xs
xsm
sm
md
lg

จังซี่มันต้องถอน? “อู๊ดด้า” ออกลูกงอน “ลุงตู่” ที่มอบ “ลุงป้อม” คุม 4 กรม เกษตรฯงาน “ผู้กองธรรมนัส” **จับตา “พรรคปลัดฉิ่ง” ที่จะชู “ลุงตู่” แคนดิเดตนายกฯ เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**จังซี่มันต้องถอน? “อู๊ดด้า” ออกลูกงอน “ลุงตู่” ที่มอบ “ลุงป้อม” คุม 4 กรม เกษตรฯ งาน “ผู้กองธรรมนัส”


ยังไม่จบง่ายๆ กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี ให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกำกับ 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นงานของ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ จากเดิมที่ให้ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ดูแล

งานนี้ “จุรินทร์” ออกอาการงอน ก่อดรามาขึ้นมาตามหลัง ว่าขอพูดโดยรวมว่า เห็นใจพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จะต้องแก้ไขปัญหาภายพรรค ซึ่งให้กำลังใจมาโดยตลอด เพียงแต่การแก้ไขปัญหาควรจะยุติ ไม่ควรที่จะกระทบถึงส่วนอื่นหรือพรรคการเมืองอื่น ไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็นเรื่อง แทนที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดให้ลุล่วงไปได้ ก็จะเป็นการแก้ปัญหาหนึ่งแต่ไปสร้างอีกปัญหาหนึ่งโดยไม่จำเป็น

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“อู๊ดดา” ไม่พูดเปล่า บอกว่า ได้สื่อสารเรื่องนี้กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว และนายกฯก็รับทราบ จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายไปได้
ดรามาเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นตอนที่มีกระแสข่าวรักร้าวของ “พี่น้อง 3 ป.” ระหว่างทำศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่จบลงด้วยการปลด “ผู้กองธรรมนัส” รมช.เกษตรฯ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งก็มองกันว่า งานเดิมที่เป็นโควตาของ พปชร. จะตกไปอยู่ในมือของ ปชป. ที่นั่งเป็นเจ้ากระทรวงอยู่หรือไม่
4 กรมที่ว่า คือ กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ต้องเป็นกรมใหญ่ ไม่ธรรมดา สร้างผลงาน สร้างฐานเสียงคะแนนนิยมได้ ย่อมเป็นปัญหาแน่หาก พปชร.ปล่อยหลุดมือ


จริงอยู่ สมัยที่ “ผู้กองธรรมนัส” เป็น รมช. “จุรินทร์” กำกับ แต่ตามมารยาทระหว่างพรรคการเมือง ก็รู้กันว่า เป็นเพียงงานที่ต้องรายงาน จุรินทร์ย่อมไม่ถึงกับลงมา “ล้วงลูก” เอง ซึ่งว่าไปแล้ว พอ รมช.เกษตรฯ โควตาพรรค พปชร.ไม่อยู่ งานเดิมถูกมอบให้ “ลุงป้อม” กำกับ ก็ถือว่า เป็น “จุดเกรงใจ” ระหว่างสองพรรคก็มองได้ กล่าวคือ พปชร.ก็ยังให้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรฯ ของ ปชป. บริหารจัดการไป เพียงแต่หากจะพิจารณากลั่นกรองแล้วจะเสนอเรื่องเข้า ครม. ต้องเสนอผ่าน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร แทน “รองฯ จุรินทร์”
เรียกว่า เข้าใจกันได้ แต่ที่ไม่เข้าใจว่า “อู๊ดด้า” ออกมาโหวกเหวก เรื่องนี้มี “วาระ” อะไรซ่อนเร้น? หรือเกรงว่า “ลุงป้อม” จะปฏิบัติการยึดกระทรวงเกษตรฯ ที่เป็นฐานที่มั่นของ ปชป. ? คำถามนี้ “จุรินทร์” อ้อมแอ้ม ว่าไม่ทราบ เพราะเรื่องนี้ไม่เคยคุยกัน เป็นอีกกรณีหนึ่งซึ่งยังไม่เกิดเรื่องขึ้น ทั้งหมดที่ออกมาพูดย้ำว่า พูดตามหลักการก็เท่านั้น เข้าใจ และเห็นใจรัฐบาลว่ามีปัญหาอยู่หลายด้านในขณะนี้ ฉะนั้น อะไรที่จะไม่สร้างปัญหาเพิ่มโดยไม่จำเป็น ก็ไม่ควรทำ
แปลไทยเป็นไทย สรุปได้ว่า หัวหน้าพรรค ปชป.ไม่เห็นด้วยกับลุงๆ ที่มอบ “ลุงป้อม” คุมงาน 4 กรม ในกระทรวงเกษตรฯ งานเก่าของผู้กองธรรมนัส เห็นว่า “ลุงตู่” เพื่อเอาใจ “ลุงป้อม” แก้ปัญหารักร้าว กลับสร้างปัญหาใหม่ มาร้าวที่ ปชป. แทน ... แบบนี้จะให้ “จุรินทร์” ทนยังไงไหว

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
งานนี้มีทั้งเสียงเชียร์หัวหน้าทำดีแล้ว สู้ต่อไป ต้องให้ลุงตู่ รู้มารยาทของการอยู่ร่วมกันเสียบ้าง และเสียงยุยงจาก “แม่ยก ปชป.สายบ่าง” ที่เห็นว่าเมื่อถูกด้อยค่า ก็อย่าอยู่เลย “จังซี่มันต้องถอน”
...แต่ปัญหามีอยู่ว่า “หัวหน้าอู๊ดด้า” จะกล้ามั้ยล่ะ?!!


