xs
xsm
sm
md
lg

“โทนี่” เช็กกระแส ดัน “ลูกเขย” ชิงลุงตู่ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง  และ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์
เมืองไทย 360 องศา

ไม่กี่วันก่อน “โทนี่ วู้ดซั่ม” หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีทุจริตในต่างประเทศ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลฯ กับกลุ่มเครือข่ายการเมืองของเขา เรียกร้องและโจมตี “ด้อยค่า” กลุ่ม “สาม ป.” ว่า สมควรจะยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เนื่องจากเห็นว่า “หมดยุค” ของคนพวกนี้แล้ว โดยให้สนับสนุนและเปิดทางให้กับ “คนรุ่นใหม่” เข้ามาแทน

นายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า ตัวเขาซึ่งอยู่ในยุค “เบบี้บูม” ซึ่งหมายถึงคนที่เกิดขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2489-2507 เป็นคนในยุคเก่า ขณะที่คนยุคเจนเอ็กซ์ (2508-2523) เจนวาย (2524-2543) ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ หากสังเกตจากคำพูดดังกล่าวของนายทักษิณ ชินวัตร มีเจตนาที่จะ “ข่มสาม ป.” อันประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำนองว่า “เคยได้ดิบได้ดีเพราะเขาสนับสนุน” มาก่อน ซึ่งต้องพิจารณากันว่าสาเหตุที่ได้รับการสนับสนุนในตอนนั้นเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะมีความสามารถ เหมาะสมหรืออย่างไร

เพราะสิ่งที่ นายทักษิณ ชินวัตร พูดต่อไปนั้น มัน “ย้อนแย้ง” กันเองว่า คนพวกนี้สร้างความเสียหายมากมาย รวมไปถึงการ “ตกยุค” สมควรวางมือเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในแบบการเมืองก็ย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก ว่านี่คือ “เจตนาด้อยค่า” กลุ่ม “สาม ป.” โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำลังส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าต้องการ “ไปต่อ” นั่นคือ จะลงชิงชัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในการเลือกตั้งคราวหน้า มีวาระอีก 5 ปี และที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “พี่ใหญ่ในกลุ่มสาม ป.” ก็ประกาศให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มเดินสายพบประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งหลายคนมองว่านี่คือการเมืองที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ ยังประกาศชัดเจนว่าไม่ยุบสภา จะอยู่จนครบวาระถึงปี 2566

ดังนั้น หากทุกอย่างเดินไปตามกรอบที่กำหนดดังกล่าว จะถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจเกินกว่า 8 ปี ซึ่งถือว่ายาวนาน และหากบวกอีก 5 ปี ในอนาคตก็ต้องถือว่ายาวนานที่สุด ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย กลุ่มขั้วการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นจากอำนาจรัฐยาวนานดังกล่าวเช่นกัน

แน่นอนว่า ในทางการเมืองย่อมมองออกว่า การออกมาพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร ในลักษณะ “ข่มและด้อยค่า” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ สาม ป. นั้น สะท้อนถึงความหวั่นไหวได้อย่างดี เพราะหากหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก ก็ต้องถือว่า “หายนะ” ยับเยิน เพราะ 7-8 ปีที่ผ่านมา ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม แล้วหันกลับไปมองพรรคเพื่อไทย ที่สังคมเข้าใจมานานแล้วว่าเป็นพรรคของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือมีอิทธิพลชี้นำมาตลอด มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนกับการชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะหากมองจากผลงานในเวลานี้ก็ต้องถือว่า “ไม่โดดเด่น” บทบาทยังด้อยกว่าพรรคก้าวไกล ที่เป็นพรรคน้องใหม่ และมี ส.ส.น้อยกว่า และเวลานี้ก็ยังมองไม่เห็นว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ก็ยังมองไม่ออกว่าจะเอาอะไรไปสู้

ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคก้าวไกล ก็มีชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคทั้งหมดแล้ว ยังเหลือเพียงพรรคเพื่อไทย เท่านั้น

แต่เมื่อพิจารณาจากคำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดถึงวัน “เจนเอ็กซ์-เจนวาย” ขึ้นมา ทำให้เป็นที่จับตามองขึ้นมาทันทีว่าเขามีเจตนา “หยั่งกระแส” หยั่งเชิงออกไปล่วงหน้าว่าเตรียมเสนอ “คนรุ่นใหม่” ขึ้นมานำพรรค แต่สำหรับเขาแล้วย่อมต้องหมายถึง “คนรุ่นใหม่ในครอบครัว” นั่นเอง ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า น่าจะเป็น “ลูกเขย” ของเขา นั่นคือ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ นางพินทองทา ชินวัตร ลูกสาวคนโต

อย่างไรก็ดี อีกกระแสหนึ่งก็มีรายงานว่า อาจจะเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เวลานี้เป็นเลขาธิการพรรคประชาชาติ ซึ่งสองคนหลังนี้มีความใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่งเข้าประกวด

ดังนั้น หากพิจารณาถึงความเป็นไปได้ จากคำพูดก่อนหน้านี้ ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาโจมตีและด้อยค่า สาม ป.โดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างน้อยเพื่อดิสเครดิตเอาไว้ตั้งแต่ต้นมือ เพราะจับสัญญาณได้ว่า “ไปต่อ” แน่ ซึ่งนั่นย่อมหายนะสำหรับพวกเขา ขณะเดียวกัน ก็ต้องจับตาให้ดีว่าการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในความหมายของเขานั้น พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดต หรือว่าหวยจะออกที่ “ลูกเขย” อย่างที่มีคนคาดเดากัน หรือไม่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น