อดีตแกนนำ กปปส. โพสต์รำลึก 13 ตุลาคม วันสวรรคต ร.๙ ชวนคนไทยช่วยกันทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ชี้ ประเทศยามนี้ คนไทยต้องพูดคุยกันให้มากขึ้น
วันนี้ (12 ต.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย( มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 1 ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” เพื่อร่วมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ความตอนหนึ่งว่า วันที่ 13 ตุลาคม 2564 ครบรอบ 5 ปี วันสวรรคต ของในหลวง ร.๙ ชนชาวไทยผู้จงรักภักดีทั้งหลาย นัดหมายตระเตรียมกันร่วมกันบำเพ็ญความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ผมจำเหตุการณ์วันนั้นไม่มีวันลืม วันที่ 13 ตุลาคม 2559 คนไทยเมื่อฟังประกาศ คนไทยโศกเศร้ากันทั่วประเทศ คนกรุงเทพฯพร้อมใจส่งเสด็จกันอย่างเนืองแน่น นับตั้งแต่นั้นคนไทยทั่วประเทศมาถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง สื่อต่างประเทศมาทำข่าวตลอดทั้งปี ทำให้คนทั้งโลกได้รู้ได้ทราบว่าคนไทยมีความรัก ความผูกพัน จงรักภักดี ต่อมหากกษัตริย์อย่างแน่นแฟ้น
ผมเกิดมาในช่วงรัชสมัย ร.๙ ได้รับพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมมีชีวิตรอดมาจนทุกวันนี้ ผมเป็นคนบ้านนอก คนบ้านนอกปู่ย่าตายายสอนลูกหลานให้เป็นคนอยู่ในศีลในธรรม กตัญญู ปู่ย่าตายายสอนให้กราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งติดอยู่ทุกบ้าน พวกเราได้ถวายความจงรักภักดี ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นมรดกทางจิตใจ ที่ได้สั่งสอนเรามา ปี 2502 เสด็จเยี่ยมราษฎร ภาคใต้เป็นครั้งแรก ที่ศาลากลางจังหวัด เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นพระองค์ท่าน ตอนเป็น นศ. อยู่ ม.เชียงใหม่ มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชทานเลี้ยงวันพระราชทานปริญญาที่ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ทุกปี พระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้กำลังใจแก่นักศึกษา แนะแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตัวที่ดี
ผมมีโอกาสไปดูโครงการหลวงตามดอยต่างๆ ได้พบเห็นว่า ชาวเขาได้เปรียบวิถีชีวิต ปักหลักทำกินที่ได้รับจัดสรร มีรายได้มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากชนเผ่าที่ไร้สัญชาติกลายเป็นคนไทยที่เป็นกำลังการผลิตที่สำคัญของประเทศ เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ โครงการหลวงที่หลากหลาย ผลผลิตของชาวเชาทำให้คนชาวเมืองได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย รวมถึงได้ส่งไปขายต่างประเทศ ทำรายได้ให้กับชาวเขา ชาวเขาทุกเผ่าจึงเคารพเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากที่เรียนจบจากเชียงใหม่ เป็นกำนัน ตั้งแต่ปี 2519-2522 มีชีวิตอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม เพราะตามเขตบ้านนอกในชนบท มีพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้เข้าไปเคลื่อนไหวมีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ มีการต่อสู้ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กันเป็นประจำ ชาวบ้านมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง มีอันตราย
ซึ่งกำนันอย่างผมก็ถูกตั้งข้อหาฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ด้วยความกลัวจึงทำหนังสือกราบบังคมทูล พระกรุณาขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง จึงรอดพ้นอันตรายมาได้ ผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเสมอมา และมีความรู้สึกเหมือนคนไทยทั้งหลายว่า พระเจ้าอยู่หัวปกเกล้าปกกระหม่อมพวกเราคนไทยให้อยู่รอดปลอดภัยอย่างแท้จริง
