“รอง ปธ.วิปรัฐ” เย้ย “หมอชลน่าน” ยังไม่ทิ้งบท “ดาวสภา” ชี้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ต้องเข้มเจาะประเด็นซักความเสียหาย-แนะนำรัฐบาล ชม “บิ๊กตู่” เตรียมข้อมูลชัดเจนดีมาก เอาไป 90 คะแนน แนะจับตาวาทะเด็ด “ยันไร้โกง” จุดเปลี่ยนสำคัญ คาดซักฟอกวันสุดท้ายร้อนแรง เผย “วิป 3 ฝ่าย” นัดคุยเคาะถก กม.ลูก 2 ฉบับ
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.15 น. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 วันแรก เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ยังอภิปรายในบทบาทของดาวสภา ซึ่งในความเป็นจริงผู้นำฝ่ายค้านควรจะพูดถึงความเสียหาย ในการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อซักถาม หรือเสนอแนะคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ประเด็นภาพรวมก็ค่อนข้างครอบคลุมทั้งหมด ส่วนการชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทำได้ดีมาก มีการเตรียมข้อมูลและควบคุมประเด็นอย่างชัดเจน ถ้าประเมินแล้วได้ร้อยละ 90
“ในการอภิปรายรอบนี้ยังแฝงวาทะเด็ดที่มีความสำคัญจะต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะประเด็นการทุจริต ซึ่งนายกฯ ที่ยืนยันว่าจะไม่มีทางทุจริตเด็ดขาด ตรงนี้ถือเป็นจุดชี้อนาคตที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีวาทะที่พูดถึงกันมาก คือ การเมืองไม่ใช่รามเกียรติ์ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องแผลงศรอะไร แต่เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นภาพตัวละครในการทำหน้าที่ในการรักษาระบอบประชาธิปไตย โดยยึดประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก” นายชินวรณ์ กล่าว
รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า ส่วนบรรดารัฐมนตรีก็ตอบได้เป็นที่พอใจ เข้าใจว่า บรรยากาศการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในวันที่ 2 บรรยากาศจะร้อนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเป็นการอภิปรายการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวและการทุจริตคอร์รัปชัน ตนมั่นใจว่า รัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ในทุกประเด็น ส่วนรัฐบาลจะมอบเวลาให้รัฐมนตรีได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมฝ่ายค้านที่ได้ร่วมมือการเคารพกติกาที่ได้ตกลงกันทำให้บรรยากาศในการอภิปรายในครั้งนี้เป็นบรรยากาศที่ดีมาก คาดว่า เราจะได้รับความร่วมมือต่อไป โดยเฉพาะในการประชุมสภา เพื่อพิจารณาญัตติที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วทั้งหมด 7 ญัตติ และมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเข้าสภา แล้วในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ซึ่งได้มีการหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้กฎหมายดังกล่าวผ่านสภา ในวาระรับหลักการไปก่อน ส่วนการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ว่า และพรรคการเมืองนั้น ในช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.พ.) ประธานสภา จะนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดแบ่งกรอบเวลาในการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา แต่ส่วนตัวตนคิดว่ากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทางวิปรัฐบาล เห็นว่า จะใช้ร่างของ ครม.เป็นร่างหลัก ส่วนกฎหมายลูกพรรคการเมือง จะใช้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นร่างหลัก แล้วใช้คณะกรรมาธิการชุดเดียวกัน 49 คน เพื่อพิจารณาร่วมกันต่อไป แต่ยังมีบางประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน เชื่อว่า ยังมีการหารือในชั้น กมธ.ต่อไป และการพิจารณากฎหมายในสัปดาห์หน้าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
