นายกฯ ตรวจราชการเมืองคอน ตระเวน 3 จุด ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุ ขอร่วมเดินไปด้วยกันพลิกโฉมภาคใต้ใหม่ อ้อนรักทุกคน ตร.ภูธร โพสต์เตือน 4 ข้อห้าม กระทำการต่อนายกฯ อ้อนชาวใต้รักจังฮู้ ขออยู่ด้วยความรักความสามัคคี อย่าให้ใครมาบ่อนทำลาย
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ โดยจุดเดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับ พร้อมกับส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่
โดยนายกรัฐมนตรีได้ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุฯ และถวายเครื่องไทยธรรม จตุปัจจัยแด่พระเทพวินยาภรณ์ (สมปอง ปัญญาทีโป) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และรองเจ้าคณะภาค โดยเจ้าอาวาสได้มอบพระพุทธรูปให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ มีชาวบ้านบางส่วนมาต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจและตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ นายกฯสู้ๆ อย่าลาออก” ก่อนที่นายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านเป็นที่ระลึก พร้อมกล่าวกับเด็กๆ ที่มาต้อนรับช่วงหนึ่งว่า “เรียนหนังสือให้จบนะ เคารพพ่อแม่ กตัญญูรู้คุณ ความรักความสามัคคีเท่านั้นที่ทำให้เราพ้นจากทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ต้องเดินไปด้วยกันน๊ะจ๊ะ ช่วยกันพลิกโฉมภาคใต้ของเราใหม่”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ประกาศแจ้งเตือนประชาชนกรณีการเดินทางลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีการกำหนดห้ามกระทำการ หรือแสดงพฤติการณ์หลักจำนวน 4 ข้อห้าม ประกอบด้วย 1 .ปาไข่ หรือไข่เน่า ความ ป.อาญา ม.391/ ทำร้ายร่างกาย ลหุโทษ 2. ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ความผิด ป.อาญา 393/ ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาหรืออาจมีความผิด ม.326 ข้อหาหมิ่นประมาท 3. เอารูปนายกฯ หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ถ้านำมาเองไม่ผิดทำให้เสียทรัพย์ หรือ (ไม่ผิด ม.112) (ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4) ถ้าการเผานั้นอาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรืออาจทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายอาจมีความผิดตาม ป.อาญา ม.220 วรรคแรก ถ้าเผาภาพของผู้อื่นเป็นความผิดทำให้เสียทรัพย์หรือวางเพลิงได้ 4. นำภาพนายกฯไปลงเฟซบุ๊ก หรือไลน์ หรือในสื่อโซเชียล อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ ตาม ม.14(1) ข้อมูลเท็จ โดยประการที่อาจให้เกิดความเสียหาย ม.14(2) ข้อมูลเท็จหรือเสียหายต่อความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะเศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐาน ม.14(5) สิ่งแพร่ส่งต่อ ตาม (1)(2)(3)(4) หรือหากมีพฤติกรรมที่เป็นการต่อต้านหรือขัดขวางจะพิจารณาความผิดแล้วแต่กรณี
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปยังสะพานคลองหน้าเมือง (จุดตั้งเครื่องสูบน้ำ) ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจการบริหารจัดการน้ำในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช โดยมีนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช สรุปรายงานสถานการณ์
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกำชับว่า วันนี้ต้องทำให้เร็วและทำให้ประชาชนต้องเข้าใจว่าได้อะไรจากตรงนี้บางทีก็มีผลกระทบกับประชาชน ดังนั้น ต้องทำให้เข้าใจว่าคุ้มกันหรือไม่กับการเสียที่ดินบางส่วนเพื่อดูแลพื้นที่ไม่ให้เกิดน้ำท่วมขึ้นอีก พร้อมการระบายน้ำและกักเก็บน้ำให้ได้ ซึ่งหากมีปัญหาอะไรให้ผู้ว่าฯ เสนอขึ้นไปรัฐบาลพร้อมดูแลเพิ่มเติมให้ วันนี้ต้องร่วมมือกันทั้งหมด รัฐบาล นิติบัญญัติ ตุลาการ และพวกเราก็คือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ซึ่งงบประมาณเราก็มีอยู่ วันนี้ต้องดูหลายเรื่องด้วยกันโดยเฉพาะการระบายน้ำการแก้ปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งความเป็นอยู่ชีวิตประชาชน ยืนยันว่านายกฯ ดูเต็มที่น้ำ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือความเสียหายมันเกิด
นายกฯ กล่าวกับประชาชนด้วยด้วยว่า “น้ำมาแต่น้ำใจต้องแก้ให้ได้ต่อไป ระมัดระวังเตรียมการไว้ก่อนแล้วกัน” พร้อมชูมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู และกล่าวว่า “รักทุกคน” และกล่าวว่า “ตำรวจทหารต้องช่วยกันดูแลประชาชน พลเรือนตำรวจทหารไปด้วยกันนะเวลานี้”
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางมีประชาชนยืนชูป้ายและตะโกนให้กำลังใจ “ลุงตู่สู้ๆ รักลุงตู่” และบอกให้อยู่นานๆ เป็นนายกฯยาวๆ ไปเลย
