพื่อไทย มีการเปิดช่องให้คนนอกมาแทรกแซงพรรคการเมืองได้ ดูแล้วไปไกลเกินไป แม้จะอ้างว่า การขอคำปรึกษาหารือ ไม่เข้าข่ายครอบงำ ฟังแล้วไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร เพราะถึงอย่างไรก็เปิดช่องให้คนนอก นอมินี นายทุนแทรกแซงชักใยอยู่เบื้องหลังได้ การอ้างเหตุผลขอแก้ไขว่าป้องกันการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่ามีการกลั่นแกล้งจริงหรือไม่ การพิจารณาแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับ ต้องทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีโอกาสยุบสภาได้ตลอดเวลา เพราะมีปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลมาก ถ้ากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ไม่เสร็จก็เลือกตั้งไม่ได้ ถ้ายุบสภาขณะที่กฎหมายลูกไม่เสร็จ ยิ่งยุ่งกันใหญ่