การบินไทย แจงยิบเกณฑ์ทำคะแนนนักบินเรียงลำดับไว้เป็นกลุ่ม เพื่อทยอยกลับเข้ามาปฏิบัติการบิน ชี้ มีระบบและยุติธรรม
วันนี้ (15 ม.ค.) ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการบริหารจัดการอัตรากำลัง ค่าตอบแทน และการประเมินนักบินของบริษัท นั้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า จากปี 2562 ก่อนฟื้นฟูกิจการ บริษัทมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 29,500 คน เป็นนักบินประมาณ 1,400 คน หลังจากปรับโครงสร้างองค์กรแล้ว บริษัทมีจำนวนพนักงานเหลือทั้งสิ้น 14,700 คน ซึ่งจากการคาดการณ์บริษัทมีความต้องการใช้นักบินเพียง 350 คนในช่วงแรก แต่บริษัทได้เก็บนักบินไว้ 900 คน เนื่องจากนักบินเป็นบุคลากรที่ใช้ระยะเวลาและต้นทุนในการฝึกสูงมาก กลุ่มนักบินจึงขอกระจายรายได้เพื่อให้อยู่ในงบประมาณเท่ากับการจ้างนักบิน 350 คน โดยฝ่ายปฏิบัติการ ได้กำหนดเกณฑ์ทำคะแนนนักบินเรียงลำดับไว้เป็นกลุ่ม 1-5 เพื่อทยอยกลับเข้ามาปฏิบัติการบิน โดยกลุ่มที่ได้บินก่อนจะได้รับเงินเดือน 60% กลุ่มที่ยังไม่เข้าปฏิบัติการบินได้รับเงินเดือน 30% ทั้งนี้ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหาร และทีมบริหารนักบิน ดูแลนักบินให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ในระหว่างที่จำนวนเที่ยวบินยังมีปริมาณน้อย โดยในเดือนมกราคม 2565 กลุ่มที่ 1 และ 2 เดิมจะรับเงินเดือนเพิ่มจาก 60% เป็น 80% แต่สมัครใจปรับลดเป็น 60% กลุ่ม 3, 4 และ 5 เดิมรับเงินเดือน 30-35% ปรับเพิ่มเป็น 50% เพื่อกระจายรายได้จากค่าตอบแทนในเที่ยวบิน (PPB) นั้นกระจายสู่นักบินอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ บางหน่วยงานยังคงมีความจำเป็นที่ต้องใช้พนักงานจำนวนมากกว่าอัตราที่ได้รับในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ จึงรับพนักงานกลับมาทำงานชั่วคราวเป็นระยะเวลาหนึ่ง รวมแล้วประมาณ 650 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่องค์กรใหม่ รวมถึงนักบิน และลูกเรือ โดยนักบินเป็นกลุ่มพนักงานที่มีคุณภาพ จบการศึกษาหลากหลาย จึงได้สมัครลงมาทำงานภาคพื้น (ไม่ได้ทำหน้าที่นักบิน และไม่ได้รับเงินเดือนอัตรานักบินแล้ว) ในตำแหน่งชั่วคราว รวม 27 คน เพื่อช่วยงานบริษัทในช่วงนี้ ซึ่งกัปตันผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีภรรยาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนั้น ได้รับคัดเลือกให้ทำงานในงานภาคพื้นแบบชั่วคราว 6 เดือน ไม่ได้ทำหน้าที่นักบิน และไม่ได้รับเงินเดือนของกัปตันต่อไปแล้ว
กลุ่มนักบินได้ร่วมกันสนับสนุนนโยบายบริษัท ในการปรับสัญญาจ้างให้ค่าตอบแทนของนักบินสะท้อนกับตารางบินที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดรายได้กับบริษัทจริง และเพื่อความเป็นธรรมแก่นักบินทุกคน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มนักบินมีความเข้าใจสถานการณ์บริษัท และพร้อมมีส่วนสนับสนุนให้บริษัทผ่านวิกฤตในครั้งนี้ด้วยความรักความสามัคคี