** จับตา “พรรคปลัดฉิ่ง” ที่จะชู “ลุงตู่” แคนดิเดตนายกฯ เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

แม้ “พี่น้อง 3 ป.”จะบอกว่ารักกันมาก ไม่มีวันเลิกรักกัน ลงพื้นที่ก็ไม่มีการวัดพลังกัน เป็นเรื่อง “สื่อเสี้ยม” กันไปเอง ...
แต่ในทางการเมืองที่มีเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ เข้ามาเป็นตัวกำหนด อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าความรุนแรง หนักหน่วงจะอยู่ในระดับใดเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นแล้ว คงไม่มีเรื่องเตรียมโหวตคว่ำ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา และ “2 รมช.” ที่เป็นผู้ใกล้ชิด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ถูกเช็กบิลตามมา จนเป็นที่มาของข่าวคราวของความร้าวฉานของพี่น้อง 3 ป.
แต่ลุงๆ ก็ยังบอกว่าเป็นเรื่องสื่อเสี้ยม!!

พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล
อย่างไรก็ตาม ความระหองระแหงระว่างกัน ก็คงปิดไม่มิด โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หาก “ลุงป้อม” ยังไว้วางใจให้ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั่งเป็นเลขาธิการพรรคอยู่ แล้ว “ลุงตู่” จะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

… เพื่อความชัวร์ จึงมีกระแสข่าวว่า “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ไปตั้งพรรคไว้รองรับแล้ว...นัยว่า ชื่อพรรคเศรษฐกิจไทย

แล้วเรื่องนี้ก็ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อ “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กตู่” ประกาศว่า จะพาสมาชิกพรรคซึ่งส่วนใหญ่อยู่ “สายใต้” 13 คน ลาออกไปสังกัด “พรรคปลัดฉิ่ง”

“พ.อ.สุชาติ” บอกว่า แม้กลุ่มของตนเองจะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ก็มีผลงานเป็นรูปธรรม ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา สามารถเจาะพื้นที่ภาคใต้ ได้ ส.ส.มาถึง 14 เสียง แต่พรรคก็ไม่ได้เห็นความดีความชอบ ไม่มีแม้กระทั่งคำชื่นชม

… พรรคพลังประชารัฐที่ดูดีมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะ “นายกฯลุงตู่” แล้วทำไมจะต้องมาเอาเป็นเอาตายกับนายกฯ ถึงขนาดจะต้องให้ตกจากเก้าอี้ ซึ่งไม่ถูกต้อง จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป...

อีกอย่าง ตอนนี้ในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีเต็มแล้ว ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ประธานยุทธศาสตร์พรรค แล้วพล.อ.ประยุทธ์ จะไปลงตรงไหน ไม่มีที่แล้ว เมื่อไม่มีที่ลง ก็ต้องไปที่อื่น...

ฉัตรชัย พรหมเลิศ
ฟังคำของ “พ.อ.สุชาติ” แล้วหลายคนอาจเห็นภาพ “พรรคปลัดฉิ่ง” ที่มีทั้ง ลุงป๊อก ลุงตู่ เป็นแกนหลัก มีปลัดฉิ่ง เป็นแม่บ้าน และ พ.อ.สุชาติ คุมด้านยุทธศาสตร์ คงเป็นพรรคการเมืองที่จะมา “ถ่วงดุล” พรรคพลังประชารัฐได้
แต่ในมุมมองของ ส.ส.พลังประชารัฐ แล้วไม่ได้ “ให้ค่า” ถึงขนาดนั้น โดยเฉพาะในตัวของ “พ.อ.สุชาติ” นั้น ก็คงมีดีแค่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่น 12 ของลุงตู่ ไม่ได้มีบารมีขนาด พา 14 ส.ส.ภาคใต้ เข้ามาได้ ...ถ้ามีบารมีขนาดนั้นป่านนี้ต้องได้เป็นรัฐมนตรีว่าการไปแล้ว … แถมล่าสุด ลงเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ยังแพ้ลุ่ย !!

หาก “พรรคปลัดฉิ่ง” ที่จะชู “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยก็ต้องเป็นพรรคขนาดกลาง จึงจะดูว่าสมศักดิ์ศรี...
สำหรับพรรคการเมืองเกิดใหม่ การจะมีจำนวน ส.ส.ในระดับนั้นได้ก็คงหนีไม่พ้น ต้องใช้ “พลังดูด” หรือการ “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เท่านั้น !!

โดยเฉพาะหากคิดจะดูด ส.ส.จะพลังประชารัฐไป ก็คงต้องดูกระแสการเมืองในอนาคต... ยิ่งตอนนี้ “ลุงป้อม” เริ่มกระชับอำนาจ ปรับปรุงพรรค เตรียมตั้ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯฝ่ายการเมือง กับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แกนนำกลุ่มสามมิตร มานั่งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก็อาจจะทำให้พรรคเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น
ถึงที่สุดแล้ว พรรคพลังประชารัฐ กับพรรคปลัดฉิ่ง จะเป็นพรรคพี่น้อง ในลักษณะ “แตกแบงก์ย่อย” หรือเป็นคู่ห้ำหั่นในสนามเลือกตั้ง ต้องดูกันยาวๆ




กำลังโหลดความคิดเห็น