xs
xsm
sm
md
lg

ชาญวิทย์...ไปหมดแล้ว อวย “ป้าเป้า” ท่านหญิงโกไดว่า แห่งสยามประเทศ **“บิ๊กป้อม” ตั้ง “พีระพันธุ์” กุนซือคนใหม่ และอาจจะให้คุมสนามเลือกตั้ง กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ชาญวิทย์...ไปหมดแล้ว อวย “ป้าเป้า” ท่านหญิงโกไดว่า แห่งสยามประเทศ

สบช่องออกสื่อ “ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” อดีตอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม “ม็อบ 3 นิ้ว” ก็เรียกเสียงฮือฮา ด้วยการโพสต์รูปภาพยืนคู่กับ “นางวรวรรณ แซ่อั้ง” หรือ “ป้าเป้า” คนดังของม็อบ 3 นิ้ว พร้อมเขียนข้อความบนเฟซบุ๊ก กล่าวถึง กิจกรรม 6 ตุลา ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า กับป้าเป้า With Auntie Pao (Lady Godaiva of new Thailand) ได้พบ “ท่านหญิงโกไดว่า แห่งสยามประเทศไทยใหม่” ตัวจริงหน้าตาดีกว่ารูปถ่าย !

สำหรับ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ “ป้าเป้า” เป็นที่รู้จักในหมู่ชาว 3 นิ้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เพราะสร้างภาพจำด้วยการเปลื้องผ้า ทั้งเสื้อและกระโปรง เปลือยเปล่าทั้งร่าง ประท้วงต่อหน้าต่อตาตำรวจที่แยกนางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ก่อนที่ทางตำรวจจะแจ้งข้อหา มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

 “ป้าเป้า” วรวรรณ แซ่อั้ง
ส่วน “เลดี้โกไดว่า” หรือ Lady Godiva ที่ “ชาญวิทย์” อวยป้าเป้าขึ้นไปเทียบนั้น เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ ว่ากันว่า เธอเป็นสตรีสูงศักดิ์แห่งเมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 997-1067 เป็นภรรยาของลีโอฟริก (Leofric) เอิร์ลแห่งเมอร์เซีย และลอร์ดแห่งโคเวนทรี ผู้ซึ่งเก็บภาษีอย่างโหดเหี้ยม จนประชาชนเดือดร้อน เมื่อโกไดว่า ได้รับรู้เรื่องราวความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงขอร้องให้สามีลดภาษีลง แต่เขาไม่ยอมจนเกิดการท้าทายว่า หากเธอกล้าเปลือยกายขี่ม้าไปทั่วเมืองโคเวนทรี จะยอมลดภาษี... ซึ่งตำนานเรื่องนี้ก็ยังถกเถียงกันมาตลอดว่า เป็นเรื่องจริง หรือแต่งขึ้น

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
เมื่อ “ชาญวิทย์” ให้เครดิตเปรียบ “ป้าเป้า” เท่ากับ “เลดี้โกไดว่า” ของอังกฤษ งานนี้ชาวโซเชียลฯ จึงแสดงความเห็นกันครึกครื้น บอกไม่น่าเชื่อว่า “ชาญวิทย์” ที่เคยเป็นถึงอาจารย์ และมีตำแหน่งทางวิชาการสูงส่ง จะด้อยค่าตัวเองแบบแยกแยะอะไรไม่ได้
เปรียบเทียบไปได้อย่างไร เกินจะบรรยาย ถ้าไม่อาการหนัก สมงสมองคงไปหมดแล้ว...อาจารย์!
สรุปว่า งานนี้ ชาญวิทย์ กับป้าเป้า ศีลเสมอกัน ...ไปไกลมาก!!



**“บิ๊กป้อม” ตั้ง “พีระพันธุ์” กุนซือคนใหม่ และอาจจะให้คุมสนามเลือกตั้ง กทม.
มีข่าวแพลมออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะตั้ง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม และ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ...และถึงวันนี้ได้มีการแต่งตั้งกันเป็นที่เรียบร้อย รวมทั้ง “พีระพันธุ์” ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว
“ลุงป้อม” บอกว่า ไม่เกี่ยวอะไรกับการจัดทัพ กระชับอำนาจในพรรค แต่ตั้งมาเพื่อใช้งานในทุกๆ เรื่อง เพราะตนเองมีงานที่ต้องทำเยอะ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ในรายของ “สมศักดิ์” นั้น ไม่ถูกพูดถึงเท่าไร เพราะถือเป็นคนในพรรคอยู่แล้ว แต่ “พีระพันธุ์” นี่ผู้ติดตามการเมืองมองว่ามีนัยยะที่น่าติดตาม!!

