xs
xsm
sm
md
lg

“ชัชชาติ” ในวันไม่เหมือนเดิม เพื่อไทยก็เปลี่ยนไป !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

ในตอนแรกยังคิดว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เปิดตัวชัดเจนก่อนใครจะ “เต็งหนึ่ง” แบบไร้คู่แข่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีคู่แข่งบางราย เช่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ถอนตัวออกไป ซึ่งผลสำรวจหลายครั้งที่ผ่านมา เขาก็มีคะแนนนิยมทิ้งห่างรายชื่อคนอื่นๆ เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน แม้จะยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะลงสมัครหรือไป แต่เมื่อดูความนิยมแล้วยังตามหลังนายชัชชาติ ห่างออกไปเรื่อยๆ

แต่ฉับพลันที่มีความชัดเจนว่า นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัวลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เกิดความน่าสนใจขึ้นมาทันที ที่สำคัญก็คือ ทำให้การแข่งขันมีความเข้มข้นและสนุกเร้าใจมากขึ้นกว่าเดิมทันที

อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากโปรไฟล์ของเขาแล้ว ทั้งการศึกษา ความคิด และวัย ความสำเร็จ ถือว่า “ต่อกร” กับ นายชัชชาติ ในฉายา “บุรุษแกร่งที่สุดในปฐพี” ได้อย่างสูสีเลยทีเดียว

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจฟันธงได้ว่า “กระแส” ของ “พี่เอ้” หรือ นายสุชัชวีร์ จะแรงแค่ไหน เพราะต้องรออีกสักระยะหนึ่งก่อน รวมไปถึงพิจารณาจากผลสำรวจที่จะต้องออกมาหลังจากนี้ว่าจะออกมาในรูปไหน แต่หากให้คาดเดาล่วงหน้าก็ต้องบอกว่า น่าจะใช้ได้ทีเดียว ซึ่งในเบื้องต้นถือว่าโดดเด่นไม่เบา

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากตัวคนที่เปิดตัวออกมาแล้ว สองคนที่ถือว่ามีความน่าสนใจ และมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่แล้ว ก็ต้องพิจารณา “แบ็กอัพ” ทั้งในแบบเป็นทางการชัดเจน หรือแบบไม่เป็นทางการ หรือแบบ “ซ่อนแอบ” ก็ตาม ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

สำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แม้ว่าประกาศชัดตั้งแต่ต้นแล้วว่า เป็นผู้สมัคร “อิสระ” ถึงขั้นลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคดังกล่าวมานานนับปี เพื่อเป้าหมายลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว เพื่อให้มองว่าตัวเองสามารถทำงานได้กับทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมือง ทุกสี ในท่ามกลางความขัดแย้งแตกแยกจนฝังรากลึกไปแล้ว

อีกนัยหนึ่งการประกาศเป็นอิสระแบบนี้มันก็เหมือนกับการ “สลายสีเสื้อ” หวังได้คะแนนเสียงจากทุกกลุ่ม แทนที่จะผูกติดกับข้างใดข้างหนึ่ง หรือพรรคเพื่อไทย

ขณะที่มวลชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในกรุงเทพมหานคร ที่มีอยู่เป็นกลุ่มก้อนไม่น้อยก็ยังถือว่า นายชัชชาติ ยังเป็นเครือข่ายเดิม เป็นอดีตพรรคเพื่อไทย ถึงอย่างไรก็น่าจะเป็นตัวเลือก และตัดสินใจลงคะแนนให้แบบไม่ต้องลังเลมากนัก

หากมองย้อนอดีตในช่วงเวลานั้นที่เขาลาออกมา ก็ต้องถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พรรคเพื่อไทยไม่มีอนาคต ไม่รู้จะไปทางไหน หลังจากที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ต้องห่างเหินจากอำนาจรัฐไปอีกคำรบหนึ่ง ในเวลานั้นถือว่า นายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่กล้าลงทุนต่อหลังจากผิดพลาดจากกรณีพรรคไทยรักษาชาติ จากความล้มเหลวในแผน “แตกแบงก์ย่อย” ดังที่ทราบกันดีในวงการเมือง
 
