ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ครอบครัวญาติพี่น้องจัดเตรียมสถานที่สีมาอโศกนครราชสีมาเพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลศพ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีตแกนนำ พธม. กำหนดรดน้ำศพพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ก่อนมอบร่างให้ รพ.ศรีนครินทร์ 16 พ.ย. ภรรยาเผยทั้งน้ำตาเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว เปิดประวัติจากผู้นำนักศึกษาสู่นักวิชาการและนักต่อสู้การเมืองภาคประชาชน
ช่วงค่ำวันนี้ (14 พ.ย.) ที่พุทธสถานสีมาอโศกนครราชสีมา (บวรสีมาอโศก) เลขที่ 64 หมู่ 5 ถนนทางหลวงหมายเลข 224 สายนครราชสีมา-โชคชัย (หลัก กม.13) ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครอบครัวญาติพี่น้อง พร้อมญาติธรรมชุมชนสีมาอโศกได้มีการจัดสถานที่เตรียมพร้อมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ อดีต ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เสียชีวิตอย่างสงบวันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
โดยวันพรุ่งนี้ ( 15 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ทางญาติมีกำหนดจะเคลื่อนย้ายร่างนายสมเกียรติออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ พุทธสถานสีมาอโศกนครราชสีมา จากนั้นเวลา 16.00 น. จะประกอบพิธีรดน้ำศพ, เวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม โดย สมณะจันทร์ จันทเสฏโฐ, เวลา 18.00 น. พิธีรำลึก อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
วันอังคารที่ 16 พ.ย. 64 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น มารับร่างนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ในเวลา 14.00 น., เวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม, เวลา 18.00 น. พิธีรำลึกถึง อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และวันพุธที่ 17 พ.ย. 64 เวลา 17.00 น. พิธีแสดงธรรม, เวลา 18.00 น. พิธีรำลึกถึง อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ โดยไม่มีพิธีฌาปนกิจศพ เนื่องจากนายสมเกียรติได้บริจาคอุทิศร่างกายให้แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยทางโรงพยาบาลฯ จะมารับร่างของนายสมเกียรติในวันที่ 16 พ.ย. 64 ดังกล่าว
สำหรับค่ำวันนี้ได้มีการจัดรายการสดผ่านทาง face book live สถานีบุญนิยมทีวี ของสีมาอโศก โดยเชิญผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ รวมถึง นางสาวศิลวี (น้องเต็ง) พงษ์ไพบูลย์ ลูกสาว ได้พูดถึงคุณงามความดีและความประทับใจที่มีต่อนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และแสดงความประทับใจในแง่มุมต่างๆ เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของนายสมเกียรติต่อญาติมิตรและคนรู้จัก
ด้าน นางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ ภรรยานายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจมีบรรดาญาติธรรมเข้ามาให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างมาก นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว ไม่คิดว่า อ.สมเกียรติจะจากไปเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ยังไม่ได้สั่งเสียอะไรไว้เลย และจากการเฝ้าดูอาการของอาจารย์สมเกียรติตั้งแต่ผ่านการผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ อาจารย์สมเกียรติก็ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ เลย และตนเชื่อว่าวันนี้จะต้องมาถึง ซึ่งในระยะหลังนี้อาจารย์สมเกียรติเคยจะเข้ามาปฏิบัติธรรมอยู่ที่สีมาอโศกเป็นประจำ ในทุกวันเสาร์จะมาตักบาตรและรับประทานอาหารร่วมกันกับญาติธรรม มีความผูกพันกับสถานที่แห่งนี้มากจึงเลือกที่จะมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ อ.สมเกียรติไว้ที่นี่ และในเวลา 14.00 น. ทางโรงพยาบาลศรีนครินทร์จะมารับศพเพื่อเข้าสู่กระบวนการเป็นอาจารย์ใหญ่ต่อไป
สำหรับประวัติของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2493 สิริรวมอายุได้ 71 ปี เป็นชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) สาขาภาษาไทย-ประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระดับปริญญาโทศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) สาขาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้านคู่ครอง สมรสกับ นางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ อดีตข้าราชการครูเกษียณ มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน
ประวัติการทำงาน “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” เริ่มรับราชการเป็นครูที่โรงเรียนวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.นครราชสีมา และย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเป็นเวลานานถึง 31 ปี ต่อมาได้ลาออกจากข้าราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในปลาย พ.ศ. 2550 โดยลงเลือกตั้งในระบบสัดส่วน กลุ่ม 6 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (พ.ศ. 2550-2554) หลังการยุบสภาฯ ใน พ.ศ. 2554 จึงได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์และวางมือทางการเมือง ซึ่งปี พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
ในอีกด้านสำคัญ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะนักวิชาการอิสระ นักต่อสู้เพื่อประชาชน เกษตรกร คนจนและผู้ยากไร้ ร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองภาคประชาชนมาเกือบทั้งชีวิต นับตั้งแต่ยุคเป็นนักศึกษา เคยดำรงตำแหน่งผู้นำนักศึกษาสมัย 14 ตุลาคม 2516 เป็น “ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) มหาสารคาม” ในปี 2517 เปลี่ยนย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ได้เป็น “ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (8 วิทยาเขต)” และในช่วงเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้ดำรงตำแหน่ง “ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏ” คนแรก จากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้งหมด 40 แห่ง
นายสมเกียรติเคยระบุว่า สิ่งที่ภาคภูมิใจมากที่สุด คือ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นที่ปรึกษาสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน (สกย.อ.), สมัชชาคนจย (สคจ.) และเป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่มีบทบาทในการชุมนุมเมื่อ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2551 ในการเคลื่อนไหวต่อต้านขับไล่รัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนอมินี
นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556-2557 นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นผู้หนึ่งที่เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเข้าเป็นแนวร่วมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และถูกดำเนินคดีหลายคดีหลายข้อหาต่างกรรมต่างวาระ หลายคดีศาลได้พิพากษาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว บางคดีถูกตัดสินลงโทษจำคุกต้องไปใช้ชิวิตอยู่ในเรือนจำ และอีกหลายคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ตราบลมหายใจสุดท้าย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ยังยืนหยัดยึดมั่นในอุดมการณ์สูงสุดของเขา คือ หยุดทุนสามานย์ ต่อต้านการทุจริต และต่อสู้กับผู้ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ (ดังที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก Somkiat Ponpaiboon 12 ธ.ค. 2561)
ขอแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้เป็นครูบาอาจารย์ นักวิชาการ นักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ เสียชีวิตอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พ.ย. 2564 สิริรวมอายุ 71 ปี