xs
xsm
sm
md
lg

“โทนี่” ฉีกแบงก์ย่อย ชู พท.สู้ศึกทิ้งทวน !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พรรคเพื่อไทยต้อนรับสมาชิกเก่ากลับมา
เมืองไทย 360 องศา

อาจเป็นเพราะมั่นใจในกติกาใหม่ที่จะถูกนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง ในเรื่องบัตรเลือกตั้งสองใบ และการคำนวณคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทำให้มั่นใจว่าตัวเองจะต้องได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไปค่อนข้างแน่ ทำให้คนอย่าง “โทนี่” หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่สังคมเข้าใจว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เกิดความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้งว่าจะต้องชนะการเลือกตั้งแน่นอน

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากองค์ประกอบอื่นๆ ก็ย่อมเข้าใจได้ว่า งานนี้เขาน่าจะ “ลงทุนจริง” เพราะหากมองในมุมของ “นักธุรกิจ” ที่เมื่อใดก็ตามที่เห็นช่องทางมีกำไรก็ต้องทุ่มสุดตัว และทำทุกทางเพื่อให้ได้รับชัยชนะ หรือเกิดความคุ้มค่า ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่ออีกด้านหนึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร ที่มีภาพลักษณ์ในเรื่อง “นักธุรกิจการเมือง” มาช้านานก็ย่อมมองเกมแบบนี้ได้ไม่ยากอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ต้องเข้าใจกันเสียก่อนว่า นายทักษิณ ชินวัตร มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย แบบแยกไม่ออก เพื่อที่จะสามารถเข้าใจความเคลื่อนไหวแบบองค์รวมของพรรคนี้ได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ หากยังจำกัดได้ นายทักษิณ ได้ประกาศในวงสนทนาใน “คลับเฮาส์” ในกลุ่มการเมืองเครือข่าย แสดงความมั่นใจถึงผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ถึงกับคุยโวว่าพรรคเพื่อไทยจะต้อง “ชนะแบบแลนด์สไลด์” อย่างแน่นอน พร้อมกับชูภาพของ “คนรุ่นใหม่” เข้ามารับไม้ต่อจากคนรุ่นเก่า พร้อมกันนั้น เขายังได้เรียกร้องให้ “สาม ป.” โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วางมือ ได้แล้ว ในครั้งนั้นถึงกับออก “แอกชัน” ยกมือไหว้อ้อนวอนกันเลยทีเดียว

แต่จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ถัดมา พรรคเพื่อไทย ก็เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร ให้รั้งตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนรวมของพรรค ทำให้ภาพของ “คนรุ่นใหม่” ในความหมายของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นแบบนี้นี่เอง เพราะฉับพลันที่มีชื่อของ นางสาวแพทองธาร ปรากฏอย่างเป็นทางการในพรรคเพื่อไทย ก็ทำให้คอการเมืองคาดการณ์กันได้ไม่ยากว่า ในอนาคตเธอจะได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั่นเอง

ในวันนั้น นายทักษิณ ยังพูดแบบมั่นใจในหลายๆ เรื่อง แต่หากพิจารณากันในรายละเอียดจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์ของพรรคสำหรับการเลือกตั้งในครั้งต่อไป เช่น คำพูดแบบทีเล่นทีจริงตลกโปกฮา ที่ว่า “พรรคเพื่อไทยสู้เต็มที่ และใครที่รับเงินมาแล้วให้รีบเอาเงินไปคืนเสีย” ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นการดับกระแส “เลือดไหลออก” จากพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งสัญญาณว่า “ท่อน้ำเลี้ยง” ได้กลับมาไหลคล่องอีกครั้งหรือไม่

หากย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน พรรคเพื่อไทย อยู่ในสภาวะ “เลือดไหลไม่หยุด” มีทั้งประเภท “งูเห่า” เกิดความขัดแย้งแตกแยกกันในพรรค ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “ขาดการดูแล” หรือ “ท่อตัน” จึงเกิดลักษณะ “รอการย้ายพรรค” รวมไปถึงการแยกย้ายไปตั้งพรรคใหม่ ที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างและกำลังเคลื่อนไหวในนามพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ คาดว่า จะดึงดูด ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกไปได้จำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพมหานคร และในภาคอีสาน

พรรคเพื่อไทยต้อนรับสมาชิกเก่ากลับมา
นอกเหนือจากนี้ ยังมีความพยายามตั้ง “พรรคเส้นทางใหม่” ของกลุ่มนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถึงขนาดมีเสียงนินทาอยู่ช่วงหนึ่งว่า “จัดม็อบเพื่อหาสมาชิกพรรค” กันอยู่พักหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงมาถึงวันนี้ ก็ได้ข้อสรุปแล้ว นั่นคือ หลายคนก็ย้ายกลับเข้ามาพรรคเพื่อไทย กันอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พรรคเพื่อไทย โดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรครวมทั้งผู้บริหารพรรคจัดพิธีต้อนรับ อดีตสมาชิกหลายคนที่แยกออกไปกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เช่น กลุ่มฉายแสง ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง ทั้งครอบครัวในจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสามารถ แก้วมีชัย ที่เคยออกไปร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย เป็นต้น

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศการเปิดตัวของพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่คิกออฟทัวร์นกขมิ้น เริ่มที่ภาคอีสาน บรรยากาศโดยรวมยังไม่คึกคักเท่าที่ควร สังเกตเห็นได้จากไม่มีระดับ “ขาใหญ่” ที่คาดว่า จะแตกทัพมาจากพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมเลย ทำให้มั่นใจว่า ส.ส.หลายคนทั้งในกรุงเทพฯ และในภาคอีสานที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะไหลออก น่าจะยังไม่ไปไหน

เมื่อวกกลับมาที่ “ยุทธศาสตร์” ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวหน้า ที่เชื่อมีความเชื่อมโยงกับ นายทักษิณ ชินวัตร กับภาพที่เห็นบรรดาอดีต ส.ส.และระดับ “ขาใหญ่” ในพรรคที่ก่อนหน้านี้ คิดจะแยกวงออกไป กลับย้อนกลับมาร่วมทีมกันใหม่อีกครั้ง ทำให้เห็นว่าเขา “ฉีกแผนแตกแบงก์ย่อย” ไปอย่างเด็ดขาด และหันกลับมาเน้นที่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว หลังจากมั่นใจในกติกาบัตรเลือกตั้งสองใบ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคำพูดที่ว่า “ใครที่รับเงินมาแล้วให้รีบเอาไปคืน” หรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่างานนี้ “โทนี่ลงทุนจริง”

เพราะหากพิจารณาจากการส่ง “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาวคนเล็กลงมาแบบนี้ มันก็ต้องไม่ให้เสียหน้า แต่นี่คือ การส่งสัญญาณการต่อสู้ครั้งสำคัญ อีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ก็ยังไม่มีใครรู้ เพราะหากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดว่า ได้เปรียบ หรือมีกำไร เขาก็จะทุ่มเทสุดตัว

อย่างไรก็ดี หากบอกว่า “คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต” ที่ผ่านมา เขาก็มั่นใจทุกครั้ง แต่ก็พลาดทุกครั้ง และครั้งนี้เงื่อนไข และสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปมาก ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม กระแสได้เปลี่ยนทิศทางไปมากแล้ว แต่ก็อย่างว่า คนที่ฝันก็ย่อมฝันได้ทุกวัน ส่วนจะเป็นจริงแค่ไหนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง !!


กำลังโหลดความคิดเห็น