ดังนั้น หากพิจารณากันแบบเงื่อนไขส่วนตัว การลงสมัครในนาม “อิสระ” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในแบบที่ “ไม่ตัดขาด” อย่างสิ้นเชิง ลักษณะจึงออกมาในแบบ “ขอเสียงแต่ไม่เปิดเผย” มากกว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทย นาทีนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งใครลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ แม้ว่าพิจารณาจากแนวโน้มแล้วยังเชื่อว่าจะ “ไม่ส่ง” แต่แอบหนุน นายชัชชาติ ในแบบวิน วิน พึ่งพาอาศัยกัน น่าจะออกแนวนี้มากกว่า

ส่วน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์กำลังเปิดตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 ธันวาคม ก็ต้องถือว่า “วินวิน” เช่นเดียวกัน เพราะแม้ว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา พรรคจะ “สูญพันธุ์” ในสนามกรุงเทพมหานคร แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีฐานเสียงในพื้นที่อยู่จำนวนหนึ่งตั้งแต่ระดับสมาชิกสภาเขต สมาชิกสภากรุงเทพฯ หรือ ส.ก.จนมาถึงในเขตเลือกตั้ง ส.ส.

ขณะที่ นายสุชัชวีร์ ถือว่ายังใหม่ในทางการเมือง ต้องพึ่งพาฐานเสียง และหากต้องการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แบบราบรื่น ก็ต้องมีตัวช่วย ทั้งในระดับ ส.ก.และ ส.ข. รวมไปถึงแบ็กอัพในทางการเมืองระดับชาติ นั่นคือ พรรคการเมืองคอยระวังหลังเหมือนกัน

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว สำหรับการเลือกตั้งในสนามกรุงเทพฯคราวนี้ ต้องการกลับมา “แก้มือ” อีกครั้ง หลังจากพ่ายแพ้ เสียหายย่อยยับในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะทำได้แค่ไหน

อีกด้านหนึ่งเมื่อหันมาโฟกัส นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ถือว่า “ยืนหนึ่ง” มาตลอด เนื่องจากถูกมองว่าไม่มีคู่แข่งที่สูสี แต่เมื่อการเปิดตัวของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที และนี่ยังไม่นับกรณีที่มีข่าวว่า “ผู้ว่าฯ หมูป่า” นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะมาลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือว่าอาจจะมาในแบบ “อิสระ” แต่พรรคพลังประชารัฐ (แอบ) ให้การสนับสนุน อีกราย ก็ยิ่งสนุกเข้มข้นขึ้นไปอีก เพราะตามรายงานข่าวมีการคาดหมายว่า อาจจะเปิดตัวหลังจากนี้อีกราวสองสัปดาห์

หากพิจารณาจากรายชื่อที่เห็นหากเป็นจริงตามรายชื่อครบทั้งสามคน หรือแม้แต่เหลือแค่สองคน คือ นายชัชชาติ กับ นายสุชัชวีร์ ก็ต้องถือว่าสำหรับ นายชัชชาติ ก็ต้องเหนื่อยแน่นอน จากเดิมที่คาดว่า “ยืนหนึ่ง” ทิ้งห่าง นาทีนี้กลายเป็นว่าน่าจะขยับเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว อีกทั้งหากพรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครในนามพรรคมันก็ยิ่งตัดคะแนนออกไปอีก แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับพรรคเพื่อไทยปัจจุบันถือว่าเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะสนามกรุงเทพฯ และที่สำคัญ หากมีการประกาศหนุน นายชัชชาติ ก็ไม่รู้ว่าเป็นผลบวกหรือลบกันแน่ เพราะอาจมีผลทำให้คนที่คิดจะลงคะแนนให้ต้องเปลี่ยนใจไปอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

เอาเป็นว่า แม้ว่าเส้นทางในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังต้องรออีกพักหนึ่ง แต่ก็ยังเชื่อว่าไม่น่าจะเกินกลางปีหน้า เพราะยิ่งมีการเปิดตัวผู้สมัครกันมากเท่าใด มันก็เหมือนกับเป็นแรงกดดันให้ต้องรีบเปิดไฟเขียวแน่นอน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น