xs
xsm
sm
md
lg

อ้างเฉย! “ธนาธร” ปลุก 3 นิ้วปกป้อง เจอฟ้อง ม.112 ถึง 2 คดี เปิดตัว “บุ๊ค” เจ้าของบัญชีทะลุแก๊ซ เคยขึ้นเวที อนค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ธนาธร” ปลุก “3 นิ้ว” ปกป้องตัวเอง? ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
หรือว่าปอดแหก? “ธนาธร” ปลุก “3 นิ้ว” ปกป้องตัวเอง หลังโดนคดี 112 ถึง 2 คดี อ้างเฉยต้องช่วยคนตัวเล็กให้ได้รับความเป็นธรรม พลิกปูม “บุ๊ค” เจ้าของบัญชีรับบริจาค “ทะลุแก๊ซ” พบ อาจมีสัมพันธ์ใกล้ชิด “อีแอบ”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (12 ต.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “ธนาธร” ปลุก 3 นิ้ว ช่วยปกป้องตัวเอง หลังโดนคดี 112

โดยระบุว่า จากกรณี นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้นัดส่งตัวพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายธนาธร

ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 เนื่องจาก นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี และการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 32/2563 ลงวันที่ 21 ก.ย. 63 ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามคดีอาญาที่ 21/64 ลงวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา แจ้งความเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 3 ข้อหา

ได้แก่ ความผิดมาตรา 112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ความผิดฐานหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับวัคซีนบนเพจคณะก้าวหน้าและเพจนายธนาธร ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลที่มีความล่าช้าและมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันฯ

หลังพนักงานสอบสวนส่งตัวพร้อมสำนวนให้อัยการแล้ว ตามขั้นตอน ทางพนักงานอัยการจะพิจารณาสำนวน โดยจะนัดให้ผู้ต้องหามารับทราบคำสั่งทางคดีอีกครั้ง หลังพนักงานสอบสวนส่งตัวนายธนาธรให้อัยการแล้ว นายธนาธรจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.พหลโยธิน

ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกดำเนินคดี ม.112 ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit @Thanathorn_FWP ระบุว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา คดี 112 ที่สอง ของผม ขอใช้โอกาสนี้ให้สังคมทราบกันว่านี่เป็นยุคที่เกิดคดีทางการเมืองมากสุดในประเทศไทย ที่ รบ.ใช้กฎหมายกดขี่ปิดปากประชาชน

ทุกวันนี้เกิดคดีทางการเมืองกว่า 800 คดี มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 1,500 คน เฉพาะมาตรา 112 มีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 150 คดี

ผมอยากให้ทุกคนให้ความสนใจกับคดีเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นกับคนไม่มีชื่อเสียง คนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีต้นทุนทางสังคม นี่คือ ความไม่เป็นธรรมที่ถูกยัดเยียดกับพวกเขา ผมอยากให้สังคมร่วมกันออกมาปกป้องพวกเขา และร่วมกันประณามต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมที่มืดมิดเช่นนี้ ทำให้มีคอมเมนต์จากกลุ่ม 3 นิ้ว เข้ามาให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องขอให้ยกเลิกมาตรา 112

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ (19 ส.ค. 64) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ นายธนาธร เปิดเผยว่า นายธนาธร ได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 หมาย ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน โดยวันที่ 13 ส.ค. 64 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ออกหมายเรียกนายธนาธร ในฐานะผู้ต้องหา เพื่อนัดส่งตัวให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป ในคดีไลฟ์ “วัคซีนพระราชทาน: ใครได้ใครเสีย?” วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลที่มีการแทงม้าตัวเดียว และเสี่ยงกระทบต่อสถาบันเบื้องสูง

โดยเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 64 ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) ว่าด้วยการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

ส่วนอีกหมายหนึ่ง คือ วันที่ 10 ส.ค. 64 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ออกหมายเรียก นายธนาธร ในฐานะเป็นผู้ต้องหาในฐานความผิดเดียวกันคือ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยมีผู้กล่าวหาคือ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงของคดีนี้ ว่า นายธนาธร ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดจากกรณีใด มีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง แต่คาดว่า เกี่ยวข้องกับกรณีไลฟ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล สำหรับวันและเวลาในการไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่นั้น ทนายความจะแจ้งให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับทราบต่อไป...

นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ต่อเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า นายธนาธร บิดเบือน ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ร้าย และนำไปสู่การยั่วยุปลุกปั่น จึงนำหลักฐาน 2 ส่วน คือ เนื้อหาการไลฟ์ของนายธนาธร และหลักฐานการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วโลก มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

พร้อมกับยืนยันว่า เป็นการดำเนินการในฐานะคนไทย และไม่ได้มีกระบวนการทำลายหรือรังแกพรรคก้าวไกล และพรรคอนาคตใหม่ ตามที่ ส.ส.พรรคระบุ แต่ในทางกลับกัน เห็นว่า ธนาธรควรทบทวนตัวเอง เพราะเป็นกระบวนการทำลายสถาบัน มากกว่า และเชื่อว่า เป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงไปยังต่างชาติ พร้อมเรียกร้องไปยังธนาธรและพรรคก้าวไกล รวมถึงทีมงานให้เอาเวลามาช่วยดูแลประชาชนและตรวจสอบรัฐบาลดีกว่า และที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครนำเรื่องสุขภาพของประชาชนและระบบการแพทย์มาเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้ ยังขอให้ประชาชนจับตาหลังสหรัฐอเมริกาจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าจะมีการกดดันไทยเรื่องมาตรา 112 รวมทั้งการที่ธนาธรออกมาเคลื่อนไหวก็เพื่อรองรับการกดดันที่จะเกิดขึ้น

ภาพ สัมพันธ์ “บุ๊ค Eleven Finger” กับ “ทอน” ใกล้ชิดหรือไม่ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เปิดประวัติ “บุ๊ค Eleven Finger” คนเปิดบัญชีทะลุแก๊ซ พบเชื่อมโยง “ธนาธร-ปิยบุตร” เคยขึ้นเวทีวันตั้ง อนค.

เนื้อหาระบุว่า จากกรณีวานนี้ (11 ต.ค. 64) ทางเพจ ทะลุแก๊ซ - Thalugaz ได้โพสต์ข้อความเปิดระดมทุนขายเสื้อทะลุแก๊ซ พร้อมกับประกาศว่า เงินระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปจัดการชุมนุมใหญ่อย่างเป็นทางการในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยระบุข้อความว่า

#ทะลุแก๊ซกระจายข่าว #Thalugaz เร็วๆ นี้ เราจะ ทำ ของออกมาขาย เเละเปิดระดมทุนเพื่อจัดม็อบ อย่างเป็นทางการ ในกลางเดือนตุลาที่จะมาถึง ขอให้สหายผู้ร่วมอุดมการณ์ ช่วยซัปพอร์ตเราด้วย เมื่อ รัฐบาลไม่รับฟังเสียงประชาชน ถึงเวลาเเล้ว ที่เราต้องไป เคาะประตูบ้านพวกมัน

โดยบัญชีที่เปิดระดมทุนดังกล่าว ปรากฏชื่อ นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือชื่อที่ในกลุ่มสามนิ้วรู้จักกัน ก็คือ บุ๊ค แร็ปเปอร์วง Elevenfinger วัย 20 ปี เกิดและโตในชุมนุมคลองเตย เคยขึ้นแร็ปการเมืองในการชุมนุมเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 และถูกจับกุมข้อหาเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบประชาชนปลดแอก

ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า บุ๊ค หรือ นายธนายุทธ ณ อยุธยา เจ้าของบัญชีดังกล่าวนั้น เป็นแกนนำของกลุ่มทะลุแก๊ซหรือไม่ และยังถูกตั้งข้อสงสัยว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 61 “บุ๊ค” ได้ขึ้นเวทีโชว์แร็ปในงานประชุมจัดตั้งอดีตพรรคอนาคตใหม่ และได้โชว์เพลงแร็ปที่สะท้อนความอึดอัดคับข้องใจของวัยรุ่นผู้เติบโตมาในทศวรรษแห่งความขัดแย้งทางการเมือง โดยเขาเขียนเพลงขึ้นมาใหม่เพลงหนึ่ง สำหรับใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ

ทั้งนี้ บุ๊ค ยังเคยให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวสปริงนิวส์ ถึงการศึกษาของเขา เขาเปิดใจว่า ได้ลาออกก่อนที่จะจบ ม.6 ประมาณ 10 กว่าวันเท่านั้น รู้สึกว่า ไม่เสียดายเลยนะ ผ่านมา 2 ปี แต่กลับรู้สึกว่า ตัดสินใจถูกแล้วที่ออกมา สามารถดูแลครอบครัว แล้วสามารถเลี้ยงตัวเองได้ รู้สึกมีความสุขกว่า ตอนที่ผมอยู่โรงเรียนด้วยซ้ำ...

