เมืองไทย 360 องศา
แม้ว่าจะยังไม่ได้ประกาศออกมาจากเจ้าตัว คือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะ “ไปต่อ” หรือไม่ หรือการรับการเสนอชื่อจากพรรคการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เพราะสิ่งที่ชัดเจนเวลานี้ ก็คือ เขาย้ำเพียงว่า “ไม่ยุบสภา” จะอยู่จนครบวาระ ซึ่งในความหมายคือ ปี 2566
อย่างไรก็ดี ในช่วงสัปดาห์ก่อนระหว่างที่เขาลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีคำพูดที่ได้ยินว่า “ขอเวลาอีก 5 ปี” ซึ่งที่ผ่านมา คนใกล้ชิด หรือโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธรกร วังบุญคงชนะ ก็เคยอธิบายในลักษณะที่ว่า “ให้รอดูผลงานใน 5 ปี” เป็นความหมายในแบบว่าจะเห็นผลงานออกดอกออกผลใน 5 ปีข้างหน้า เช่น ผลงานจากโครงการอีอีซี โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เริ่มเสร็จสมบูรณ์อะไรประมาณนี้
หากพิจารณาจากท่าทีและความเคลื่อนไหวเท่าที่เห็นในเวลานี้ ทั้งหมดก็ต้องเชื่อแบบเต็มร้อยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการ “ไปต่อ” แน่ นั่นคือ ต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ หรืออีก 5 ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ และจากปัจจัยสนับสนุนรอบด้านแล้ว สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นาทีนี้ก็ยังถือว่า “เหนือกว่า” ฝ่ายตรงข้ามอยู่มากพอสมควร ไม่ว่าจะพิจารณาจากผลสำรวจที่ออกมาทุกครั้ง เมื่อถามถึงคะแนนนิยมของบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนเมื่อเทียบกับคนอื่น
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องถูกโหมโจมตี ถูกดิสเครดิต จากฝ่ายตรงข้าม หรือคู่แข่งทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อได้เห็นแนวโน้มไปต่อดังกล่าว มันก็ยิ่งต้องถล่มหนักหนักขึ้นอีกหลายเท่า
แน่นอนว่า หากโฟกัสเน้นไปที่ฝ่าย นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “แม้ว” หรือในชื่อเรียกแบบฝรั่งหลังหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ นามว่า “โทนี่ วู้ดซั่ม” ที่ถือว่าเป็นคู่อริตลอดกาลก็ย่อม “นั่งไม่ติด” เพราะหากเป็นจริง มันก็ยิ่งหายนะสำหรับตัวเขา และรวมไปถึงครอบครัวของพวกเขา
การออกมาแสดงความเห็นล่าสุดผ่านเครือข่ายการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่มีเจตนา “ดิสเครดิต” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกลุ่ม “สาม ป.” ที่รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยอ้างว่า “หมดยุค” ของคนรุ่นนี้แล้ว และสมควรเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ และยังทำท่ายกมือไหว้ขอร้องให้หยุดได้แล้ว อะไรประมาณนั้น พร้อมกันนี้ ยังได้โจมตีชี้ให้เห็นว่า 7 ปีที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายมากมาย ยังคิดที่จะไปต่อไปอีก 5 ปีหรือ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในมุมการเมือง สำหรับคู่แข่งแล้วย่อมมองออกได้ไม่ยาก ว่า นายทักษิณ ชินวัตร กำลังหวั่นไหวอย่างหนัก กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรืออยู่ในอำนาจในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะนั่นเท่ากับ “หายนะ” สำหรับเขาเลยทีเดียว
เพราะอย่างที่รับรู้กัน ก็คือ หากนับตั้งแต่วันที่เขาหลบหนีคดีทุจริต หากนับเฉพาะหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสู่อำนาจมานานกว่า 7 ปี ซึ่งถือว่า นานมากสำหรับเขา เพราะเป็นช่วงที่เขา และครอบครัวไร้ซึ่งอำนาจ ทั้งอำนาจโดยตรงหรือ “ผ่านนอมินี” ทั้งตัวบุคคลในฐานะ “นายกฯ หุ่นเชิด” และผ่านพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน อย่างที่รู้กันอีกว่า นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการกลับประเทศไทย โดยไม่มีความผิด เช่น การอภัยโทษ หรือ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมในแบบที่เคยทำ คือ “ยกเข่ง สุดซอย” ซึ่งหากจะทำเช่นนั้นได้ ก็ต้องให้พรรคการเมืองของเขาได้เป็นฝ่ายรัฐบาล แต่ตราบใดก็ตาม หากยังมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในสนาม มันก็ยังเป็นตัวขัดขวางชิ้นโต และเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบรอบตัวในเวลานี้ รวมไปถึงอนาคตข้างหน้า ก็ยังถือว่ายังต้องเจอ “ศึกหนัก” ในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากบทบาทของพรรคเพื่อไทย หากยังเชื่อว่า นี่คือ พรรคการเมืองของเขา ก็ต้องบอกว่า “น่าผิดหวัง” ก็อาจพูดเกินไป แต่เอาเป็นว่าตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ถือว่า “ไม่โดดเด่น” เลย ทุกอย่างเป็นแต่เรื่อง “กินบุญเก่า” ทั้งสิ้น หรือแม้แต่การเลือกตั้งคราวหน้า หลายคนก็ยังมองแบบเดิม นั่นคือ ยังอาศัยใบบุญของนายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเช่นเดิม และเวลานี้คนกำลังจับตามองว่า เขาจะหาใครมาเป็นแคดิเดตนายกฯในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นคนที่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว หรืออาจเป็นเครือญาติ เหมือนทุกครั้ง
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ นายทักษิณ ชินวัตร จะจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ต้อง “ไปต่อ” แน่นอน จึงได้ออกมาดิสเครดิต “ถ่มถุย” ตั้งแต่ไก่โห่ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่เกมตื้นๆ เนื่องจากตัวเองเห็นลางหายนะรออยู่ข้างหน้า เพราะงานนี้มีโอกาสกลับมาแบบเท่ๆ ดับวูบค่อนข้างแน่ !!