ข่าวปนคน คนปนข่าว
**พระมหาสมปอง ให้กำลังใจพยาบาลบ้ายอสอนเซ็กซ์ งานนี้ “พส.” ไม่ต้องปั้ว ไม่ต้องจึ้ง เอาปากกามาวงทุกเรื่องก็ได้มั้ง !!
กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ “พส.” พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง “ธรรมะดีลิเวอรี่” สไตล์เฮฮาตลกขบขันแห่งวัดสร้อยทอง ออกมาโพสต์ให้กำลังใจ “น.ส.สุวิชา น้อยหา” เจ้าของเพจ “พยาบาลบ้ายอ แห่งประเทศไทย crazy nurse thailand” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.2 แสนคน
เรื่องของเรื่องก็มาจากกรณีเพจพยาบาลบ้ายอ ซึ่งเป็นเพจให้ความรู้ด้านการแพทย์ ได้จัดทำคลิปให้ความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ช่วงโควิด-19 อย่างไรให้ปลอดภัย โดยอ้างอิงจากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา ต่อมาแอดมินแจ้งว่า มีคนร้องเรียน และถูกสอบข้อหาวางตัวไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ โดยพิมพ์ไปหลั่งน้ำตาไป ด้วยว่าเจตนาดีกลับถูกตีความว่า ผิดจรรยาบรรณ จนต้องลบคลิปดังกล่าว ท่ามกลางแฟนเพจที่เข้ามาให้กำลังใจ และเห็นว่า จากเหตุครั้งนี้ แฟนเพจจะเปลี่ยนชื่อเพจใหม่ เป็น “พยายามบ้ายอ สาระสู่จักรวาล crazy to universe” ออกนอกโลกไปเลยจ้ะ อลังการดาวล้านดวง เพื่อพิชิตตำแหน่งนางงามจักรยาน อร๊ายยย งงกันมั้ย
“พระมหาสมปอง” ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ชื่นชม ชื่นชอบ ติดตามผลงานโยมน้องพยาบาลท่านนี้มาตลอด สนุกได้ความรู้+ความบันเทิง แบบ Edutainment ขอเป็นอีก 1 กำลังใจ ใครมีเบอร์หรือติดต่อน้องพยาบาลท่านนี้ได้ วานบอกทางเมสเซนเจอร์นะ ไม่ปั้ว ไม่จึ้งตรงไหน เอาปากกามาวง
ดังนั้นเอง เมื่อ “พระมหาสมปอง” มาแบบนี้ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พส.ชื่อดังทันควัน หนึ่งในนั้นเป็น “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กราบนมัสการท่านมหาสมปอง ผมอ่านข่าวท่านมหาให้กำลังใจพยาบาลคนหนึ่ง ที่ไลฟ์สดสอนการมีเซ็กส์ช่วงโควิด-19 ต่อมาสภาการพยาบาล ได้ตักเตือนถึงความไม่เหมาะสมที่พยาบาลท่านนั้นสอนการมีเซ็กซ์ พยาบาลท่านนั้นก็ลบคลิปดังกล่าวออกไป ซึ่งเธอก็คงเห็นด้วยว่าไม่เหมาะสม จึงลบคลิป ต้องขอขอบคุณเธอ
ต่อมา “ท่านมหา” ออกมาโพสต์ให้กำลังใจพยาบาลท่านนั้น ผมก็อดสงสัยไม่ได้ ว่า 1. ท่านมหาเห็นคลิปนั้นหรือเปล่า จึงเชียร์ให้กำลังใจพยาบาลท่านนั้น 2. ถ้าเห็นคลิปแล้ว ท่านมหาทราบอย่างไรว่า การมีเซ็กซ์แบบไหนดี และแบบไหนปลอดภัย จึงออกมาเชียร์ 3. ผมมีความเห็นว่า ท่านมหาเชียร์สินค้า จำพวก สบู่ ยาสีฟัน ดีกว่า ว่าอย่างไหนดี อย่างไหนไม่ดี เพราะท่านมหาก็คงใช้สบู่ ยาสีฟัน จึงน่าจะมีเหตุผลที่จะรู้ว่ายี่ห้อไหนดี-ไม่ดี แต่ท่านมหาออกมาเชียร์เรื่องการมีเซ็กซ์ ว่าแบบไหนดี แบบไหนปลอดภัย ผมว่าท่านมหาล้ำเส้นออกมานอกวัดมากไปหน่อย
แน่นอนว่า มีคนอีกไม่น้อยที่แสดงความเห็นด้วยกับ “นิพิฏฐ์” ว่า พส. พระมหาสมปองไม่ต้องแสดงความเห็นในกรณีนี้จะดีกว่า ปล่อยให้องค์กร “วิชาชีพ” เขาว่ากันไปตามเท็จจริง ไม่ดีกว่าหรือ ?