ที่สำคัญ ดูเหมือนพักหลัง ทั้ง นายธนาธร และ นายปิยบุตร ต่างก็ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนกลุ่มทะลุแก๊ซมากกว่าม็อบสามนิ้วที่แกนนำติดคุกกันหมดแล้ว โดยเฉพาะ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ถึงขั้นยกให้เป็น “มวลชนลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ” เลยทีเดียว ทั้งยังเรียกร้องกับผู้คนในสังคม อย่าปล่อยให้พวกเขาตอสู้ตามลำพัง

ภาพ พฤติกรรมม็อบทะลุแก๊ซ จากแฟ้ม
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ คือ กรณีธนาธร เรียกร้องให้สังคม ช่วยคนที่โดนคดี ม.112 และคดีการเมืองหลายร้อยคดี โดยเฉพาะ “คนตัวเล็ก” หลังจากตัวเอง ถูกดำเนินคดี ม.112 ถึงสองคดี รวมทั้งยังพยายามโจมตีด้วยว่า เป็นยุคที่มีคดีการเมืองมากที่สุด

ประเด็นก็คือ นายธนาธร ต้องย้อนถามตัวเอง ก่อนว่า ใครและอะไร ทำให้เกิดคดีจำนวนมาก

ใช่ นายธนาธร และพวก ปลุกสาวกอดีตพรรคความหวังใหม่ ให้ลงท้องถนน หลังถูกยุบพรรค เพราะไม่พอใจคำตัดสินของศาลฯ ทั้งที่ตัวเองทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองชัดเจนหรือไม่

ใช่ การชุมนุมของม็อบสามนิ้ว ที่แตกกระจายเป็นหลายต่อหลายม็อบ ชุมนุมโดยทำผิดกฎหมาย ทำลายทรัพย์สิน สัญลักษณ์สถาบันฯ ปราศรัยจาบจ้วงล้วงละเมิดสถาบันฯ จึงถูกดำเนินคดีหรือไม

โดยเฉพาะพักหลัง “ม็อบทะลุแก๊ซ” และ “ม็อบทะลุฟ้า” มีการชุมนุมทุกวันที่สามเหลี่ยมดินแดง และแยกนางเลิ้ง ด้วยวิธีรุนแรง ในการปะทะกับเจ้าหน้าที่ คฝ. มีการใช้อาวุธหลายชนิดกับเจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีกรณียิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัสด้วย

นี่คือ ที่มาของการมีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก มิใช่อยู่ๆ ฝ่ายอำนาจรัฐเที่ยวไป กลั่นแกล้งดำเนินคดี จับกุมโดยปราศจากหมายศาล หรือ ไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด

เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งนายธนาธรเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อสาธารณชน และประชาชน ก็ยิ่งทำให้เห็นธาตุแท้ความเห็นแก่ได้ ความเห็นแก่ตัว ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เห็นแก่ประโยชน์สุขสังคมส่วนรวม จึงไม่แปลกที่จะมีคนประมาทเอาว่า เป็นได้แค่ “นายกฯโซเชียล”

ที่สำคัญ การที่ม็อบกลายพันธุ์เป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์กวนเมือง ยั่วยุ ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ คฝ. คนไทยต่างตั้งคำถาม ว่า พวกเขาทำไปเพื่อไร??? มีใครจ้าง หรือ สนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แกนนำคณะก้าวหน้า อย่าง ธนาธร ปิยบุตร ต่างพากันเรียกร้องความเห็นใจ เรียกร้องความเป็นธรรมให้พวกเขา ปลุกสาวกให้ออกมาร่วมต่อสู้ อย่าให้พวกเขาสู้อย่างลำพัง นี่มันอะไรกัน???


กำลังโหลดความคิดเห็น