นักเขียนชื่อดัง สงสัยแรง ทำไม “สรยุทธ” ไม่กล้าแตะต้อง ข่าวอภัยโทษผิดปกติ!? ฝ่ายค้านเงียบกริบ! ส.ว.วันชัย ฉะ “สมศักดิ์” โซเชียลซัด ส.ส. “ก้าวไกล-เพื่อไทย” ไม่ทำหน้าที่? “โฟกัส” นิ่งสนิท พ่อลงชิงเก้าอี้ “ส.ก.” ปชป.
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 ธ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น นักเขียนชื่อดัง สงสัยแรง ทำไม “สรยุทธ” ไม่กล้าแตะต้อง ข่าวอภัยโทษผิดปกติ!?
โดยระบุว่า ยังคงเป็นประเด็นสุดร้อนแรง สำหรับการลดหย่อนโทษในคดีคอร์รัปชันที่มีปัญหาและสังคมเกิดการตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะคดีทุจริตสำคัญร้ายแรงทุจริตจำนำข้าว ได้รับการอภัยโทษเยอะและบ่อยครั้งผิดปกติ จนต่อมาก็มีกระแสในสังคมวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า อยากให้มีการปรับลดโทษให้เหมาะสม เพราะผู้ต้องหาผิดในคดีร้ายแรง จะทำอะไรต้องให้เหมาะสม
ล่าสุด นายปฏิพล อภิญญาณกุล นักเขียนชื่อดังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Padipon Apinyankul ในประเด็นดังกล่าว ระบุว่า
“#ยุติธรรมอำพราง
เรื่องการลดโทษให้นักการเมืองทุจริต (โกงข้าว) รวมถึงข้าราชการทุจริต และบุคคลที่ร่วมทุจริตต่อเงินแผ่นดิน ..
เรียกง่ายๆ คือ การรวมหัว “คอรับชั่นภาษี” ของประชาชน
..ได้กลายเป็นเรื่อง เป็นราว ซึ่งควรแก่การปรับปรุงแก้ไข กฎระเบียบไปแล้ว..
รมต.ยุติธรรม..เป็นบุคคลที่ถูกสังคมเพ่งเล็ง อย่างช่วยไม่ได้
เพราะ การขอลดหย่อนโทษ การส่งรายชื่อบุคคลให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ มีคนที่สามารถทำเรื่องยื่นส่งขอได้แค่ไม่กี่คน..หนึ่งในนั้นคือ รมต.ยุติธรรม
ปัญหาที่ผู้คนสงสัยคือ..
ใช้กฎเกณฑ์อะไร ในการพิจารณาว่า นักโทษคนไหนสามารถขึ้นชั้น ยกระดับเป็น
– ดีเยี่ยม ดีมาก ดี พอใช้ ธรรมดา ..
คำถามคือ ..
ทำไม ? ตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน .. ถึงค้ำประกันความโปร่งใส ต่อกรณีการลดโทษครั้งนี้ไม่ได้ ?
ความสงสัย เกิดมาจากความเป็น “นักการเมือง” ของนายสมศักดิ์ เอง ..
เขาเป็นนักการเมืองผู้ช่ำชองสารพันกระบวนท่า..
ผู้ซึ่งถนัดการเป็นฝ่ายรัฐบาล มากกว่าฝ่ายค้าน..
ในอดีตนั้นร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยมาได้อย่างราบรื่น
นายสมศักดิ์ เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทย ร่วมรัฐบาลกับนายทักษิณมาหลายสมัย..
ก่อนที่จะออกมาตั้งกลุ่มของตัวเอง
โดยส่วนตัวเชื่อว่า
นายสมศักดิ์ เป็นนักการเมืองระดับเทพ ย่อมมีความสัมพันธ์กระจายไปยังทุกกลุ่ม..
