“นักบินการบินไทย” โวยลั่นผู้บริหารเลือกปฏิบัติ “แบ่งกลุ่ม” จัดการประเมินคุณภาพไม่เป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของบุคลากรและสร้างความตึงเครียดในองค์กร ชี้ยังเล่นพรรคเล่นพวกไม่เปลี่ยนแปลง แฉมี “กัปตัน” บางคนไม่ผ่านประเมินแต่มีชื่อกลับมาบินหน้าตาเฉยเพียงเพราะมีภรรยาเป็นผู้บริหาร จี้ “ดีดี”ลงมาแก้ปัญหาด่วน ก่อนจะบานปลาย
วันที่ 14 มกราคม มีรายงานจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ว่าหลังจากที่ต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ จากปัญหาการขาดทุนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ที่มีผลต่อธุรกิจการบิน ทำให้สถานะบริษัทอยู่ในขั้นวิกฤติดังที่รับรู้กันแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อต้องเข้าแผนฟื้นฟูฯ โดยหนึ่งในพันธกิจสำคัญก็คือการลดขนาดลงองค์กร การลดพนักงานลงมา โดยในส่วนของนักบินจากจำนวนประมาณ 1,200 คน ปัจจุบันลดลงมาเหลือประมาณ 900 คน
ขณะเดียวกันก็ยังมีการปรับลดเงินเดือนลงมาโดยมีการแยกประเภทตามการจัดกลุ่มนักบินตามผลการประเมินคุณภาพ ซึ่งมีรายงานว่ามีการจัดกลุ่มนักบินออกเป็น 5 กลุ่มหลัก โดย กลุ่ม 1-2 จะได้รับเงินเดือน 60 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยได้รับเดิม และหากมีการบินสม่ำเสมอก็จะได้รับการเพิ่มเงินเดือนไต่ระดับกลับขึ้นไปในอัตรา 100 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม และยังได้เพิ่มจำนวนชั่วโมงบินอีกด้วย
ขณะที่นักบินใน 3 กลุ่มที่เหลือ จะไม่ค่อยได้รับโอกาสบิน หรือเรียกว่าแทบไม่ได้บินเลย โดยกลุ่มนี้จะได้รับเงินเดือนไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์จากเงินเดือนที่เคยได้รับ ทำให้มีปัญหาในเรื่องการเพิ่มชั่วโมงบิน มีผลต่อความก้าวหน้าในอนาคต โดย นักบินในกลุ่ม 1และ 2 มีอยู่ไม่เกิน 300 คน จากจำนวน 900 คนในปัจจุบัน ขณะที่ นักบินในกลุ่มที่เหลือนอกจากไม่ได้รับโอกาสในการบินแล้วยังต้องทำงานอื่นในสำนักงาน
อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวที่เป็นนักบินของการบินไทยคนหนึ่ง ระบายความอึดอัดให้ฟังว่า นักบินไม่ได้คัดค้านการประเมินคุณภาพ รวมไปถึงยินดีที่จะลดเงินเดือนเพื่อช่วยกันประคับประคองให้ผ่านช่วงวิกฤติไปด้วยกัน แต่ที่รับไม่ได้ก็คือ ยังมีการเล่นพรรคเล่นพวกอยู่เหมือนเดิม เพราะการประเมินขาดความโปร่งใส ไม่เป็นธรรม และที่สำคัญคนที่ทำการประเมินล้วนเป็นนักบินที่อยู่ในกลุ่ม 1 และ 2 ที่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายบริหารอีกด้วย ทำนอง “ชงเอง กินเอง”
ขณะเดียวกันการจัดกลุ่มนักบินกลับไม่มีการหมุนเวียนหรือเกลี่ยนักบินที่เหลือมาทำการบิน ซึ่งนอกจากส่งผลในด้านรายได้ของแต่ละคนที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีผลต่อการสะสมชั่วโมงบินของนักบินในส่วนที่ไม่ได้รับโอกาสทำการบินในแบบหยุดนิ่ง ซึ่งจะมีผลต่อความก้าวหน้าในวิชาชีพในอนาคตอีกด้วย
“ที่เหลืออดก็คือมีนักบินคนหนึ่งที่ไม่ผ่านการประเมิน และมีการประกาศรายชื่อออกมาแล้ว แต่กลายเป็นว่ายังได้กลับมาทำการบินหน้าตาเฉย ซึ่งอาจเป็นเพราะว่านักบินคนนั้นมีภรรยาเป็นผู้บริหารระดับสูงในการบินไทยหรือไม่ โดยกรณีนี้เป็นที่วิจารณ์และรับรู้กันทั่ว” แหล่งข่าวที่เป็นนักบินรายหนึ่งระบุ พร้อมกับเรียกร้องให้ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ลงมาตรวจสอบและแก้ปัญหาโดยด่วนก่อนจะบานปลายวุ่นวายมากไปกว่านี้
ทั้งนี้มีการเสนอแนวทางในการแก้ปัญหานั่นคือให้มีการหมุนเวียนนักบินให้มีโอกาสได้ทำการบิน นอกเหนือจากเป็นการสร้างความเป็นธรรมแล้ว ยังมีผลต่อรายได้ และการสะสมชั่วโมงบินของพวกเขา นอกเหนือจากการคัดเลือกและประเมินจัดกลุ่มด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส ยุติการเล่นพรรคเล่นพวก