ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ขอ “หญิงอ้อ” นำ “เพื่อไทย” งานนี้ “แม่อ้อ” ไม่เอา ก็คงถึงคิว “มาดามอุ๊งอิ๊ง”!?
ตีปิ๊บแต่หัววัน แคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ด้วยพื้นหลังสีแดงสด ที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดตัวเป็น “ธีมหลัก” ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย ที่จะมีขึ้นที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 28 ต.ค. 64 นี้
โดยแกนนำ ส.ส.และสมาชิกพรรค ต่างพร้อมใจกันเปลี่ยนภาพปกบัญชีสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เพื่อรับกับธีมการประชุมใหญ่พรรคในปลายเดือนนี้อย่างพร้อมเพรียง
และก็เชื่อว่า จะใช้เป็น “ธีม” ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปของพรรคเพื่อไทย โดยหากสังเกตคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ที่เขียนเป็นลายมือ ก็เป็นลายมือคุ้นตาของ “นายห้างดูไบ” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดี ที่รู้กันว่าเป็น “เถ้าแก่ใหญ่” ของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง
บวกกับระยะหลังที่ “บิ๊กเพื่อไทย” ในคราบ “กลุ่มแคร์” ก็เอาชื่อ “ทักษิณ” มาแห่เรียกคะแนน จัดรายการให้ “โทนี่ วู้ดซัม” ออกมาจ้อรายสัปดาห์
กลับมาเหมือนสมัย “ไทยรักไทย” หรือสมัย “เพื่อไทย” ที่ใช้มอตโต้ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” อีกครั้ง
สารภาพสิ้นว่า ที่เคยท่องคาถาว่า “ทักษิณ” ต้องการสร้างพรรคเพื่อไทย เป็นสถาบันการเมือง ให้พ้นข้อหา “บริษัท ชินวัตร จำกัด” ก็เป็นแค่ “ปั้นน้ำเป็นตัว” สะท้อนว่า พรรคเพื่อไทย ก็ยังเป็นกิจการในครอบครัวชินวัตรเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ปัญหาคือ พรรคเพื่อไทย วันนี้ ยังเหมือน “ผีหัวขาด” แม้มีชื่อ “เฮียพงษ์” สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แปะอยู่เป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาก็จริง แต่ด้วยวัยเลข 8 นำหน้า ติดปัญหาเรื่อง “ความสด” ทำให้ดันไปถึงขั้นแคนดิเดตนายกฯ ลำบาก
รอบนี้ “เฮียพงษ์” ก็เหมือนเป็น “ผู้นำขัดตาทัพ” ไปพลาง แบบที่ลูกพรรคมองข้ามหัวไปมา รอแค่ “เถ้าแก่” เคาะ “นอมินี” คนใหม่มาเสียบยอดเท่านั้น
รู้กันดีว่าสเปก “เถ้าแก่ดูไบ” ไม่พ้นต้องเป็น “เลือดแท้” ตัวเลือกจึงมีไม่มาก ที่พอไปวัดไปวาได้ ก็มี “เขยพงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ “มาดามเอม” พินทองทา ชินวัตร ที่วันนี้นับว่าเป็น “คนในตระกูล” วางใจให้ดูแลธุรกิจแบบเต็มตัว
ทว่า ติดปัญหาอยู่นิดเดียว ที่ภรรยาสุดที่รักแตะเบรกไว้ เพราะไม่อยากให้อนาคตลงเอยเหมือน “พ่อษิณ-อาปู”
ยังมีการพูดไปถึง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนดัง ที่จู่ๆ ขนาด “สื่อบางค่าย” เชียร์สุดลิ่ม อยากให้มานำทัพเพื่อไทย จับชื่อไปทำโพลสำรวจความนิยมคู่กับ “เขยพงศ์” ว่าใครเหมาะเป็นแคนดิเดตนายกฯของ “ค่ายเพื่อไทย” คะแนนออกมา “เสี่ยนิด” ที่ชื่อติดตลาดกว่า ทิ้งห่างเป็นเท่าตัว
และเป็นที่น่าสังเกตว่า “เสี่ยนิด” ดูจะมีใจให้ไม่น้อย ร่วมแชร์ทวิตเตอร์ของ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องการประชุม ธีมพรรคเพื่อไทย พร้อมทวีตข้อความระบุว่า “สโลแกนใหม่ ก็ล้ำเหนือคู่แข่ง… รูปตัวอักษรทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่ บ่งบอกถึงความเป็นไทย”
ถึงโปรไฟล์ “เสี่ยนิด” จะหนาเตอะ ชื่อเสียงพอขายได้ สำคัญที่ “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เชียร์สุดลิ่ม แต่ก็ติดเงื่อนไขเดิมๆ ตรงที่ว่า “นายใหญ่” น่าจะอยากได้คนที่มีดีเอ็นเอ เดียวกันมากกว่า
ล่าสุด มีคลิปหลุดในงานเลี้ยง ส.ส.เพื่อไทย เมื่อไม่นานมานี้ มี “ทักษิณ” วิดีโอคอล เข้ามาพูดคุยด้วย ไฮไลต์อยู่ที่ช่วงที่ “เฮียเกรียง” เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค ขาใหญ่เมืองอุบลฯ แม่ทัพภาคอีสาน ชงหวานเจี๊ยบให้ “นายหญิงใหญ่” คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภริยานายทักษิณ มานำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
ทั้งที่ “เฮียพงษ์” สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็นั่งหัวโด่ อยู่ในงานด้วย
ได้ยินดังนั้น “ทักษิณ” กลับไม่ปฏิเสธ แต่ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ว่า “อดีตภริยา” ไม่ถนัดปราศรัย ไม่ชอบพูดกับคนเยอะๆ
ว่ากันว่า ที่ ส.ส.เชียร์ให้ “นายหญิง” มานำทัพ ก็หวังว่า จะต่อตรง “ท่อน้ำเลี้ยง” ไม่กระปริบกระปรอย จนแห้งแล้งอดอยากเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