รวมถึงนักโทษการเมืองข้างในคุก ย่อมรู้จักอยู่บ้าง
อย่างน้อยก็เคยมี “เจ้านายเก่า” ร่วมกันมาก่อน
เมื่อมานั่งโต๊ะกับกรรมการพิจารณาลดโทษ มันดูแล้วย่อมเกิดความไว้ใจน้อยลง
– ความสงสัยก็เลยพุ่งเป้า ว่า..
นายสมศักดิ์ รมต.ยุติธรรม เอื้อต่อการลดหย่อนโทษด้วยหรือไม่?
แปลกยิ่งกว่าคือ ในช่วงเวลา 1 ปี 4 เดือน (2563-2564) มีการลดโทษให้ 4 ครั้ง
รวมๆ ประมาณลดโทษไป 43 ปี..
เร็วๆ นี้ ก็จะออกจากการ “พักร้อน” กันมาแล้ว
เรื่องนี้ ทำไมคนทำข่าว คุ้ยข่าว กันน้อยมาก
ถ้าให้ดีควร “เจาะข่าว” สืบเสาะหาตัวกรรมการพิจารณา มาสอบถามกัน
ยิ่งน่าแปลกกว่า ก็คือ คนข่าวที่คุ้นเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับคุก เกี่ยวกับวันลดหย่อยโทษ ซึ่งสามารถล้วงข้อมูลได้ลึก.. เฉกเช่น นายสรยุทธ นักเล่าข่าวชื่อดัง..
.. กลับไม่เล่นข่าวนี้ ? ?
#ยุติธรรมอำพราง”
หลังจากนั้น ได้มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในประเด็นนี้กันเป็นจำนวนมาก เช่น “กรณีนักการเมืองทำผิดควรมีกฎหมายให้รับโทษหนักกว่าประชาชนโดยเฉพาะช่อโกงเงินแผ่นดิน”, “ใช่ค่ะทีชาวบ้านเก็บเห็ดโอ้โฮโทษอย่างหนักไมยุติธรรมเล้ย(ลงเสียงหนักๆ ค่ะ)”, “คนชั่วร้ายโดยสันดานไม่มีทางเปลี่ยน”, “สื่อมันชอบเล่นเรื่องไร้สาระ”, “กรณีนักเล่าข่าวที่ถูกพิพากษาว่าฉ้อโกงมีโทษหกปีกว่า แต่ติดตะรางจริงแค่ปีกว่าก็ไม่ปกติครับ”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น ฝ่ายค้านเงียบกริบ! ส.ว.วันชัย ฉะ “สมศักดิ์” ปมลดโทษโกงจำนำ โซเชียลซัดยับ ส.ส.ก้าวไกล-เพื่อไทย ไม่ทำหน้าที่?
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่ นายวันชัย สอนสิริ สมาชิกวุฒิสภา ออกมาพูดประเด็นลดโทษคดีจำนำข้าว กลางที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 64 โดยมีการกล่าวว่า คนพวกนั้นมีการวิ่งเต้น ใช้เงินช่วยให้ได้พ้นคุก
ตนขอถามกรณีผู้ต้องขังออกจากเรือนจำเร็วเกินไปและการลดโทษกรณีผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศหลายแสนล้าน มีคนตายจากคดีนี้เป็นสิบๆ คน ศาลตัดสินจำคุกแรงมาก แต่กรมราชทัณฑ์ภายใต้การกำกับดูแลของ รมว.ยุติธรรม มีมาตรการในการลดหย่อนผ่อนโทษและการจัดลำดับชั้นนักโทษเพื่อเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว
คนไทยคิดว่าคนที่ทุจริตต้องถูกลงโทษอย่างสาสม แต่การลดโทษแบบนี้เป็นการกระทำการเหมือนตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ การทำงานของรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้ไปล้วงลูก แต่มีคำพูดมาโดยตลอดว่า คนมีเงินคนมีอิทธิพล คนมีอำนาจไม่ติดคุก ถึงติดคุกก็ติดสบาย คนจนมีแต่ติดจนถูกขังลืม กระบวนการภายใต้กำกับของ ท่านรัฐมนตรีได้ไปกำกับดูแลกระบวนการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด กว่าที่จะเอาคนพวกนี้มาเข้าคุกได้ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมาก
