ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ชัดเล้ว “พี่เอ้” สุชัชวีร์ ลงสนามผู้ว่าฯ กทม.สังกัด ปชป. เหลือแต่ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ที่รอให้ พปชร.เปิดตัว
“พี่เอ้” ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งเป็นบุคคลในข่าวว่าจะสวมเสื้อสีฟ้า ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ...วันนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ต้องรอถึงวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ทางพรรคบอกว่าจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาตัวบุคคลตามขั้นตอนก่อนประกาศชื่อ
เพราะ “พี่เอ้” ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี และทางสภา สจล. ก็ได้อนุมัติหนังสือลาออกแล้ว ปิดฉากการเป็นนักบริหารในตำแหน่งอธิการบดี 2 สมัย 6 ปี 7 เดือน เพื่อก้าวสู่เส้นทางใหม่ เป็นงานใหญ่ที่ท้าทายคือ “ซ่อม-สร้างกรุงเทพฯ”
หากย้อนกลับไปดูปูมประวัติ “พี่เอ้” จัดว่าเป็นคนที่มีโปรไฟล์หรู ความสามารถโดดเด่น ตั้งแต่วัยเรียน หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ได้โควตาช้างเผือก เข้าเรียนต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. และเป็นประธานวิศวะรุ่น 29 สจล.ด้วย จากนั้นยังไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ จนจบปริญญาเอก
ประวัติการทำงาน ก็ผ่านมาแล้วทั้งนอกประเทศ ในประเทศ ก่อนที่จะมาเป็นอธิการบดี สจล. ถึงสองสมัย และเป็นยุคที่ สจล. มีความเจริญก้าวหน้ามากที่สุดยุคหนึ่ง ... ยิ่งเรื่องรางวัลเชิดชูเกียรติที่ได้รับทั้งในฐานะนักวิชาการ นักบริหาร อีกเป็นเข่ง เด่นๆ ทั้งนั้น
เรียกได้ว่า ความรู้ ความสามารถ ทั้งการบริหาร จัดการ วิสัยทัศน์ ความทันสมัย ทันเทคโนโลยี พร้อมสรรพ ไม่มีข้อสงสัย
พรรคประชาธิปัตย์ ที่ติดต่อทาบทาม “พี่เอ้” มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า จะสามารถเรียกคะแนนจากคนรุ่นใหม่ และสู้กับ “เต็ง 1 ตลอดกาล” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ ได้อย่างมีลุ้นแน่
...ส่วนอีกคนที่อยู่ในกระแส และจะไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ปทุมธานี คนปัจจุบัน แม้เมื่อปีสองปีก่อนหน้านี้จะเคยบอกว่า ต้องการรับราชการจนเกษียณ ไม่ได้สนใจที่จะสมัครผู้ว่าฯ กทม. และเมื่อตกเป็นข่าวรอบนี้ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ก็ยังอุบเงียบ ไม่เคยให้สัมภาษณ์ หรือแสดงจุดยืนในเชิงตอบรับ หรือปฏิเสธ
มีกระแสข่าววงใน จากคนใกล้ชิดว่า “ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์” ไม่อยากลาออกมาลงสนามผู้ว่าฯ กทม. โดยบอกว่า ปัญหาสุขภาพ...