เพราะก่อนหน้านี้ “พีระพันธุ์” นั่งช่วยงาน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เป็นที่ปรึกษานายกฯ มีบทบาทเยอะ มีงานใหญ่ที่นายกฯมอบหมายให้ไปทำ อย่างเช่น นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเป็นหัวเรือใหญ่จัดทำแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย...

ย้อนเส้นทางการเมืองของ “พีระพันธุ์” ก่อนหน้านี้ ก็เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อยู่พรรคนี้มานานนับสิบปี เคยโดดลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่พ่ายแพ้แก่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน

“พีระพันธุ์” ยอมทิ้งตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยื่นลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก่อนจะไปก็ทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ ใส่พรรคเอาไว้เหมือนกัน ว่า มีผู้ใหญ่มากบารมีแทรกแซงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค จนเป็นเหตุให้ตนเองพ่ายแพ้

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
เมื่อ “พีระพันธุ์” ออกจากประชาธิปัตย์มาได้ไม่กี่วัน “ลุงตู่” ก็รับเข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และไว้วางใจให้ดูแลงานใหญ่หลายๆ เรื่องอย่างที่กล่าวมา

จะว่าไปแล้ว การที่ “ลุงป้อม” ตั้ง “พีระพันธุ์” เป็นกุนซือครั้งนี้ ก็เพราะเห็นว่าไม่ใช่คนห่างไกล หรือไม่รู้มือกันมาก่อน เนื่องจาก “พีระพันธุ์” นั้น เป็นรุ่นน้อง ที่จัดอยู่ในกลุ่ม “เซนต์คาเบรียลคอนเนกชัน” และยังเคยร่วม ครม.เดียวกัน ในรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกฯ โดย “ลุงป้อม” เป็น รมว.กลาโหม ส่วน “พีระพันธุ์” เป็น รมว.ยุติธรรม

กล่าวได้ว่า “พีระพันธุ์” สนิทสนม คุ้นเคยกับทั้ง “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” เพียงแต่การได้รับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้ บังเอิญอยู่ในช่วงที่มีข่าวว่า “ลุงตู่” กับ “ลุงป้อม” สัมพันธ์กระท่อนกระแท่น ไม่ค่อยสมานฉันท์กันเท่าไร จึงถูกจับตาว่า “ลุงตู่” ส่งมาเป็นสาย เป็นหูเป็นตา ภายในพรรคหรือไม่ หลังตกลงปลงใจแล้วว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ก็ย่อมจะมีการรุกคืบ วางคนกันไว้บ้าง ...หรืออาจจะมาเป็นคนประสาน “ความคิด” ระหว่าง ลุงตู่ กับลุงป้อม เพื่อการก้าวเดินตามยุทธศาสตร์ 20 ปีให้มั่นคงยิ่งขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หรือการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคครั้งนี้ มีภารกิจสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้ารออยู่ โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้ง กทม.ที่ปัจจุบันคนของพลังประชารัฐ ซึ่งเคยเป็นแกนนำ อย่าง “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ” และ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ต้องหลุดวงโคจรไปแล้ว

“พีระพันธุ์” ที่เป็น ส.ส.กทม.เก่า สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ส.ส.กทม. ตลอดจน ส.ส.ภาคอื่นๆ อาจจะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวเรือใหญ่เมืองกรุง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็นได้
ก็ต้องติดตามก้าวย่างทางการเมืองของ “พีระพันธุ์” ในสังกัดพลังประชารัฐกันต่อไป หากผลงานดี ตำแหน่งรัฐมนตรีคงมีแน่...ดีไม่ดีอาจมีตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนเลือกตั้งก็เป็นได้ใครจะไปรู้




กำลังโหลดความคิดเห็น