แต่กรมราชทัณฑ์กลับไปลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ และมีคนพูดว่าคนพวกนี้เป็นพวกเดียวกับท่านรัฐมนตรีเคยเป็นนักการเมืองเป็นรัฐมนตรีด้วยกัน ตนขอถามแบบตรงไปตรงมาว่า กระบวนการเลื่อนชั้นนักโทษเหล่านี้ ท่านรู้เรื่องบ้างหรือไม่ มีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด มีการตรวจสอบหรือไม่ หลักเกณฑ์ในการเลื่อนระดับนักโทษ มีการวิ่งเต้นใช้เงินหรือไม่ คดีคอร์รัปชัน คดียาเสพติด ศาลต้องลงโทษแรงและพิจารณาคดีเร็ว แต่สวนทางกับท่าน แรงกลับทำให้เบา ออกจากคุกเร็ว ท่านจะมีการพิจารณาเลื่อนชั้นกับคดีเหล่านี้หรือไม่
ต่อมา นายสมศักดิ์ ก็ได้ชี้แจงว่า ท่านกล่าวหาและกระแนะกระแหนเหมือนว่าตนกระทำผิดเสียเอง ตนมารับตำแหน่ง รับมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้บริหารความยุติธรรมในทุกชั้นทุกแนวทางหรือผู้คนที่มาร้องเรียน ตนปวารณาตัวว่าจะแก้ปัญหาทำให้เกิดความยุติธรรม ให้ประชาชนพึงพอใจ ทั้งๆ ที่ผู้คนอาจจะไม่ได้หวังว่าตนจะทำหน้าที่ รัฐมนตรีด้านสังคมได้อย่างไร แต่ตนมั่นใจในการทำหน้าที่ สิ่งที่ได้ดำเนินการไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามแนวทางและครรลองต่างๆ
ที่น่าสนใจ ประชาชนต่างชื่นชม ส.ว.วันชัย ที่ทำหน้าที่ในสภาได้ดี รวมทั้งมีการเปรียบเทียบกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน อย่างเพื่อไทย และก้าวไกล ว่า กลับไม่พูดถึงประเด็นนี้ หรือแม้แต่จะเคลื่อนไหวในโซเชียลด้วย ทำให้มีคอมเม้นต์ตามมามากมายว่า ส.ว.วันชัย ทำหน้าที่ได้ดี เห็นหรือยังว่าทำไมต้องมี ส.ว. เพราะฝ่ายค้านเงียบเรื่องนี้ บางคอมเมนต์ก็บอกว่า ฝ่ายค้านตาบอด เป็นใบ้, ฝ่ายค้านเงียบเพราะเตรียมไว้ใช้กับพวกตัวเองหรือเปล่า, เพื่อไทยไม่พูดไม่แปลกเพราะเกิดจากนโยบายพวกมัน แต่ก้าวไกล เสรีรวมไทย ทำไมเงียบจังวะ ปกติเห็นค้านรัฐบาลมันทุกเรื่อง
นี่ไงคำตอบของสามกีบ ส.ว.มีไว้ทำไม มีไว้ถามแทน ส.ส.ฝ่ายค้าน ถึง รมต.ที่พฤติกรรมน่าสงสัย ในการทำหน้าที่บริหาร ฝ่ายค้านหารู้หน้าที่ตัวเองไม่ ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ส.ว.เลยต้องทำแทน
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น “โฟกัส” เงียบสนิท หลังพบชื่อพ่อ ลงชิงเก้าอี้ ส.ก. ในนามพรรคประชาธิปัตย์!?
