xs
xsm
sm
md
lg

คารวาลัย “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ นักต่อสู้เพื่อคนจน ** ป๊อดกันหมด? ผู้ใหญ่ “อีแอบ” ขอปั่นหัวม็อบเด็กอยู่ห่างๆ ตามฟอร์ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** คารวาลัย “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ นักต่อสู้เพื่อคนจน
14 พฤศจิกายน 2564 เป็นวันเศร้าอีกวันของพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อ “อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” 1 ใน 5 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เสียชีวิตลง หลังจากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยเส้นเลือดใหญ่บริเวณก้านสมองแตกเฉียบพลัน มาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 สิริอายุได้ 71 ปี

“อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” เป็นใน 1 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ที่พี่น้องมวลชนจดจำได้ดี ในช่วงการชุมนุม 193 วัน บริเวณทำเนียบรัฐบาลและแยกมัฆวานรังสรรค์ ในปี 2551 ด้วยลีลาการปราศรัยที่ดุเดือด แต่มีสาระ จริงจังแต่ไม่เครียดจนเกินไป มีวลีเด็ดที่ติดหูคนฟัง เช่น “กะแล้วแต๊ว่ะ” ซึ่งหมายถึงไม่สามารถจัดการอะไรได้แล้ว หรือคำว่า “เหี้ย ตะกวด แลน” ที่หมายถึงนักการเมืองที่ชั่วช้า สามานย์ ทุจริตคอร์รัปชัน

ไม่ใช่แต่เก่งบนเวทีปราศรัย “อ.สมเกียรติ” ยังมีความสามารถในการจัดการมวลชน ในช่วงการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ อ.สมเกียรติ ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมแกนนำให้ร่วมกับ “ศิริชัย ไม้งาม” ดูแลมวลชนให้อยู่แต่ภายในบริเวณล็อบบี้ ไม่ไปทำลายทรัพย์สินของราชการ ซึ่ง อ.สมเกียรติ ก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่มีอะไรเสียหาย

“อ.สมเกียรติ” ไม่ได้ทำงานเพื่อมวลชนเฉพาะในนามแกนนำพันธมิตรฯ แต่ยังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ในฐานะนักวิชาการอิสระนักต่อสู้เพื่อประชาชน เกษตรกร คนจน และผู้ยากไร้ ร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองภาคประชาชนมาเกือบทั้งชีวิต นับแต่แต่ครั้งยังเป็นนักศึกษา เคยดำรงตำแหน่งผู้นำนักศึกษาสมัย 14 ตุลาคม 2516 ในนาม “ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มหาสารคาม ในปี 2517 เปลี่ยนย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ได้เป็น “ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (8 วิทยาเขต)” และในช่วงเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ดำรงตำแหน่ง “ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏ” คนแรก จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทั้งหมด 40 แห่ง

“อ.สมเกียรติ” ได้รับเสียงชื่นชมในฐานะอาจารย์สถาบันราชภัฏนครราชสีมา เป็นครูที่มีความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยม เป็นครูที่ไม่ได้สอนลูกศิษย์เฉพาะในห้องเรียน แต่ได้ออกเยี่ยมเยียน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ สอบถามถึงชีวิตครอบครัวของลูกศิษย์ด้วย

ขณะเดียวกัน ก็ยังลงสนามต่อสู้เพื่อคนยากคนจน ด้วยการเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นที่ปรึกษาสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน (สกย.อ.) และสมัชชาคน ก่อนที่จะมาเป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ขับไล่ระบอบทักษิณมาตั้งแต่ต้นปี 2549

ในสนามการเมือง “อ.สมเกียรติ” เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบสัดส่วน ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งเมื่อปลาย 2550 จากการชักชวนของ “ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ” ที่รู้จักสนิทสนมกันมาก่อน แต่เมื่อได้รับเลือกตั้ง อ.สมเกียรติ ก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ยอมถูกกลืนด้วยระบบการเมืองน้ำเน่า อ.สมเกียรติ ยังคงร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ แม้ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล แต่ล้มเหลวเรื่องเขาพระวิหาร อ.สมเกียรติ ก็ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตี เป็นเหตุให้ อ.สมเกียรติ ถูกบีบให้ลาออกจากพรรค และออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรฯ เพื่อรณรงค์ “โหวตโน” ในการเลือกตั้งปี 2554

ในช่วงปี 2556-2557 “อ.สมเกียรติ” ได้เข้าร่วมกับ กปปส. ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นนอมินีของทักษิณ ชินวัตร จนถูกดำเนินคดี เมื่อรวมกับคดีสมัยเป็นแกนนำพันธมิตรฯ ก็เป็นหลายสิบ ภารกิจหลังจากนั้นส่วนใหญ่จึงเป็นการไปขึ้นศาล แต่ อ.สมเกียรติ ก็ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาสมาพันธ์ครูอีสานในการแก้ปัญหาหนี้สินครู และร่วมเป็นแกนนำต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของทุนใหญ่ค้าปลีกที่ส่งผลให้โชวห่วยล่มสลาย

“อ.สมเกียรติ” เคยบอกว่า สิ่งที่ภาคภูมิใจมากที่สุด คือ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นที่ปรึกษาสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน, สมัชชาคน และเป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ในการเคลื่อนไหวต่อต้านขับไล่รัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนอมอนี

ก่อนเสียชีวิต “อ.สมเกียรติ” ได้แสดงเจตนารมณ์อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะเป็นศิษย์เก่า ส่วนพิธีบำเพ็ญกุศลศพ จะมีขึ้นที่ชุมชนสีมาอโศก อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 15-17 พ.ย. ตามที่ อ.สมเกียรติ เคยบอกภรรยาไว้

“ข่าวปนคน คนปนข่าว” ขอแสดงความคารวะในจิตใจความเป็นนักต่อสู้ และอาลัยต่อการจากไปของ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ไว้ ณ โอกาสนี้



** ป๊อดกันหมด? ผู้ใหญ่ “อีแอบ” ขอปั่นหัวม็อบเด็กอยู่ห่างๆ ตามฟอร์ม

การนัดชุมนุมใหญ่ของม็อบ 3 นิ้ว เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องสามแกนนำและการชุมนุมวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เป็นการล้มล้างการปกครอง เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) นั้น ถูกจับตามองจากสังคม นอกจากการประกาศว่า จะจัดกิจกรรมต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ปกป้องระบอบประชาธิปไตย แล้วยังต้องการจะทราบว่าจะมีบรรดา “ผู้ใหญ่” ที่ให้การสนับสนุนเด็กออกมาเป็นแกนนำหรือสู้เคียงข้างเด็กหรือไม่

ก่อนม็อบจะเริ่ม ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เห็นนัดชุมนุมใหญ่ท้าทายอำนาจศาล ห้าวเป้ง ขนาดจัดใช้กราฟิกกิโยติน ??? ออกมากันเยอะๆ จะได้เห็น ตร. ทหาร มาช่วยกันเก็บกวาดขยะ รกบ้านเมืองสักที ขอเฝ้ารอดูอยู่อย่างใจจดใจจ่อครับ

“อยากเห็นหน้าอาจารย์ พวกหัวสี่เหลี่ยม ช้างลากครก รวมถึงนักการเมือง และพรรคการเมือง ที่แอบปั่นหัว และดันหลังเด็กขึ้นเวที และแอบส่งโพยใส่มือเด็ก จะกล้าหาญขึ้นเวทีประกาศนำม็อบและอ่านโพยที่เคยใช้เด็กอ่านจนติดคุก แล้วบอกว่าเป็นสิทธิ เสรีภาพ อยากเห็นหน้าจัง อาจารย์ อาจม แก่ๆ ทั้งหัวหงอกหัวดำและเหล่าอีแอบทั้งหลายจัง แต่อย่าลืมเชิญผู้เฒ่า แก่กะโหลก กะลา มาด้วยนะครับ กล้าๆ หน่อยนะครับ

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” ระบุว่า ขอกราบวิงวอน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรณิการ์ วาณิช สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ประจักษ์ ก้องกีรติ พวงทอง ภวัครพันธุ์ ทัศนัย เศรษฐเสรี ชัยธวัช ตุลาธน ธนาพล อิ๋วสกุล ณัฐพล ใจจริง ยุกติ มุกดาวิจิตร อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รังสิมันต์ โรม กรุณาออกมานำม็อบเอง และปราศรัยบนเวทีอย่างกล้าหาญศาลรัฐธรรมนูญ รอท่านทั้งหลายอยู่ครับ

แต่ไม่ว่า “ท่านใหม่” หรือ “อ.อานนท์” จะท้าทาย และมีชาวเน็ตไม่น้อยที่ออกเสียงให้ผู้ใหญ่อีแอบออกมาสักที เรื่องจะได้จบๆ ก็ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเหล่าบรรดาหัวหงอกหัวดำ ที่ถูกเอ่ยถึงก็เลือกอยู่ในที่ตั้งเหมือนที่ผ่านๆ มา

เห็นว่า บรรยากาศการชุมนุมของ “ม็อบสามนิ้ว” ก็ยังเป็นไปในแบบที่ไม่มี “ตัวใหญ่” มาร่วม โดยเป็นกลุ่มเด็กๆ เยาวชน จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มทะลุฟ้า นำผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการนำศาลพระภูมิมาวาง และทำลาย ก่อนจะจุดไฟเผาร่วมกับหุ่นฟางสวมชุดครุย พร้อมตะโกนว่าประชาชนไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่า การปฏิรูป ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง

อันว่า เหล่าผู้ใหญ่อีแอบ ยังขอแอบในที่ตั้งนี้ นี่ก็ไม่ผิดคาด หรือจะเรียกว่า “ตามฟอร์ม” ก็คงไม่ผิด เพราะหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี ล้มล้างการปกครอง นาทีนี้ขืนมามีเอี่ยว เชียร์ และปลุกระดมเด็กออกหน้า ซึ่งก็เห็นๆ กันว่า ม็อบเด็กเสี่ยงกับการทำผิดกฎหมาย เสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง เสี่ยงชีวิตและเสียอนาคต ไม่มีวันกล้าไปร่วมม็อบ เพราะ รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดและเสี่ยงที่จะเดินเข้าคุกไปด้วย

งานนี้ สู้ไปก็เสี่ยง ขอตามบทถนัดเป็น “อีแอบ” ต่อไปดีกว่า




กำลังโหลดความคิดเห็น