แต่พรรคพลังประชารัฐ เหมือนโดนไฟต์บังคับ เพราะขณะนี้ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพฯมากที่สุด คือ 12 จาก 30 ที่นั่ง ถือว่าเป็นแชมป์ กทม. อยู่ หากการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น จะส่งเฉพาะ ส.ก. แต่ไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯนั้น ไม่ได้แน่ๆ เพราะจะมีผลไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้าด้วย... ครั้นจะแอบสนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการ ก็ยังไม่เห็นมีใครที่จะมาสู้กับ “ชัชชาติ” ได้
ก็มีแต่ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” นี่แหละที่พอจะสู้ได้ และมีโอกาสชนะสูง
ว่ากันว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ เรียก “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ไปหารือถึงเรื่องนี้ พร้อมกับ “ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้” ถึงขั้นเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนหน้า
... ตามเส้นทางราชการ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” เหลือเวลาอีก 4 ปี จะเกษียณ และการเป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานี ถึงว่าเป็นตำแหน่งสุดท้าย ...คือ ภาษาของคนมหาดไทยเขาเรียกว่า หมดโควตาการเป็นผู้ว่าฯแล้ว ปีหน้าก็ต้องเป็นอธิบดีกรมใดกรมหนึ่ง หรือไม่ก็ไปเป็นผู้ตรวจราชการ
จึงควรจะลาออกมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ถือว่าอนาคตสดใส ไปโลดบนเส้นทางการเมือง ...แต่ถ้าสอบตกก็สามารถกลับเข้ารับราชการที่มหาดไทยเหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้จะการันตีด้วยตำแหน่ง “อธิบดี” กรมใดกรมหนึ่ง และปีสุดท้ายก่อนเกษียณ ยังมีโอกาสขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดในชีวิตราชการ คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะ “ปลัดเก่ง” สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน เหลืออายุราชการอีกแค่ 3 ปี
ก็ต้องรอดูกันว่ากลางเดือนหน้า “ผู้ว่าฯ หมูป่า” จะถือธงพลังประชารัฐ ลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่
ถ้าใช่ละก็ต้องวัดใจคนกรุงว่าจะเลือกใคร ระหว่าง “ชัชชาติ-พี่เอ้-ผู้ว่าหมูป่า”
**ณวัฒน์ ช่วยหน่อย งานเข้าสาวงามเวียดนาม 3 นิ้ว
เวทีประกวดขาอ่อนแบรนด์ “มิสแกรนด์อินเตอร์” จบไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว ด้วยผลตัดสินให้ น้อง “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” มิสแกรนด์เวียดนาม คว้ามงกุฎไปครอง แต่ในโลกโซเชียลฯยังมีประเด็นดรามาตามมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะข้อครหาที่มิสแกรนด์เวียดนาม “ชู 3 นิ้ว” บนเวทีระหว่างตอบคำถาม จนเชื่อว่าเป็นจุดที่ทำให้ชนะใจ “ผู้จัด” ณวัฒน์ อิสรไกรศรี จัด “มง” ลงไปเป็นรางวัล
ว่ากันว่า การที่กองประกวดมิสแกรนด์ ลากเอานางงามผู้เข้าประกวดจากต่างประเทศเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไทย เป็นแนวร่วมของม็อบ 3 นิ้วนี้ ทำให้บรรดาสาวงามจากประเทศต่างๆ วงแตก ไปคนทิศคนละทาง
ฟังว่า ฟิลิปปินส์ บอยคอตขอถอนตัวจากแฟรนไชส์มิสแกรนด์ ตามมาด้วยโคลอมเบีย และ เม็กซิโก
ขณะที่มิสแกรนด์อินโดฯ unfollow เลิกติดตาม IG ของ ณวัฒน์
ส่วนนางงามนักธุรกิจวัย 23 ปี “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” จากเวียดนาม ผลจากการชู 3 นิ้ว ก็งานเข้าด้วย
โดย “นริศโรจน์ เฟื่องระบิล” อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Fuangrabil Narisroj” ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า
“ได้รับทราบจากน้องๆ ที่ทำงานที่เวียดนามส่งข่าวด่วนมาว่า ทาง กต.เวียดนาม ได้ออกแถลงการณ์ในกรณีนางงามเวียดนามมาชู 3 นิ้วในไทยแล้ว โดยทางการเวียดนาม เห็นแก่ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เป็นสำคัญ จึงได้ทำการสั่งสื่อเวียดนามมิให้นำเสนอภาพ และข่าวนางงามเวียดนามชู 3 นิ้ว ในไทยโดยเด็ดขาด รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรม ได้สั่งการให้นางงามเวียดนามคนที่ชู 3 นิ้ว หยุดแสดงพฤติกรรม หรือคำพูดที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างไทยกับเวียดนาม ด้วยเช่นกัน
อดีตทูต โพสต์ด้วยว่า ขอบคุณรัฐบาลเวียดนามอย่างมาก ที่ได้แสดงออกและตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนไทยกับเวียดนาม เป็นสำคัญ
ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนสติ “ใคร” ก็ตามที่คิดจะใช้คนต่างชาติมาทำการเคลื่อนไหว หรือแสดงพฤติกรรมทางการเมืองใดๆ อันอาจเป็นเหตุให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครับ สิ่งที่ทำจะได้ไม่คุ้มเสีย และอาจบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้โดยไม่จำเป็น”
งานนี้ ณวัฒน์ รู้หรือยัง?