โดยระบุว่า จากกรณี นายนภาพล จีระกุล เตรียมลงสมัคร ส.ก.เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นบิดาของ น.ส.โฟกัส จีระกุล ดาราสาวที่คอยสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มสามนิ้ว
พบว่าช่วงหลังเงียบและเบาลงไปอย่างผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ ช่องทางออนไลน์ของ นางสาวโฟกัส ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับการที่ นายนภาพล ลงสมัคร ส.ก.เขตบางกอกน้อย แถมยังลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพรรคใหญ่ที่กลุ่มสามนิ้วมักโจมตีอยู่บ่อยครั้ง ถึงขนาดเคยบุกไปป่วนถึงที่ทำการพรรค เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 64 มาแล้ว ทำให้หลายๆ คน เกิดความสนใจว่า โฟกัส จะเคลื่อนไหวในมุมมองการเมืองอย่างไรต่อไป
แน่นอน, ทุกเรื่องที่หยิบยกมา ล้วนน่าคิดทั้งสิ้น
ประเด็นของ “สรยุทธ” ที่ถือว่าผิดปกติอย่างมาก ก็คือ กระแสข่าวเรื่อง “ลดโทษ” อย่างผิดสังเกต น่าสงสัยนั้น ถือเป็นประเด็นเด็ดเลยทีเดียว ที่วิญญาณข่าวไม่ว่าใครจะต้องโดดงับ และกัดไม่ปล่อย แต่ทำไมเรื่องนี้ “สรยุทธ” ไร้วิญญาณคนข่าว กรรมกรข่าวไปแล้ว ผิดกับเรื่องอื่นที่ไม่เคยพลาดมาก่อน
เรื่องนี้พอเข้าใจได้ เพราะ “สรยุทธ” เอง ก็เพิ่งได้รับการลดโทษตามเงื่อนไขที่เป็นปัญหานี้ จึงถูกจำคุกจริงไม่กี่ปี ก็ออกมาแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า จรรยาบรรณและวิชาชีพ ก็ยังมีสิ่งที่เหนือกว่า?
ประเด็น ของ “ฝ่ายค้าน” ยิ่งสะท้อนชัดว่า ฝ่ายค้านในการเมืองไทย ย่ำแย่แค่ไหน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้องมากเพียงใด ยิ่งกว่านั้น ข้ออ้างที่ว่าทำเพื่อประชาชนนั้น ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมา แถมอาจแอบหวังอยู่ลึกๆ ก็เป็นได้ว่า กรณีลดโทษดังกล่าว จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง ด้วย ถ้าหากตกเป็นผู้ต้องหา?
หรือ บางพรรคก็แทบไม่สนใจอะไร นอกจากหาเรื่องมาตรวจสอบ “สถาบันฯ” และเรื่องที่กระทบกับแนวทางต่อสู้ทางการเมืองของตัวเอง ต่อให้เรื่องลดโทษคดีทุจริต คดีร้ายแรงสำคัญแค่ไหนก็ตามหรือไม่?
และเรื่องของ “โฟกัส” สาวน้อย 3 นิ้ว ก็คงอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะถ้าให้เลือกระหว่างอุดมการณ์ความเชื่อ กับความเป็นพ่อลูก ถือว่า ไม่ง่ายที่จะเทไปทางใดทางหนึ่ง เพราะอาจกลายเป็นปัญหาครอบครัวได้ ดังนั้น การหยุดเคลื่อนไหวเอาไว้ก่อน จึงอาจเป็นทางเลือกของเธอ และคำร้องขอจากพ่อ ก็เป็นได้ เพราะแน่นอนว่า จะต้องมีผลต่อฐานเสียงไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถือว่า เป็นคู่อริตัวเป้งของ “3 นิ้ว” ด้วย
สรุปแล้ว ไม่ต้องอะไรมาก ทุกประเด็นต่างมีวาระของตัวเองเป็นใหญ่ การเงียบ! เท่านั้น ที่ไม่ต้องบาดเจ็บหนัก จากเรื่องนั้นๆ หรือไม่จริง?