นายกฯ ตรวจน้ำท่วมชัยภูมิ มอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ตลาดคลองพุทรา ท่ามกลางเสียงเชียร์สู้ๆ ก่อนไปให้กำลังใจทีมแพทย์ รพ.ชัยภูมิ บอกเจ็บปวดทุกครั้งที่มีภัยธรรมชาติ พร้อมเยียวยาเร็วที่สุด ยันไม่ทอดทิ้ง เพราะแม่เป็นคนชัยภูมิ วอนอย่าสร้างความขัดแย้ง เจอคนต้านตะโกนไล่ เจ้าตัวบอกไม่เป็นไรเป็นธรรมชาติ
วันนี้ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ตรวจสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร จังหวัดนครราชสีมา จากเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นเวลา 13.00 น. เดินทางไปยังตลาดคลองพุทรา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยทันทีที่มาถึง นายกรัฐมนตรีมาถึงได้ทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สวัสดีพี่น้องชาวชัยภูมิ วันนี้เดินทางมาในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหาร และนำรัฐมนตรีมาหลายท่านด้วยกัน รวมถึง ส.ส.ในพื้นที่ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่ดูแลคนไทยทุกคนในทุกพื้นที่ในทุกจังหวัด ตนเห็นความเดือดร้อนของประชาชน ตนเข้าใจและเจ็บปวดทุกครั้งที่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น แต่สำคัญ รัฐบาลต้องดูแลพวกเราที่ได้รับความเดือดร้อน วันนี้สั่งการแล้วต้องดูเรื่องเยียวยาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจในช่วงต้นนี้ก่อน ก็มีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูแลเยียวยาช่วยเหลือได้โดยเร็ว ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นายกฯไม่อยากให้เกิดขึ้นที่ไหนเลย มาวันนี้เอาความรักความห่วงใยของทุกคนที่น้ำไม่ท่วม ทั้งประเทศมาฝากพวกเราด้วย เขาเป็นกำลังใจให้เราหมด เพราะฉะนั้น เราต้องรักกัน ช่วยเหลือเผื่อแพร่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ยามไหนที่ลำบากคนไทยเราจะรักกันมากขึ้นด้วยซ้ำไป ขอให้เป็นการรักที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรหรือไม่มีอะไรก็รักกันอยู่อย่างนี้ มันจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ความรักความสามัคคี ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ คาดหวังว่า น้ำจะลดระดับลงได้โดยเร็วที่สุด หาวิถีทางเอาน้ำออกไปจากเขตเมืองได้อย่างไร ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานไว้ด้วย ในเรื่องการดูแลต้องทำงานของตัวเองให้เต็มที่
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ปัญหา คือ การเคลื่อนย้ายคนไปมา ตนสั่งการรถทหารมาเสริมให้ ก็ขอความร่วมมือไปยังสมาคมขนส่งด้วย และขอให้ทุกคนรักกัน ช่วยกัน หากบ้านตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ช่วยเพื่อนบ้าน ก็จะได้รักกัน เราจะไปข้างหน้าได้ก็ด้วยความรักระหว่างกันให้ได้มากที่สุด จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้ เพราะต้องมีเรื่องอื่นแก้ปัญหาเยอะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น นายกฯคาดหวังขอเพียงอย่างเดียวให้พวกเรามีความรักความสามัคคี เชื่อมั่น ยึดหลักการ แกนหลักของประเทศความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือ คนไทย คนไทยเราต้องไม่ทิ้งกัน ต่อให้ทะเลาะเบาะแว้งกันไปก็ตาม เดี๋ยววันข้างหน้าก็ดีกันจนได้ เราต้องสร้างกุศลของเราเผื่อแผ่ให้เขาไป ให้อภัยให้เขาไป