ปี 2522 ผมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ครั้งแรก พ่อเรียกไปสอนและสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้กระทำการใดๆ ที่กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท เป็นคนไทยต้องจงรักภักดี และเมื่อเข้ามาเป็น รมช.เกษตรฯ มีโอกาสตามเสด็จ ร.๙ ผมเห็นซึ้งว่า โครงการพระราชดำริต่างๆ ได้ช่วยประชาชนให้มีชีวิตดีขึ้นอย่างมาก พระองค์ท่านทรงพระทัย ดิน น้ำ ป่าไม้ พืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นปัจจัยสำคัญทางด้านเกษตร ทรงศึกษาปัญหาอย่างจริงจัง ทรงพระราชทานคำแนะนำให้ข้าราชการและประชาชนนำไปปฏิบัติ ทรงค้นคิดวิธีการทำเกษรตร โดยทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็น โคก หนอง นา เพื่อทำการเกษตรได้สมบูรณ์ตลอดทั้งปี ที่สำคัญ ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให่ประชาชนได้ยึดถือปฏิบัติ คนในโลกก็ได้รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง หลายประเทศได้นำไปปฏิบัติด้วย ปัจจุบันประชาชนทำเกษตรทฤษฎีใหม่และได้ชวนลูกหลานให้ดำเนินชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาทกันทั่วประเทศ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก ทรงเป็นพุทธมามกะ ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรม ศึกษาคำสอน มัจฉิมมาปฏิปทา ทางสายกลางเศรษฐกิจพอเพียง คือ การปฏิบัติทางสายกลาง
70 ปีที่ผ่านมา เราจะจำภาพที่ในหลวงเสด็จออกทรงงานในพื้นที่ทุรกันดารต่างๆ โดยทรงสวมเสื้อนอก สะพายกล้องถ่ายรูป หนีบแผนที่ไปทรงงาน ไม่หรูหรา กระเป๋ามีเครื่องรับส่งวิทยุ ดินสอ ปากกา สมุดบันทึก วันนี้เมื่อมีคนยกประเด็นขึ้นมาเป็นคำถามในเรื่องฉลองพระองค์ ผมคิดว่าถ้าไม่ให้สวมเสื้อนอกแล้วจะให้ใส่อะไร ผมมองว่า พระองค์ท่านแต่งตัวพอดีพอเหมาะในฐานะพระเจ้าแผ่นดิน ชุดทำงานเหมือนข้าราชการแต่งเครื่องแบบ ทรงเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ ทรงบนทึกภาพชีวิต และปัญหาของประชาชนทั่วทุกภาค เป็นส่วนหนึ่งของสมุดบันทึก แล้วเอาสิ่งที่ท่านถ่ายไว้ไปคิดว่าเมื่อมีปัญหาจะช่วยอย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร แผนที่เป็นสิ่งสำคัญ ทรงศึกษาแผนที่แม่นยำมาก ท่านเมตตาเวลาเรากราบบังคมทูลถามท่านสอนและอธิบายท่านครูผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ สำหรับคนไทย วิทยุจากพระองค์ท่านฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศที่รายงานผ่านเครือข่ายจากวิทยุราชการทุกเครือข่าย ทรงรู้เรื่องตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้นจากพสกนิกร เพื่อพระราชทานความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ท่านทรงโปรดการขับรถตามพื้นที่ทุรกันดาร จดจำเรื่องทุกเรื่องที่ไปพบไปเห็น ตอนที่ทำงานเป็น รมช.เกษตรฯ มีโอกาสดีที่สุดที่ตามเสด็จไปตามสถานที่ต่างๆ สิ่งที่เป็นมงตลคือที่ได้รับพระราชทานความรู้ด้านการพัฒนาการเกษตรของประเทศ พระองค์ท่านสอนผมว่าเมื่อเข้าเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต้องมีความเชื่อมั่นศรัทธาประชาชน ต้องฟังประชาชน ประชาชนเป็นผู้ชี้ทางของประเทศ สอนผมว่าข้าวเป็นความมั่นคงของประเทศ ต้องดูแลชาวนาให้ดี เพราะอาชีพชาวนาเหนื่อยยากที่สุด ถ้าไม่มีชาวนาเราก็ไม่มีความมั่นคง เมืองไทยเราเป็นเมืองเกษตรเพราะฉะนั้นต้องเอาจริงเอาจัง ดิน น้ำ พันธ์ พืช เทคโนโลยีที่เหมาะสม
พระองค์ท่านทรงคิดห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่านตลอดเวลา เหตุผลที่ประชาชนคนไทยรักเพราะทุกคนตระหนักดีว่าพระเจ้าอยู่หัวรักประขาชนและทำเพื่อประชาชน เพราะฉะนั้นจึงรักและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าตลอดมา วันที่ 13 ตุลาคม จึงเป็นวันที่สำคัญสำหรับชาวไทย ผมจะเข้าร่วมกับพี่น้องจะบำเพ็ญความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ด้วยความรำลึกในพระมหากรุณาธิ
คุณ คนไทยที่มาช่วยกัน ทำเพื่อพระองค์ท่านทำเพื่อประเทศไทย ในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เราคนไทยต้องพูดคุยกันให้มากขึ้น คุยกันว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร ผมตั้งใจกับพี่น้องประชาชน ท่านใดสนใจอยากจะคุย คอมเมนต์มาในเพจนี้ได้เลย