เมืองไทย 360 องศา
ก่อนจะว่ากันในรายละเอียด ก็ต้องพิจารณาจากผลสำรวจล่าสุดของ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “อยากได้ใคร เป็นผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 11” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28 ก.พ.– 2 มี.ค.65
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯกทม. พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.01 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อันดับ 2 ร้อยละ 13.40 ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 3 ร้อยละ 11.73 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อันดับ 4 ร้อยละ 8.83 ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) อันดับ 5 ร้อยละ 8.61 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคประชาธิปัตย์)
อันดับ 6 ร้อยละ 5.56 ไปลงคะแนน ไม่เลือกใคร (Vote NO) อันดับ 7 ร้อยละ 4.27 ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย อันดับ 8 ร้อยละ 3.73 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อันดับ 9 ร้อยละ 1.83 จะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อันดับ 10 ร้อยละ 1.29 ผู้สมัครจากพรรค พลังประชารัฐ และ ร้อยละ 2.74 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ นายสกลธี ภัททิยกุล ,ผู้สมัครจากพรรคกล้า, ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย, ผู้สมัครจากพรรคไทยภักดี และดร.ประยูร ครองยศ (พรรคไทยศรีวิไลย์)
ดูจากผลสำรวจดังกล่าวแล้ว นาทีนี้หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครภายในวันสองวันนี้หรือ ภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า ก็เชื่อว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ประกาศว่าเป็นผู้สมัครอิสระ จะต้องชนะการเลือกตั้งค่อนข้างแน่
แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อการเลือกตั้งยังต้องรออีกหลายเดือน แม้ว่าล่าสุดทางคณะรัฐมนตรีมีมติ “ไฟเขียว” ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และนายกเมืองพัทยาออกมาแล้ว และขั้นตอนต่อไปก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะกำหนดวันรับสมัคร และวันเลือกตั้งตามมา ซึ่งก็คงเป็นไปตามไทม์ไลน์ ที่รับรู้กันแล้วก็คือ ภายในเดือนพ.ค. คร่าวๆ มีการระบุออกมาว่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 22 หรือ 29 พ.ค.
เมื่อการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค. นั่นก็หมายความว่า ยังมีเวลาอีกกว่าสองเดือน ทุกอย่างก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และคนที่ชนะการเลือกตั้งก็อาจไม่ใช่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็เป็นไปได้เหมือนกัน เพราะบางครั้งอะไรที่ว่าแน่ มันก็ไม่แน่ มีการพลิกผันแค่ชั่วข้ามคืนก็มี แต่เอาเป็นว่าเวลานี้ถือว่านายชัชชาติ มีภาษีดีกว่าใครก็แล้วกัน
ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบและปัจจัยที่มีอยู่ที่ทำให้ นายชัชชาติ มีความโดดเด่นในเวลานี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่มีคู่แข่งที่แท้จริง หรือ “คู่แข่ง” บางคนยังไม่มีการเปิดตัวชัดเจน มีแต่การคาดหมายกันในวงการเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการในทางสาธารณะ เช่น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. คนปัจจุบัน ที่ยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะลงสมัครหรือไม่ แม้ว่าเชื่อว่า“น่าจะลงแน่” ก็ตาม แต่เมื่อยังไม่ประกาศมันก็ยังไม่ชัวร์
แต่ถึงอย่างไรมาถึงขั้นนี้แล้วมันก็เป็นไฟต์บังคับให้ต้องประกาศ เพราะเมื่อ กกต.ประกาศวันรับสมัคร และวันเลือกตั้ง เขาในฐานะผู้ว่าฯกทม. ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และหากต้องการลงสมัคร ก็ต้องลาออกก่อนตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ซึ่งอีกไม่นานก็จะรู้ แต่มั่นใจว่า “ลงแน่”
