จอม เพชรประดับ อดีตสื่อมวลชนลี้ภัยในสหรัฐฯ แนะพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “พรรคพวกชินวัตร” ไปเลยหมดเรื่อง หลังเห็นชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” ดันนารีขี่ม้าขาวซีซัน 2 ด้าน “แรมโบ้ เสกสกล” เห็นด้วยสุดตัว ชี้โดนกับตัวเอง ใครไม่ทำตามนายใหญ่ห้ามลงเลือกตั้ง ตัดโบนัสประจำเดือน ยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย เตือนหากเล่นการเมืองแบบเก่าจะไม่เหลือ ส.ส.คุณภาพ
วันนี้ (27 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก “Jom Petchpradab” ของนายจอม เพชรประดับ อดีตผู้สื่อข่าวและพิธีกรรายการสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และวอยซ์ทีวี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีความมั่นคง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่สื่อฉบับหนึ่งวิเคราะห์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มีการพูดถึงชื่อ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน ในการชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ว่า
“พรรคเพื่อไทย ควรจะเปลี่ยนเป็นพรรคพวกชินวัตรมากกว่า
หากเป็นไปตามที่มติชนวิเคราะห์ ก็น่าจะถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทยควรจะเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น “พรรคพวกชินวัตร” ไปเลย จะได้หมดเรื่อง หมดข้อกังขา กระจ่างแจ้งกันไปเลย
แสดงว่ายังไม่เข็ดหลาบกับการเล่นการเมืองแบบวงศาคณาญาติ เหมือนอย่างที่พันธมิตรฯ หรือ กปปส. เคยต่อต้านขับไล่จนบ้านแตก คนในครอบครัวแต่ละคนต้องมีอันเป็นไป อยู่ในแผ่นดินบ้านเกิดตัวเองไม่ได้
เล่นการเมืองแบบนี้ พรรคการเมืองพรรคนี้จะใช้ความชอบธรรมตรงไหน ไปกล่าวหา ตรวจสอบ ทหารที่เอาพี่เอาน้อง เอาคนในครอบครัวมาทุจริตโกงกินบ้านเมืองอยู่เวลานี้
ถึงว่านักการเมืองที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์หลายต่อหลายคนในพรรคนี้จึงอยู่ในสภาพไร้ค่า ไร้ความหมาย ทำอะไรกันไม่ค่อยได้ เลยต้องหนีหายไปทีละคนสองคน จนเกือบไม่เหลือไว้เป็นเสาหลักย้ำยันหลักการประชาธิปไตยที่พรรคเชิดชูเป็นหนักเป็นหนาอีกต่อไป
ยุทธศาสตร์ทางการเมืองของพรรคนี้ยังคงชูนโยบาย ปากท้อง ฟื้นเศรษฐกิจเป็นหลักชัยสำคัญ ไม่ผิดนักหรอก แต่จะพลาดอย่างมหันต์ เพราะตลอด 10 หรือ 20 กว่าปีที่ผ่านมา วิกฤตการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนานในสังคมไทย ได้สร้างสำนึกใหม่ให้กับคนไทยส่วนมากแล้ว
เศรษฐกิจจะดีไปได้อย่างไร เมื่อทุนใหญ่ยังผูกขาดทุกอย่างในประเทศนี้ หรือชัยชนะทางการเมืองของเพื่อไทย เพื่อหวังพื้นที่ในทุนผูกขาดอยู่แล้วในประเทศนี้หรืออย่างไร
หรือหากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นจริงๆ จะมีหลักประกันอะไรว่าเครือข่ายราชสำนักฯ ซึ่งเป็นทุนผูกขาดรายใหญ่ หรือความไม่สมประสงค์ระหว่างทุนผูกขาดรวมทั้งกองทัพด้วยจะไม่นำไปสู่การสร้างวิกฤตให้เกิดกับบ้านเมืองเพื่อจัดสรร ปันส่วนอำนาจและผลประโยชน์กันใหม่
คุณทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีความฉลาดหลักแหลมมีวิสัยทัศน์ในด้านเศรษฐกิจ แต่ในด้านการเมือง คุณทักษิณไม่เคยเปลี่ยน ยังคงใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่ออำนาจและพวกพ้องตัวเองอยู่เหมือนเดิม