ถ้าเขาว่าเราแล้ว เรารับมาทั้งหมดมันก็มีความทุกข์ ตนเป็นห่วงขออย่าคิดอะไรสั้นๆ โชคดีก็มีโชคร้ายก็มี โชคร้ายก็จะหายไป ถ้าเราเข้มแข็ง เดี๋ยวโชคดีก็จะมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรายังมีโอกาสอีกเยอะ ภัยธรรมชาติเราก็มีเหมือนคนอื่นเขา แต่โชคดีเราไม่มีอย่างอื่นมาเพิ่มนอกจากอุทกภัยและภัยแล้ง ประเทศอื่นเขามีภูเขาไฟระเบิด มีไฟป่าท่วมเมือง เราต้องเข้มแข็งและตั้งหลักให้ดี ภัยธรรมชาติเดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็ไป รัฐบาลก็จะดูแลให้ นายกฯ ก็ทำเต็มที่แล้ว ฉะนั้น ขออย่าสร้างความขัดแย้งซึ่งกันและกัน ใครจะรักจะชอบ ตนไม่ว่า แต่อยากให้ท่านรักประเทศของท่าน รักผืนดินที่ท่านเหยียบท่านใช้ท่านเกิดมา ถ้าไม่รักตรงนี้แล้วเราจะรักใคร จะเหลือความรักให้กับใครได้ นั่นคือ สิ่งที่อยากจะฝากไว้ ขอบคุณในการมาต้อนรับวันนี้ คงเป็นส่วนน้อยส่วนที่เหลือจะทยอยมอบต่อไปโดยทางจังหวัด มีอะไรให้เข้าหาส่วนราชการ ถ้าเดือดร้อนไม่มีจะกินไม่มีอาหาร ก็ไปหาส่วนราชการ เพราะเขาคงไปไม่ทั่วถึง หากอยู่ใกล้ตรงไหนก็ไปจุดนั้นที่ตั้งเต็นท์ช่วยเหลือ ข้าราชการเขาเต็มใจช่วยเหลือ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนเองได้คุยกับบรรดาผู้แทนของพวกท่านในความเดือดร้อนที่ได้รับฟังมาจากประชาชน และตนเองก็ได้ฟังจากผู้แทนในสภามา ซึ่งรัฐบาลนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติทำงานต่อไปในอนาคต
“ชัยภูมิรับรอง ยังไงผมก็ทิ้งไม่ได้ เพราะที่บ้านคุณแม่ผม แต่ผมไปเกิดโคราช แม่ผมเป็นคนชัยภูมิ ความรักอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน รักแค่จังหวัดนี้ไม่ได้อีก ผมรักอีก 76 จังหวัด นั่นคือ หน้าที่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคนช่วยกันให้ประเทศก้าวผ่านอุปสรรคนี้ให้ได้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีรายได้สูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นต้องฟังและหาทางแก้ปัญหา” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ต้องดูระดับน้ำตอนนี้บางพื้นที่ยังท่วมหนัก บางพื้นที่ยังไหลอยู่ จึงต้องดูว่าจูงน้ำส่วนนี้ไปได้อย่างไร เพื่อบรรเทาในส่วนเขตเมืองหรือโรงพยาบาล และหากมีพื้นที่กักเก็บน้ำก็อาจไปเจอพื้นที่ของประชาชนในที่ลุ่มต่ำโดยต้องเยียวยาให้ แต่ต้องดึงน้ำในเขตชุมชนหรือพื้นที่ธุรกิจ เพื่อกระจายน้ำออกไป ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนระลึกอยู่เสมอ น้ำมามากเกินไปก็เป็นทุกข์น้อยเกินไปก็เป็นทุกข์กว่า ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลภาพใหญ่ให้ สิ่งสำคัญคือเราต้องรักษาธรรมชาติไปด้วย
“ขอบคุณนะจ๊ะ รู้ไหมว่าพวกเราห่วง พวกเราไม่ได้สบายนะเราเป็นทุกข์ ถึงไม่ได้มาที่นี่ก็มีงานทำอยู่ทุกวันอยู่แล้วในการบริหารราชการ วันไหนที่ผมว่างก็ออกมานอกพื้นที่ด้วยบ้าง ช่วงนี้ก็ยังมีการเฝ้าระวังตัวเรื่องโควิดด้วย อย่าลืมสวมใส่หน้ากาก ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้ยังไม่หมดไปตราบใดที่ยังมีพาหะ วันนี้โลกได้ส่งเสียงเตือนแล้วว่าเราต้องกลับมาดูแล ยืนยันรัฐบาลจะพยายามทำอย่างเต็มที่ รวมทั้งที่ผ่านมา และต่อไปนี้จะให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดเอาแผนที่น้ำให้ทุกคนรู้ว่าจังหวัดของเรา อำเภอของเรา มีน้ำไหลจากไหนทุกคนจะได้เรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ เพื่อเตรียมความพร้อมว่าจะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า ขอให้ทุกคนมีความสุขปลอดภัยและคลี่คลายได้เร็วๆ พร้อมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขออวยพรให้ ชาวชัยภูมิ ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนทุกคน จงแคล้วคลาดพ้นจากความลำบากจากน้ำท่วมให้ได้โดยเร็วที่สุด และมีอนาคตที่ดีในต่อไป ถ้าเราร่วมมือกันเปลี่ยนแปลง ขอขอบคุณทุกคน ขอให้ช่วยกันน่ะ ช่วยกันทำ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ขณะที่ชาวบ้านตะโกน “นายกฯสู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ” นายกฯ กล่าวว่า “สู้กับปัญหาให้พวกเรา การเปลี่ยนแปลงอะไรต้องใช้เวลาทั้งหมด ถ้าเราร่วมมือก็จะเร็วขึ้น ขอบคุณนะจ๊ะ ขอบคุณพ่อแม่พี่น้อง” ก่อนที่นายกฯ จะชูมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู และชูกำปั้นมาทุบที่หน้าอก ช่วงหนึ่งประชาชนบอกให้สู้ๆ นายกฯ จึงหันไปถามว่า “ให้ผมสู้ต่อเหรอ ขอบใจนะ เราต้องสู้ไปด้วยกัน ใช่แล้วเพราะงานยังไม่เสร็จ งานทุกอย่างต้องใช้เวลาจะให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยไม่ได้” พร้อมย้ำว่า ความทุกข์ความสุขของประชาชนเป็นเรื่องรัฐบาลต้องทำและดูแล
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี ขึ้นรถบรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลชัยภูมิ และมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ ทั้งนี้ มีประชาชนที่มารอต้อนรับให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีอยู่ภายในตลาดคลองพุทรา ส่วนบริเวณด้านหน้าเป็นมวลชนกลุ่มหนึ่งที่มาชูป้ายไล่นายกรัฐมนตรี พร้อมตะโกนถามว่า “มาทำไม ประยุทธ์ออกไป” ซึ่งนายกฯ ได้ยิน และกล่าวว่า “เขาพูดว่าอะไร คนที่ไม่ให้เราอยู่ใช่ไหม ไม่เป็นไร เป็นธรรมชาติ”
เมื่อลงจากรถ นายกฯ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ถามว่า รู้สึกอย่างไรวันนี้ประชาชนต้อนรับเยอะ นายกฯ กล่าวว่า มันถึงใจอยู่แล้วล่ะ ทุกคนก็ต้องรู้ว่าตนเป็นห่วงเป็นใยเขาแค่ไหน คนทั้งประเทศหน้าที่ของตน เมื่อถามว่า แล้วคนที่มาคัดค้านจะบอกว่าอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ตนไม่ตอบหรอก ตนบอกแต่เพียงว่าไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้นเวลานี้ มันไม่ใช่เวลา ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านตะโกนว่า “คนละครึ่งนานๆ นะคะ” นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวดูให้อยู่
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลชัยภูมิ พร้อมได้กล่าวกับทีมแพทย์และประชาชนที่มารอต้อนรับ ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้มีความโปร่งใส ให้มีประสิทธิภาพและถูกต้อง ทำให้สุจริต ตนทำอย่างนี้มา 7 ปีแล้ว ต้องสุจริต โปร่งใสและเป็นธรรมอะไรที่ไม่ควรทำก็อย่าทำกัน นายกฯไม่สามารถทําให้ทุกคนรักได้ แต่ทุกคนน่าจะต้องรักประเทศของตัวเองไหมล่ะ สร้างความเดือดร้อนไปแล้วได้อะไรขึ้นมา ก็ไม่รู้เหมือนกัน ต่างประเทศ ทั้งที่เขาอยากจะมาลงทุนที่ประเทศไทย ขณะนี้ก็ลงมาแล้วหลายบริษัท แต่ที่เหลือจะรอดูสถานการณ์ว่าจะสงบหรือไม่ ว่าจะมีเสถียรภาพหรือไม่
โดยเมื่อมีประชาชนรายหนึ่งถามนายกรัฐมนตรีว่า รู้สึกดีใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ดีสิตนดีใจ ฉันกลับมาบ้านฉัน