อย่างไรก็ดี พล.ต.ท.อัศวิน เมื่อพิจารณาจากอันดับความนิยมตามผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ที่ออกมา เขาก็มาอันดับสอง แม้ว่าจะตามอันดับหนึ่ง คือ นายชัชชาติ แบบห่างมากก็ตาม แต่เมื่อสำรวจทั้งสองสามรอบที่ผ่านมา คะแนนก็ไม่ได้ลดลงมาก บางครั้ง เช่น ครั้งที่แล้วคะแนนความนิยมก็เพิ่มขึ้นมา ก่อนจะลดลงเล็กน้อยในคราวนี้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ที่ผ่านมา พล.ต.ท.อัศวิน ยังไม่ได้ประกาศตัว เพียงแต่สื่อและวงในคาดการณ์กันว่าน่าจะลงสมัคร เนื่องจากมีการวางเครือข่าย เช่น มีทีมผู้สมัคร ส.ก.ในชื่อกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ ที่เริ่มเปิดตัวไปบ้างแล้ว ซึ่ง กลุ่มผู้สมัคร ส.ก.นี่แหละจะเป็นตัวขับเคลื่อนของเขาตามชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และเมื่อถึงวันประกาศตัว ก็น่าจะทำให้เกิดความชัดเจน และไม่แน่ว่าคะแนนนิยมอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ก็เป็นไปได้
ถัดมา ก็คือ นายสกลธี ภัทธิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง และประกาศเปิดตัวลงสมัครผู้ว่าฯพร้อมกับแถลงนโยบายในวันที่ 17 มีนาคมนี้ คนนี้ก็ถือว่าน่าจับตาเหมือนกัน หากมีการเปิดตัวชัดเจน เพราะเชื่อว่ามีฐานะเสียงในกรุงเทพฯ ไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งฐานเสียงของตัวเอง ทั้งในฐานะอดีตรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ที่ต้องเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า และยังเคยเป็นอดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร มาก่อน อีกทั้งด้วยแบ็กกราวด์ที่เคยเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส. มาก่อน ก็ย่อมต้องมีมวลชนรองรับอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
และจากการประกาศหลังการลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. นายสกลธี ที่ระบุว่า มีส.ส.กรุงเทพฯหลายคนให้การสนับสนุน นั่นก็หมายความว่า ฐานเสียงของเขาก็ไม่เบาเหมือนกัน ประกอบกับด้วยบุคลิกที่เป็นคนหนุ่ม คนรุ่นใหม่ หากมีการเคลื่อนไหวในฐานะผู้สมัคร ก็น่าจับตาเหมือนกัน
แต่ที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง และถูกตั้งคำถามก็คือ ทำไม รายของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดตัวมานานนับเดือนแล้ว แต่ผลการสำรวจทุกครั้งคะแนนนิยมกลับลดลงทุกที และมีแนวโน้มลดลงแรงเสียด้วย ครั้งล่าสุดตกลงอยู่อันดับห้า ตามหลัง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เสียอีก ทั้งที่ด้วยชื่อชั้น แบ็กกราวด์ส่วนตัว รวมไปถึงฐานเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทำไมความนิยมตามผลสำรวจถึงไม่เปรี้ยงปร้างดังคาด ซึ่งเชื่อว่าเจ้าตัวก็น่าจะแปลกใจเหมือนกัน หากมองตามรูปการณ์แล้ว สำหรับว่าที่ผู้สมัครรายนี้น่าจะ “นิ่ง” แบบนี้ไปตลอดหรือเปล่า
ดังนั้น หากโฟกัสว่าที่ผู้สมัครในเวลานี้ ก็ต้องถือว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ระบุว่าเป็นผู้สมัครอิสระ ยังยืนหนึ่งนำโด่งจากผลสำรวจทุกครั้ง แต่นั่นยังสรุปไม่ชัด เพราะหลายคนยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และยังไม่ได้ออกสตาร์ท ก็ยังเอาแน่นอนไม่ได้ แต่เมื่อเริ่มออกตัวพร้อมกัน แล้วที่น่าสนใจก็คือ ทั้ง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง นายสกลธี ภัทธิยกุล จะไล่กวดทันหรือไม่ เพราะสองรายหลังนี้ เชื่อว่ามีฐานแน่นไม่เบาเหมือนกัน และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ เอาใจช่วยอยู่แล้ว มันก็ทำให้สนุกมากขึ้นแน่นอน !!