นี่ไม่ต้องพูดถึงว่า ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนเด็กเยาวชนต่อสู้ด้วยชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย บาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุกกันเป็นร้อยเป็นพัน แล้วว่าที่ แคนดิเดต หัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่โผล่ชื่อกันออกมาแต่ละคน อยู่ตรงไหนในหน้าประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งสำคัญนี้”
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ปรากฏว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เห็นด้วยที่นายจอมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเหน็บพรรคเพื่อไทยควรเปลี่ยนเป็น พรรคพวกชินวัตร และระบุว่าพรรคการเมืองพรรคนี้จะใช้ความชอบธรรมตรงไหนไปกล่าวหาตรวจสอบคนอื่น พร้อมยังออกมาแฉนายทักษิณไม่เคยเปลี่ยน ยังคงใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่ออำนาจและพวกพ้องตัวเองอยู่เหมือนเดิม
นายเสกสกลระบุว่า เรื่องที่นายจอมออกมาโพสต์เฟซบุ๊กนั้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ ซึ่งตนเองก็เคยอยู่พรรคการเมืองนี้มาก่อนจึงทราบดีถึงพฤติกรรมของพรรค รวมถึงนายทักษิณว่าเป็นอย่างไร จึงไม่แปลกใจที่จะมีคนออกมาแฉพรรคต่อเนื่อง แม้กระทั่ง ส.ส.ในพรรคตนเอง เพราะทนพฤติกรรมไม่ได้
นายเสกสกลยังมองว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่หลุดพ้นจากนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมากลุ่มแคร์มักจะเชิญนายทักษิณร่วมคลับเฮาส์ ให้นายทักษิณวิดีโอคอลคุยสมาชิกพรรค หรือเปลี่ยนเปลี่ยนโลโก้ใหม่ มีตัวหนังสือคล้ายลายมือนายทักษิณ ดังนั้นจึงอยากขอเตือนพรรคเพื่อไทย หากยังเล่นการเมืองแบบเก่า ชูนายทักษิณเช่นนี้จะไม่เหลือ ส.ส.ที่มีคุณภาพไว้ทำงานให้พรรคอีกต่อไป
“ประชาชนเขารู้ทันหมดแล้วว่าพฤติกรรมพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณเป็นอย่างไร กระทำความผิดจนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ และมองว่าพรรคเพื่อไทยคงสลัดนายทักษิณออกไม่ได้ เพราะยังคิดว่าจะสร้างคะแนนนิยมให้พรรคเข้าไปเป็นรัฐบาลได้ และจะตอบแทนนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ) ให้กลับประเทศไทยได้ ผมจึงขอเตือนพรรคเพื่อไทยว่าเล่นการเมืองแบบเก่าๆ นอกจากจะไม่ได้รับคะแนนนิยม ส.ส.ดีๆ ในพรรคก็อาจไม่เหลือแล้ว”
นายเสกสกลกล่าวว่า ในอดีตตนเจอกับตัวเองมาแล้วว่าถ้า ส.ส.คนไหนไม่ทำตามคำสั่งของนายใหญ่ก็จะถูกห้ามลงสมัครเลือกตั้ง หรือไม่จ่ายเงินโบนัสประจำเดือนให้ ทุกอย่างต้องทำตามมติพรรค ห้ามฝ่าฝืนมติเด็ดขาด ยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย เสมือนพนักงานบริษัทอย่างไรอย่างนั้น ศักดิ์ศรีความเป็น ส.ส. ตัวแทนของประชาชนไม่เหลืออะไรเลย เหมือนกรณีจะออก พ.ร.ก.นิรโทษสุดซอย มีบุคคลที่ชื่อว่า “เจ๊ ด.” บังคับ ส.ส.ทุกอย่างเพื่อให้ ส.ส.ลงคะแนนผ่าน พ.ร.บ. ประชุมถึงตีสี่ตีห้าเพื่อช่วยพี่ชายนายทักษิณพ้นโทษฟอกคดีทุจริต ล้างทุกคดี เอานายทักษิณกลับมาให้ได้
“นี่ไงคือระบบทักษิณ ระบบเผด็จการรัฐสภาที่บังคับ ส.ส.เหมือนทาส เอาเงินอุดปากเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ตามที่ตนเองและครอบครัวต้องการ ที่จริงต้องเรียกพรรคพวกชินวัตรมาตั้งแต่ยุครัฐบาลไทยรักไทยแล้ว เสียดายนายจอม คิดตั้งชื่อพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคพวกชินวัตรล่าช้าเกินไป ควรเปลี่ยนชื่อนี้ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลจึงจะถูกต้อง” นายเสกสกลระบุ
อ่านโพสต์ฉบับ คลิกที่นี่