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณถนนพุทธภูมิ (ด้านถนนเลียบทางรถไฟ จุดยูเทิร์นที่ 1) ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตรวจแผนการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนกล่าวว่า วันนี้ตนและรัฐมนตรีหลายคนในนามรัฐบาลมาในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเตรียมติดตามความคืบหน้าในการเตรียมการปริมาณน้ำที่อาจจะมากขึ้นในช่วงต่อไป ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าวันนี้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางด้วย วันนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันเตรียมตัววางแผนการเคลื่อนย้ายบ้านเราเอง คือถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องย้าย แต่ถ้ามีการแจ้งเตือนว่าน้ำมาถึงแล้ว อาจจะทำหมายเลขไว้ว่า ขนย้ายระดับ 1-2-3 เพื่อเตรียมขนย้ายสิ่งของ หรือเตรียมการไปยังที่พักพิง เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อทรัพย์สินและบุคคลได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเกษตร ปศุสัตว์ต่างๆ รัฐบาลเตรียมการงบประมาณการเยียวยา จึงไม่ต้องห่วงรัฐบาลต้องหามาให้ได้ โดยมีการวางแผนเตรียมการเยียวยาไว้ก่อน โดยใช้ทั้งการสำรวจและภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้จ่ายเงินได้เร็วขึ้น และเป็นธรรมดาที่เราต้องใช้งบประมาณอย่างระมัดระวัง แต่ยืนยันว่า ดูแลประชาชนทุกคนให้ดีที่สุด วันนี้ปัญหาเรามีหลายอย่าง เราเดือดร้อนตรงนี้แต่ถ้ามองภาพใหญ่ประเทศเพื่อนบ้านและโลกเราก็เจอทั้งสถานการณ์น้ำท่วม โรคระบาดและเศรษฐกิจ ทุกอย่างตามมาหมดเป็นเช่นนี้ทุกประเทศ แต่รัฐบาลและนายกฯ ให้นโยบายไปหลายเรื่องในการสร้างวิสาหกิจชุมชนสร้างห่วงโซ่และการกำหนดพื้นที่หรือแซนด์บ็อกซ์ ทำอย่างไรรวมกลุ่มให้ได้ เพื่อให้รัฐบาลช่วยได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้นายกฯ รัฐบาล และ ส.ส.ผู้แทนของท่าน ก็ได้ส่งข้อมูลขึ้นมาว่าประชาชนเดือดร้อนอะไร เราจะดูแลให้ ขณะเดียวกัน วันนี้ต้องเตรียมการเรื่องโควิด ย้ำว่า ยังต้องสวมหน้ากากล้างมือ ตนก็ห่วงตัวเองว่าเป็นแล้วจะไปติดคนอื่น เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดกับทุกคนให้มากขึ้น
“แต่ใจถึงใจอยู่แล้ว คนเมืองคอนรู้ว่าเรารักกันอยู่แล้ว คนใต้รักใครรักจริง อยากจะบอกว่าท้ายที่สุดนี้ไม่มีอะไร เพียงเราต้องอยู่ด้วยความรักความสามัคคี อย่าให้ใครมาบ่อนทำลายได้สังคมต้องอยู่ด้วยกัน พ่อแม่พี่น้องพี่ป้าน้าอา ใครจะมาทำลายไม่ได้ นี่คือ สันหลังของประเทศไทย สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งของประเทศเรา เราต้องมีความรักความสามัคคี ไม่เกลียดชัง ให้ร้ายกัน และฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อยากบอกว่ารักจังฮู้ เพราะคิดถึงจึงมาหา และมาดูแลเตรียมความพร้อมเครื่องป้องกันน้ำท่วม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า “เราเป็นแผ่นดินพหุวัฒนธรรมอยู่ร่วมกันทุกศาสนาในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทั้งหมด ดังนั้น เราต้องรักกัน และเราเป็นดินแดนพุทธภูมิ จะต้องรักคนอื่นเขาด้วย” จากนั้นหลังนายกฯพูดจบได้มีชาวบ้านตะโกนว่า “รักลุงตู่” นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า “ผมรักมากกว่าท่าน ผมต้องรักคนทั้ง 70 ล้าน นั่นคือสิ่งที่นายกฯ จะทำให้ได้ โลกมันเปลี่ยนเราต้องปรับตัวเราเอง และวันนี้ไม่ใช่รักลุงตู่คนเดียว ต้องรักทุกคนด้วย ประเทศไทยต้องอยู่ด้วยความรักกัน แล้วไปได้หมด” ก่อนนายกฯ จะแนะนำตัวรัฐมนตรีที่เดินทางมาด้วย และกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนด้วยใจจริงและบรรดาส.ส.ทั้งหมดที่มารับวันนี้ด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เรียก ส.ส.และนักการเมืองที่มาต้อนรับทีละคนให้ออกมาแนะนำตัวกับชาวบ้าน พร้อมกล่าวว่า วันนี้มี ส.ส.มาจากหลายพื้นที่ไม่ใช่แค่ ส.ส.นครศรีธรรมราช แต่มีทั้งส.ส.สงขลา นราธิวาส ภูเก็ต อีกด้วย โดยยืนยันตนเองดูทุกพื้นที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมี ส.ส. ระบุว่า นอกจาก ส.ส.ภาคใต้ ยังมี ส.ส.นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก มาด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เราต้องไปด้วยกัน วันนี้เราต้องเข้มแข็งด้วยตัวเราเอง”
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายกฯ เดินทักทายประชาชน พร้อมกล่าวว่า ดีใจเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว เราคือคนไทย อาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย ด้ามขวานทอง ด้ามสุวรรณภูมิ ขวานถ้าไม่มีด้ามก็มีความเจริญไม่ได้ ก่อนที่จะปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่สำคัญตามคติความเชื่อของชาวพุทธ