ความดีของเพจพยาบาลก็มีเยอะ ความพยายามสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดี มีประโยชน์ของเพจก็ต้องชื่นชม อะไรที่ถูกติติงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ก็ปรับปรุงกันไป
แต่ พส.ร่วมวง ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่า หิวแสง โหนกระแส เกินเลยกิจของสงฆ์ คล้ายๆ ที่เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักกรณีไลฟ์สด “รีวิว” สินค้าไม่ต่างจาก “แม่ค้าขายของออนไลน์” มาก่อนหน้านี้แล้ว
ทำนองนี้ต้องบอกว่า ...พส.ไม่ต้องปั๊ว ไม่ต้องจึ้ง เอาปากกามาวงทุกเรื่องก็ได้มั้ง
** “พี่ป้อม” ตั้งเป้า ปั้น “น้องตู่” นั่งนายกฯสมัย3 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทั้งจากการกระทำและคำประกาศ บ่งบอกชัดเจนว่า “พี่น้อง 3 ป.” จะไปต่อกันทั้งพวง ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยยังคงวางตัว “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
การคืน 4 กรม ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เพิ่งยึดมาได้แค่ 2 สัปดาห์ ให้กลับไปอยู่ในความดูแลของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เหมือนเป็นการรักษาน้ำใจ รักษาแนวร่วมทางการเมืองเอาไว้เพื่อวันข้างหน้า
ยิ่ง “ลุงตู่” บอกว่า ในวันประชุม ครม.หลังจากนี้ จะมีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้มากขึ้น จะลงพื้นที่เพื่อใกล้ชิด ส.ส. ใกล้ชิดประชาชนให้มากขึ้น ก็เหมือนเป็นการกระชับสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ...แบบว่า ต้องแพ็กกันไว้ไม่ให้ย้ายข้าง !!
ขณะที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ของ 3 ป. ที่ปกติเป็นคนพูดน้อย ถามคำ ตอบคำ บางครั้งถามสองคำ ยังไม่ตอบสักคำ ...แต่ช่วงนี้ถ้าพูดถึงเรื่องที่ “ลุงตู่” ที่จะเป็นนายกฯต่อ หรือปัญหาความเป็นเอกภาพในพรรคพลังประชารัฐ ก็จะตอบยาว เอาให้เคลียร์
“ลุงป้อม” การันตีว่า “ลุงตู่” จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีการแยกตัวออกไปอยู่ “พรรคปลัดฉิ่ง” ตามที่ “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” เพื่อนรักลุงตู่ พยายามออกมาให้ข่าว … “ไม่มี จะตั้งพรรคหรือเปล่าก้ไม่รู้...ที่ไหน มีใครบ้าง..”
เมื่อ “ลุงป้อม” ออกปากอย่างนี้ เห็นที “พรรคปลัดฉิ่ง” คงเกิดยากเสียแล้ว!!
ส่วนที่พรรคการเมืองอื่นๆ มักเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ น้อยใจหรือไม่... ลุงป้อม บอกแบบไม่อ้อมแอ้มว่า “ก็หัวหน้าพรรคเดินไม่ได้ จะไปน้อยใจอะไร ก็ผมเป็นคนเสนอเอง”
เอาเป็นว่า “ลุงป้อม” ขอเป็นแรงส่งให้ “ลุงตู่” เป็นนายกฯสมัยที่ 3 ส่วนตัวเองเป็นแค่หัวหน้าพรรค เป็นผู้จัดการรัฐบาลก็พอ!!
เรื่องปัญหากินใจ ระหว่าง “ลุงตู่” กับ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นั้น เคลียร์กันหรือยัง จะมีปัญหากันในอนาคตอีกหรือเปล่า “ลุงป้อม” บอกว่าเป็นการมองกันไปเอง ไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว เรื่องแตกแยกไม่มี ...“ไม่เกิดหรอก เสียง 100% อยู่แล้ว”
คราวนี้ก็มีถึงเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไร... ฝ่ายค้านบอกว่าต้องนับตั้งแต่ “ลุงตู่” เป็นนายกฯ คสช. จะครบ 8 ปี ในเดือนสิงหาคม ปีหน้า ส่วนคนในรัฐบาลบอกว่าต้องเริ่มนับตอนเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งปี 62 ดังนั้น ยังเหลือเวลาอีกยาวกว่าจะครบ 8 ปี ... ครั้นฝ่ายค้านจะยื่นตีความ ก็ต้องรอหลังสิงหาคมปีหน้า ให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนจึงจะยื่นตีความได้ ...แต่ถ้าจะให้ฝ่ายรัฐบาล หรือนายกฯ เป็นคนยืนตีความเอง ก็คงมองว่า ไม่จำเป็น เรื่องอะไรจะต้องไปเต้นตามฝ่ายค้าน
ที่เหลืออีกเรื่องที่รัฐบาลยังอุบไว้ คือ ครั้งหน้าจะเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ หรือบัตรใบเดียว ...เพราะร่างแก้ไข รธน.ที่ให้ใช้บัตร 2 ใบนั้น ผ่านสภา ส่งถึงมือนายกฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว แต่ตามกรอบกติกา มีว่า เมื่อถึงมือนายกฯแล้วต้องเก็บไว้ 5 วันก่อน จากนั้นให้บวกไปอีก 20 วัน จะทูลเกล้าฯเมื่อใดก็ได้ภายใน 20 วันนี้... ซึ่งสภาส่งถึงนายกฯตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. ตอนนี้เกิน 5 วันแล้ว แต่นายกฯก็ยังไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ...หรือหากทูลเกล้าฯไปแล้วเกิน 90 วัน ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯลงมา ร่างดังกล่าวจะตกไป เว้นแต่ว่าสภาฯจะนำกลับมายืนยันอีกครั้งภายใน 30 วัน... หรือหากมีการยุบสภาก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ก็ต้องกลับไปใช้แบบบัตรใบเดียวเหมือนเดิม
จึงต้องมาลุ้นกันว่าเลือกตั้งครั้งหน้า “ลุงตู่” จะเลือกใช้แบบบัตร 2 ใบ หรือใบเดียว
