รายงานพิเศษ - เจาะเหตุ “ค่ายพลังประชารัฐ” ไม่ส่งผู้ว่าฯกทม. ทั้งที่ถือดีกรีแชมป์เมืองหลวง ผู้สมัครเยอะแล้วแค่ข้ออ้าง จริงๆไร้ตัวเลือกที่ดีพอ หรือคิดลึกๆ อาจจงใจหลบให้ “อัศวิน” ที่มี “พรรคธรรมนัส” หนุนอยู่
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)
ตามที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์หลังการประชุมพรรคเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยจะส่งเฉพาะผู้สมัครในส่วนของสมาชิกสภากกรุงเทพมหานคร (ส.ก.)
“ผู้สมัครฯผู้ว่ามีหลายคนแล้ว จะได้ไม่ต้องไปแย่งกัน” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าไว้
ขณะที่ “ส.ส.ตู่”จักรพันธ์ พรนิมิตร ประธานภาค กทม.ของพรรคคนปัจจุบัน ก็ออกมาขยายความว่า พรรคการเมืองใหญ่ เคยไม่ส่งผู้ว่าฯกทม.มาแล้ว ดังนั้นที่พรรคพปชร.ตัดสินใจไม่ส่งผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรค เป็นวิธีคิดและยุทธศาสตร์ของพรรค และเห็นว่าการทำงานของผู้สมัคร ส.ก.50 เขต ที่จะส่งในนามพรรค สามารถทำงานเชื่อมโยงกับพรรคได้เป็นอย่างดี
หากย้อนประวัติศาสตร์การเมืองก็เป็นไปตามที่ “จักรพันธ์” กล่าวอ้างจริง แต่ถึงไม่ส่งในนามพรรค ก็มักจะมีความชัดเจนว่า สนับสนุนผู้สมัครรายใด
และมีสถิติว่าผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หากลงในนามอิสระ จะได้รับการยอมรับจากคนกรุงมากกว่า
เช่นครั้งนี้ที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร ก็เพราะให้การสนับสนุน “เสี่ยทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ประกาศลงสมัครในนามอิสระ
ต่างจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูจะไม่มีใครในใจ หลังจากที่เคยมีแนวโน้มว่าจะสนับสนุน “บิ๊กแป๊ะ” จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ที่เคยประกาศลงสมัครในนามอิสระ แต่ได้ถอนตัวไปแล้ว ขณะที่ “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่แนวโน้มว่าจะลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ ก็สวมคอนเวิร์สเดินคนละทาง ไปตั้งแต่รู้ว่า ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของพรรคพลังประชารัฐแล้ว
รวมทั้งมีข่าวว่า ก่อนที่ “เสี่ยจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล จะประกาศลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. และจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ ก็ได้รับการทาบทามจาก “บิ๊กพลังประชารัฐ” แต่ก็ได้ปฏิเสธไป
หรือกระทั่งความพยายามทาบทาม “ผู้ว่าฯหนึ่ง” ณรงศักดิ์ โอสภานนท์ ผู้ว่าฯปทุมธานี ให้ลาออกจากราชการมาสมัคร แต่ก็ถูกปัดอย่างไร้เยื่อใย หรือรายของ “มาดามอาย” อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย อดีตเลขานุการผู้ว่าฯกทม. สมัย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น
สุดท้าย “ค่ายหลวงพ่อป้อม” ก็เข้าอิหรอบ “ไร้ตัวเลือก” ที่ดีพอจะส่งไปเป็นคู่แข่ง “ชัชชาติ” ที่มีคะแนนนิยมผ่านผลโพลไปไกลแล้ว
ทั้งที่พรรคพลังประชารัฐมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของแชมป์ที่นั่ง ส.ส.กทม. เมื่อการเลือกตั้งต้นปี 2562 ที่คว้ามาได้ถึง 12 จาก 30 ที่นั่ง และได้รับคะแนนเสียงเกือบ 8 แสนแต้มใน กทม.
การตัดสินใจของพรรคพลังประชารัฐภายใต้บัญชาของ “หัวหน้าป้อม” ก็ดูจะสอดรับกับความเคลื่อนของอดีตคนกันเองอย่าง “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาฯพรรค ที่กำลังไปสร้างดาวดวงใหม่ที่พรรคเศรษฐกิจไทย
เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา “ธรรมนัส” ก็เพิ่งยกพลไปที่ถิ่นเก่า “ชุมชนคลองเตย” จัดอีเวนท์มอบถุงน้ำใจให้กับชาวบ้าน 500 ครอบครัว ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเดิมสมัยอยู่พรรคพลังประชารัฐ “ผู้กองคนดัง” ก็มักเลือกมาจัดกิจกรรมที่คลองเตย ซึ่งเป็นฐานธุรกิจ อยู่เป็นประจำ
ที่น่าสนใจคือการออกอีเวนท์หนนี้ มีกลุ่ม “รักษ์กรุงเทพ” นำโดย “เฮียต่าย” สุชัย พงษ์เพียรชอบ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศตัวเป็นเลขาธิการกลุ่มรักษ์กรุงเทพ มาร่วมด้วย
แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “ธรรมนัส-สุชัย” เกิดระหองระแหงกันไปช่วงหนึ่ง แต่เมื่อมีภาพออกงานร่วมกัน ก็เชื่อว่ากลับมาจูนกันติดแล้ว
โดยมีหมุดหมายในการทำการเมืองสนาม กทม.ร่วมกัน โดยเฉพาะศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. ที่ชัดเจนว่า กลุ่มรักษ์กรุงเทพ สนับสนุน “ผู้ว่าฯอัศวิน” ในการลงสมัครเลือกตั้งรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.
ในเชิงบัญญัติไตรยางค์ ก็อาจพูดได้ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยของ “ธรรมนัส” สนับสนุน “ผู้ว่าฯอัศวิน” เช่นกัน ย้อนไปสมัยที่ “ผู้กองมนัส” ยังเป็นเลขาฯพลังประชารัฐ ก็เคยสนับสนุนให้การสนับสนุน “อัศวิน” ที่จะลงสมัครในนามอิสระอย่างออกหน้า จนว่ากันว่าเป็นเหตุให้ “จักรทิพย์” ตัดสินใจขอถอนตัวไป
จึงมีคำถามว่า การที่ “ค่ายหลวงพ่อป้อม” ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ทั้งที่พกดีกรีแชมป์เมืองหลวง อาจเป็นเพราะจงใน “หลบ” ให้ “พรรคธรรมนัส” ที่สนับสนุน “อัศวิน” หรือเปล่า.