“เสกสกล” ฟาด “ณัฐวุฒิ” เกลอเก่า ทำความดีไม่ได้ ก็แค่หยุดพูดเสียบ้าง ย้อนไปดูผลงานเก่าสมัยเป็น รมต. มีอะไรทำเพื่อ ปชช.บ้าง ลั่นคนไทยหูตาสว่างแล้วทำทุกอย่างเพื่อนายใหญ่ไม่เห็นหัว ปชช. เอาความมั่นใจมาจากไหน บอก พท.ได้รับเลือกตั้งอันดับ 1
วันนี้ (29 ธ.ค.) ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) กล่าวในรายการ “หัวใจไม่หยุดเต้น” EP.51 : 2565 เดินหน้าสู่เส้นชัยของประชาชน เผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊ก ช่วงหนึ่งระบุว่า “...แม้บรรยากาศการเลือกตั้งจะเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี แต่การเลือกตั้งใหญ่เชื่อว่าไม่น่าจะมาถึงได้ง่ายๆ ในหัวใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวก ต้องการอยู่ 4 ปีเต็ม ครบวาระของรัฐบาลนี้ ถ้าจะมีการยุบสภาก่อนครบวาระน่าจะอยู่ในสถานการณ์เดียว คือ รัฐบาลประเมินแล้วว่าอยู่ในช่วงเวลาได้เปรียบที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง นั่นหมายถึงเราต้องเห็นสัญญาณการใช้งบประมาณโปรยแจกหว่านไปทั่วประเทศ ข้อสังเกตง่ายๆ เช่น โครงการคนละครึ่งของรัฐบาล จะเริ่มต้นรอบที่ 4 ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดังนั้น หากจะมีการยุบสภาก่อนครบวาระ คงต้องมองกันที่ครึ่งหลังของปีหน้าเป็นอย่างเร็ว หากมีการเลือกตั้งใหญ่ ถ้าถามว่าใครจะได้เป็นอันดับหนึ่ง “พรรคเพื่อไทย” เป็นต่อเห็นๆ แต่ถ้าถามว่าใครคือเต็งหนึ่งนายกรัฐมนตรี ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่า 250 ส.ว. เขารอยกมือให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดิม
การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการต่อสู้แข่งขันที่เข้มข้นและแหลมคม ทั้งระหว่างฝ่ายเผด็จการและฝ่ายประชาธิปไตย รวมถึงในแต่ละฝ่ายด้วยกันเอง น่าสนใจว่าประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร...”
ดร.เสกสกล กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ เอาความมั่นใจจากที่ไหนมาถึงกล้าฟันธงว่า พรรคเพื่อไทย จะได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ในเวลานี้ประชาชนคนไทย เขาหูตาสว่างมากแล้ว ว่า ที่ผ่านมา พวกเขานั้นถูกหลอกจากพรรคเพื่อไทย และนักการเมืองภายใต้การควบคุมของนายใหญ่ตระกูลชินวัตร ที่อ้างแต่ประชาชน แต่การกระทำท้ายที่สุดแล้วไม่เคยเห็นหัวประชาชน ทำทุกอย่างเพื่อนายใหญ่ ที่หนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่เลือกตั้งครั้งนี้มาถามว่า พรรคเพื่อไทย ทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง ไม่มีเลย มีแต่คอยที่จะหาเรื่องรัฐบาล หาเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชน มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็มีแต่คอยคิดจ้องเล่นการเมืองอย่างเดียว แม้แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก พรรคเพื่อไทย ก็ไม่เคยคิดเหลียวแลประชาชน แต่กลับฉกฉวยเอาสถานการณ์ความเดือดร้อนนี้เล่นการเมือง
ดังนั้น สิ่งที่ นายณัฐวุฒิ พูดนั้นถูกว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนเดิม คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่ใช่เพราะเสียง ส.ว. 250 เสียง แต่เป็นเพราะเสียงจากประชาชนทั้งแผ่นดินที่เขาเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ นั้นทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญไม่เคยคิดคดโกง ทรยศประเทศ และประชาชน ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และชีวิตให้กับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดมา
ส่วน พรรคเพื่อไทย วันนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งคนไทยเขาก็คาดกันว่า คงไม่พ้นลูกสาวนายทักษิณ อย่างแน่นอน ส่วนหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ก็แค่หุ่นเชิดให้กับนายทักษิณ ก็เท่านั้น ดังนั้น ประชาชนเขามีบทเรียนมาแล้วว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่ตัวนายทักษิณเอง จนมาถึงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ประชาชนไม่ได้อะไรเลย ประเทศชาติก็เสียหายย่อยยับ จากน้ำมือของพรรคไทยรักไทย / พลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ที่ทำให้ประเทศนั้นถอยหลังไปอีกหลายสิบปี เพราะเกิดการทุจริตอย่างมโหฬาร หรือ นายณัฐวุฒิ ลืมแล้วตอนที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี ว่าเคยทำอะไรเอาไว้บ้าง ถ้านายณัฐวุฒิลืม ก็ลองไปค้นหาในกูเกิ้ล หรือในยูทูป ดูตอนที่นายณัฐวุฒิ ตอบนักข่าว ว่าตอนนั้นตัวเองมีอาการแบบไหน ทำไมมีอาการแบบนั้น เป็นเพราะไม่เคยทำงาน ทำงานไม่เป็น หรือเป็นเพราะอะไร ดังนั้นประชาชนคนไทย เขาคงไม่เลือกพรรคเพื่อไทย ให้กลับมาทำร้ายประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกต่อไปอย่างแน่นอน
เวลานี้ นายณัฐวุฒิ ก็อายุมากแล้ว ควรคิดอะไรได้บ้างแล้ว ว่า ที่ผ่านมา เคยทำสิ่งไม่ดีอะไรไว้กับประเทศชาติบ้าง ยังไม่สายเกินไป ถ้าจะคิดกลับตัวกลับใจ หาความดีติดตัวเอาไว้บ้าง ในช่วงบั้นปลายของชีวิต อย่างน้อยก็ให้คนรุ่นหลังได้จดจำความดี ลบกับสิ่งที่ตัวเองเคยสร้างความเสียหายไว้กับชาติบ้านเมือง แต่ถ้าการทำดีมันยาก ก็เริ่มจากการหยุดพูดเสียบ้าง ถือว่าเป็นการเสียสละเพื่อชาติ ถ้าหยุดพูดหรือหยุดเคลื่อนไหวได้ ก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศชาติและประชาชน” ดร.เสกสกล กล่าว