ข่าวปนคน คนปนข่าว
**พปชร. ของลุงๆ ต้องวัดพลังภายในกันอีกรอบ เพื่อชี้ชะตา “ธรรมนัส”
การปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสอย “ร.อ.ธรรสนัส พรหมเผ่า” ลงจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตามโมเดลที่เคยใช้สอย “กลุ่มสี่กุมาร” คือ ให้กรรมการบริหารพรรคลาออกเกินกึ่งหนึ่ง นั้นทำไม่สำเร็จ
ว่ากันว่า เมื่อวันก่อนมีการล็อบบี้กันอุตลุด ... “สายลุงตู่” ก็ยกหูกันเรียงตัวเพื่อให้เซ็นชื่อลาออก ขณะที่ “สายผู้กองธรรมนัส” ซึ่งมี “วิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรค และประธานวิปรัฐบาล ยืนเคียงข้าง ก็ให้อยู่เฉยๆ อย่าเซ็นลาออก รอ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นคนตัดสินใจ ...และว่ากันว่า ในที่สุด “ลุงป้อม” ก็ได้ต่อสายหากรรมการบริหารพรรคทุกคนว่า บอกว่าอย่าเพิ่งลาออก และให้ไปพูดคุยกันในที่ประชุมกกรรมการบริหารพรรค วันนี้ (28 ต.ค.)
ถึงกระนั้นก็มีรายงานข่าวว่า จากกรรมการบริหารพรรคจำนวน 22 คน มีเซ็นลาออกแล้วถึง 9 คน ได้แก่ 1. สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม 2. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม 3. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ 4. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน 6. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม 7. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง 8. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี และ 9. นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช
ชัดเจนว่า กำลังหลักของ “สายลุงตู่” คือ กลุ่มสามมิตร กลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง และภาคตะวันออก... ส่วนที่เหลือก็มีทั้งกลุ่มที่อยู่ใน “สายผู้กองธรรมนัส” และกลุ่มกลางๆ ที่รอสัญญาณจาก “ลุงป้อม”
“ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ พูดชัดว่า ที่ “ลุงตู่” เรียกรัฐมนตรีไปพูดคุย เพราะเป็นห่วงงานด้านสภา จะทำอย่างไรให้ราบรื่น เพราะเมื่อเปิดสภาก็จะมีการโหวตกฎหมายสำคัญๆ อย่างเช่น พ.ร.ก.โรคติดต่อ, พ.ร.ก.เงินกู้ รวมไปถึง พ.ร.บ.ปกติอื่นๆ ด้วย จึงต้องคุยกันเพื่อความเรียบร้อย...ความหมายก็คือ ไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้ “ผู้กองธรรมนัส” อยู่ในตำแหน่งเลขาฯพรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ให้คุณให้โทษกับ ส.ส.ได้ ถ้าผู้กองธรรมนัสยังอยู่ เสียง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ก็จะไม่เป็นเอกภาพ
ขณะที่ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ก็ออกมายืนยันว่า ถ้าตนเองยังอยู่ในจุดนี้ คือ เป็นรองหัวหน้าพรรค และประธานวิปรัฐบาล รับรองว่าจะไม่ให้มีปัญหาเรื่องเสียงโหวตในสภา ที่ผ่านมานั้น เสียงโหวตในที่ประชุมที่หายไปนั้น ส่วนใหญ่เป็นเสียงของรัฐมนตรี ต้องโทร.ตามตัวกันเป็นประจำ
ส่วนสถานการณ์ และปัญหาภายในพรรคจะมีบทสรุปอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับ “ลุงป้อม” ที่จะพูดจากับกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค ซึ่งจะมีการหารือกันในที่ประชุมมกรรมการบริหารพรรควันนี้ (28 ต.ค.)