แต่ดูใจ “ทักษิณ” แล้วคงยากที่จะปล่อย “อดีตเมีย” มาลุยด้วยตัวเอง
งานนี้ถ้า “นายแม่” ไม่รับ อาจต้องถึงคิว “รุ่นลูก” แต่ลูกคนที่ว่าคงไม่ใช่ “คุณชายโอ๊ค” ที่แม้จะมีบทบาททางการเมืองมาตลอด ทว่าชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่า
โอกาสจึงหล่นไปถึง “คุณแม่อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องของ “พ่อษิณ-แม่อ้อ” ที่ปกติก็อินการเมืองจัดอยู่เป็นทุน
ไม่ได้ว่ากันเล่นๆ แว่วว่าคุยกันวงในว่า ถ้าส่ง “มาดามอุ๊งอิ๊ง” ลุยการเมือง ถือธงนำพรรคเพื่อไทย มีข้อดีที่หาเสียงง่าย ด้วยความที่มีหน้าตาละม้ายคล้าย “เฮียโทนี่” อย่างกับแกะ
“คนตระกูลชินวัตร” เชื่อกันว่า “ติ่งทักษิณ” จะกรี๊ดกร๊าดยิ่งกว่าสมัย “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซะอีก
** “ลุงตู่” ยาวไป “อู๊ดด้า” ท้าชิง “สุดารัตน์” เกาะกลุ่ม ประเมินแคนดิเดตชิงนายกฯ
หลังจากพรรคการเมืองทยอยเปิดตัว “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีคนต่อไป เสียงของประชาชนว่าอย่างไร ผลโพลก็เป็นผลสะท้อนได้ระดับหนึ่ง ในรอบนี้ ชั่วโมงนี้ ชื่อของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน ยังติดโผนำมาอยู่หัวแถว
จาก สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่เพิ่งเสนอผลสำรวจเรื่อง “ประเมินคู่ชิงนายกรัฐมนตรี” ลุงตู่ได้คะแนนนำ โดยคนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 68.2 ระบุว่า เหมาะสม ด้วยเพราะจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ อดทน อดกลั้น มุ่งมั่นทุ่มเททำงานให้ประเทศชาติและ ประชาชนต่อเนื่องมา ปรับปรุงตนเอง กำลังทำงานต่อเนื่อง ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศแก้ปัญหาปากท้องให้กลับมาเปิดประเทศได้ ยังไม่พบปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรง เอื้อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ไม่เหมือนอดีตนายกฯ ที่มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวและพวกพ้อง เป็นต้น
อันดับ 2 ที่ตามมา ร้อยละ 59.3 ระบุเป็น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” อู๊ดดา รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งเช้าประกวด ท้าชิงกับ ลุงตู่
คนที่เลือก “จุรินทร์” เพราะเชื่อว่า มีอุดมการณ์ มีประสบการณ์การเมืองมายาวนาน เชื่อมประสานทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตต่างๆ ได้ไม่มีประวัติด่างพร้อย จุดยืนมั่นคงกับพรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 3 ที่ไม่ทิ้งห่างกันนัก คือ ร้อยละ 58.6 ระบุ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะ เป็นผู้หญิงกล้า แกร่ง มุ่งมั่นทุ่มเท ทำงานใกล้ชิดประชาชน อยู่เบื้องหลังความสำเร็จพรรคไทยรักไทยในอดีต มีความละเอียดอ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนตัวเล็กตัวน้อย
อันดับ 4 ได้ ร้อยละ 58.5 ระบุ “กรณ์ จาติกวณิช” เพราะ เป็นนักการเมือง เป็นตัวของตัวเองสูง การศึกษาดี พูดจาดี มีประสบการณ์สูง เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ การเงิน เป็นต้น
อันดับ 5 ร้อยละ 54.4 ระบุ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เพราะ เป็นนักธุรกิจเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจอยู่เบื้องหลังความสำเร็จผ่านวิกฤตโควิด อดทน อดกลั้นต่อการถูกโจมตี จิตใจดีช่วยเหลือประชาชน ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
ส่วนคนอื่นๆ รองๆ ลงไปได้แก่ ร้อยละ 53.9 ระบุ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า พูดจาดีมีเหตุผล มีวิสัยทัศน์ มีการศึกษาดี เป็นต้น
สรุปว่า “ลุงตู่” ยาวไป ขณะที่ “จุรินทร์” และ “คุณหญิงสุดารัตน์” เกาะกลุ่มเป็นทางเลือกตามมา แต่ที่น่าสนใจ คือ ผลโพลได้ถามถึงจุดยืนทางการเมืองของประชาชน ซึ่งพบว่า ร้อยละ 40.7 สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ ร้อยละ 21.2 ไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 38.1 ระบุขอเป็น “พลังเงียบ” ขออยู่ตรงกลางๆ ดีกว่า ซึ่งต้องไม่ลืมว่า พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยนั้น ยังไม่ขยับ เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ฟังว่า ตอนนี้ยังอุบไต๋ไวัอยู่ รอเปิดตัวใกล้ๆ เลือกตั้ง หรือ รอให้ “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของพรรคตัวจริงเคาะ แต่ คนในพรรคแย้มว่า ถ้าเปิดมาแล้วประชาชนประทับใจแน่นอน
นี่ก็ต้องอดใจรอติดตามกันต่อไป ใครจะเป็นคู่ท้าชิงที่น่ากลัวของ “ลุงตู่” กันแน่!!