ก็ต้องจับตาว่า “ลุงป้อม” จะมีทางออกอย่างไรเพื่อให้ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ ... เพราะข้างหนึ่งนั้นเป็น “น้องรัก” ส่วนอีกข้างก็เป็น “ลูกพรรคที่เอ็นดู”
**ควันหลง “ยันตระ” ซาโยนาระ หวานหยดจนหยาดสุดท้าย ถ้าเธอไม่ทิ้งธรรม ฉันไม่ทิ้งเธอ
ควันหลังการกลับมาเมืองไทย ฉลองเบิร์ธเดย์ 70 ปี ก่อนจะบินกลับอเมริกาไปแล้ว ของ “วินัย ละอองสุวรรณ” หรืออดีตพระยันตระ ผู้อื้อฉาวเสพเมถุน ยังเป็นประเด็นให้สังคมได้พูดตามหลัง
ระหว่างที่มาอยู่เมืองไทย “วินัย ละอองสุวรรณ” ในลุคหนวดเครายาวเฟื้อย ห่มคลุมร่างด้วยชุดเก่งดูคล้ายผู้ทรงศีล ตกเป็นข่าวสร้างความอเนจอนาถใจ ให้กับสังคมเมื่อปรากฏภาพของเขากับพระสงฆ์ประมาณ 20-30 รูป กำลังก้มกราบ ตามด้วยคลิป อดีตพระยันตระ นำกายบริหารทั้งพระและฆราวาส ด้วยท่วงท่าลีลาสนุกสนานเกินห้ามใจ พอมีคลิปโผล่โซเชียลฯ ลูกศิษย์ก็หัวร้อน ออกมาจี้ให้คนปล่อยคลิปออกมาขอขมาด่วน แช่งชักหักกระดูก ว่าไม่อย่างนั้นอาจจะต้องพบกับความเสียใจ อาจนำความวิบัติใหญ่มาสู่ตัวเอง ครอบครัว หรือวงศ์ตระกูล แต่ถ้าไปขอขมา โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบา ...ว่าไปนู่น
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และบางส่วนเรียกร้องให้สำนักพุทธฯ ทำอะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดท้าย “วินัย ละอองสุวรรณ” ได้เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา ซึ่งฟังว่า ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีพระสงฆ์ แม่ชี และลูกศิษย์รวมกว่า 50 คน มารอส่ง พร้อมมีพระสงฆ์ร่วมเดินทางไปด้วย 3 รูป
มีภาพระหว่างที่ “อดีตพระยันตระ” กำลังเดินเข้าไปรอเครื่องบิน ได้ใช้มือตบศีรษะลูกศิษย์ พร้อมยกมือไหว้ ส่วนพระสงฆ์ที่ร่วมเดินทางมาส่ง ก็ได้พูดว่า “ซาโยนาระ” ก่อนที่อดีตพระยันตระ จะเดินเข้าไปภายในห้องพักสำหรับผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องบิน
ด้านเฟซบุ๊ก ยันตระ แห่งสุญญตาราม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ท่านพระอาจารย์ยันตระ ก่อนท่านขึ้นเครื่องบิน ท่านแสดงคติธรรมว่า ถ้าเธอไม่ทิ้งธรรม ฉันก็ไม่ทิ้งเธอ ถ้าเธอทิ้งธรรม ฉันก็ทิ้งเธอ ถ้าปฏิบัติธรรม ภาวนาอยู่เสมอ กระแสพลังจิตภาวนาก็จะส่งถึงท่านพระอาจารย์ได้ และท่านก็ส่งถึงผู้บุคคลนั้นผู้ประพฤติธรรมเช่นกัน Cr. Golden bright”
เรียกว่า หวานหยดจนหยาดสุดท้าย จริงๆ
งานนี้ชาวเน็ตก็ไม่พลาดที่จะตาม (สวด) ส่ง ด้วยข้อความ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่ต้องกลับมาอีกนะ ศาสนาพุทธดีๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องมาเติมอะไรอีก องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้เป็นเลิศ เป็นธรรมที่ควรบูชาอย่างยิ่งอย่ามาทำให้หย่อนยานเลย ส่วน พส.ที่ห้อมล้อมกราบไหว้ตามส่ง ร่วมขบวนไปกับ "วินัย" สำนักพุทธฯ ก็อย่าลืมตามเช็กบิลด้วยล่ะ..พส.ที่งมงายแบบนี้ รังแต่ทำศาสนาเสื่อมและมัวหมอง
เรื่องของ “ผู้เฒ่าเต่า” กับ ติ่ง เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ .