“ปิยบุตร” โหน “6 ตุลา” ยุ “ฝ่าย ปชต.” ช่วยทะลุแก๊ส อย่าให้สู้ตามลำพัง ชาวเน็ตไล่ออกมานำ “ปฏิรูปกษัตริย์” จะเอาแบบไหน ดังกระหึ่ม เพลง “บ้านเกิดเมืองนอน 2564” คนรักชาติแห่แชร์ เนื้อหาสุดปลื้ม-ภูมิใจรากเหง้าความเป็นไทย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 ต.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ปิยบุตร โหนข้ามโลก? ยุฝ่าย ปชต. ช่วยทะลุแก๊ส อย่าให้สู้ตามลำพังเหมือน 45 ปีที่แล้ว!
โดยระบุว่า จากกรณีวานนี้ (5 ต.ค. 64) นายปิยุบตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้พูดในวาระครบรอบ 45 ปี 6 ตุลาฯ โครงการ บันทึก 6 ตุลา - Documentation of Oct 6 ร่วมกับ พลเมืองตื่นรู้ - Active Citizens THA ในหัวข้อ “45 ปี มาตรา 112”
หลังจากนั้น นายปิยบุตร ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก กรณีมาตรา 112 ว่า ไม่ใช่กฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นปฏิกิริยา-สัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีบางช่วงบางตอนพูดถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน ว่า เรียกร้องทุกฝ่าย ช่วยผลักดันปฏิรูปสถาบันฯ ไม่ให้การเสียสละของเยาวชนสูญเปล่า
สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องมีการพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันฯ จากทุกฝ่ายในสังคม แน่นอนว่า วิธีการพูดและสื่อสารของแต่ละ generation มีความแตกต่างกัน แต่การรณรงค์สื่อสารกับฝ่ายรอยัลลิสต์ให้กลับมาฟังบ้าง ต้องใช้วิธีการพูดที่แตกต่างกันไป ผมเห็นว่า ตรงนี้อาจเป็นพื้นที่ที่นักวิชาการเข้าไปเติมได้ เช่น การอธิบายว่า เหตุใดแนวโน้มของการปกครองในประเทศไทยกำลังกลายเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบซ่อนรูปมากกว่า Constitutional Monarchy
ประเด็นข้อสาม ต้องมีมู้ดและโทนการถกเถียงที่หลากหลาย ถ้ามีแต่เยาวชนที่พูด กลุ่มอื่นไม่ช่วยกันขยับ โทนของเยาวชนก็จะถูกผลักให้กลายเป็นพวกฮาร์ดคอร์ แต่ถ้าทุกคนช่วยกันพูดก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่า คนรุ่นไหนเก่งกว่าใคร แต่ทุกฝ่ายต้องเดินไปด้วยกัน แม้แต่พูดว่า ปฏิรูปยังไม่พอ ก็ต้องยอมรับว่ามีคนที่เริ่มคิดถึงรูปของรัฐแบบอื่น หากมีคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดแบบนี้และคนรุ่นเก่าก็มีความคิดคนละทาง ต้องหาทางออกร่วมกันว่าจะอยู่ร่วมกันต่อไปอย่างไร
“สำหรับผม คนรุ่นใหม่เสียสละเอาชีวิตและร่างกายเข้าไปเสี่ยงคุก เสี่ยงตาราง เขาไม่มีความกลัวเหลืออยู่แล้ว ดังนั้น ผมเห็นว่า ไม่ควรปล่อยให้ไฟนี้มอดดับไป พูดอย่างตรงไปตรงมา หากวันหนึ่งรัฐเอาจริงขึ้นมา เราไม่มีทางสู้รัฐได้เลย แม้วิธีคิดของเยาวชนยังอยู่ แต่จะโดนบดขยี้จนไม่สามารถแสดงออกได้เลย เหมือน 45 ปีที่แล้ว ที่ขบวนการนักศึกษาก้าวขึ้นไปสูงมาก แล้วถูกบดขยี้จนหายไปนานเลย ดังนั้น กลุ่มที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดต้องช่วยกันทำให้ขบวนการรอบนี้เดินหน้าสู้ต่อไปได้ อย่าปล่อยให้เยาวชนสู้ตามลำพัง”
อย่างไรก็ตาม ย้อนไปก่อนหน้านี้ (14 ก.ค. 64) ที่ นายปิยบุตร ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า เป็นการกลับปารีสในรอบ 18 เดือน การเดินทางครั้งนี้ ผมมาเยี่ยมภรรยา-ครอบครัว แต่ยังจะเขียนงาน เผยแพร่ความรู้ ทำงานความคิดต่อไป ส่วนไอโอไม่ต้องปล่อยข่าวมั่ว ช่วง ก.ย. ผมกลับประเทศไทยแน่นอน เพราะผมชอบเพลง J’ai deux amours ของ Josephine Baker”
ซึ่งขณะนี้ คาดว่า นายปิยบุตร ยังไม่ได้กลับประเทศไทย และไม่ได้ไปร่วมงานรำลึก 45 ปี 6 ตุลา จึงทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำพูดก่อนหน้านี้ ว่า จะกลับภายในเดือนกันยายน 2564 รวมทั้งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “….ส่วนไอโอไม่ต้องปล่อยข่าวมั่ว ช่วง ก.ย. ผมกลับประเทศไทย #แน่นอน เพราะผมชอบเพลง……..” ตอนนี้ ต.ค. คงไม่ได้หมายถึง ก.ย. 65 นะจ๊ะ คิดถึงจุง นะจ๊ะ
ก็เหมือนจานปิบูดนั่นละ ออกมานำขบวนเองเลย ชวนนายทอนด้วย อย่ามัวแต่หลบหลังเด็กรุ่นใหม่เลย ยุเด็กๆ จนเด็กมันเบื่อ เสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ตัวเองนั่งยุในเฟซนี่นะ ใครเขาจะเชื่อถือจานล่ะ กลับมาๆ
คุณปิยบุตร ครับ ในเมื่อคุณปิยบุตร มีเป้าประสงค์ถาวรในเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กระผมสนทนามาถึงคุณปิยบุตร ด้วยคิดบวกนะครับ คุณปิยบุตร นั่นแหละออกมานำอย่างถาวร และประกาศให้ดังและชัดเจนในที่สาธารณะเปิด อย่าแสดงทัศนะในห้องปิดและหรือผ่านสื่อมวลชน แล้วคุณปิยบุตรต้องการปฏิรูปแบบใด แบบคุณปิยบุตรคิดเอง หรือแบบปฏิวัติโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ในฝรั่งเศส ก็เอาชัดเจน อย่าเป็นเพียงนักวิชาการในคราบนักการเมือง เมื่อกล้าคิดอย่างถาวร ก็กล้าเปิดต่อสาธารณะไปเลยครับ อยากเห็นของจริง อย่าพูดเสมือนตำหนิว่า สังคมไม่ช่วยคุณปิยบุตร เรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คุณปิยบุตร ต้องเริ่มก่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง สิครับ.
.. **เรียนว่าความคิดข้างต้นคิดอย่างสุจริตชน ไม่มีอคติครับ.
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เปิดตัวเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน 2564” ทำคนรักชาติแห่แชร์ ปลื้ม-ภูมิใจในรากเหง้าความเป็นไทย
เนื้อหาระบุว่า จากกรณี เพจ YouTube บ้านเกิดเมืองนอน 2564 ได้เผยแพร่เพลง บ้านเกิดเมืองนอน 2564 EP.1 ROCK Full Version ซึ่งขับร้องโดย แมว จีระศักด์, อี๊ด ฟลาย, อู๋ ธรรพ์ณธร, สน เดอะสตาร์, ตุ้ย เกียรติกมล, ตี๋ วิวิศน์ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงร็อกปลุกพลัง ซึ่งทำให้เกิดกระแสชื่นชมเป็นจำนวนมาก
โดยบอกว่า เรารักประเทศไทย รักทุกอย่างในความเป็นชาติไทย ภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ทำเอาน้ำตาซึมเลย เราอยู่รอดมาเกือบ ๘๐๐ ปีแล้ว บรรพบุรุษสอนจากรุ่นสู่รุ่นตลอดมา ว่าเรามาถึงวันนี้ได้ เพราะความรักและความสามัคคีกัน, มาช้าแต่ก็ยังมา รักเมืองไทย รักแผ่นดินนี้ รักสถาบัน รักความเป็นไทย รักบรรพบุรุษที่สละเลือดเนื้อปกป้องแผ่นดินนี้มาให้ลูกหลาน, ทำดนตรีใหม่ มันดีมาก เพราะมาก เอาไว้เปิดฟังทุกๆ เช้า ภูมิใจที่ไทยเรามีความเป็นเอกลักษณ์มายาวนาน
ขอบคุณโปรดิวเซอร์และศิลปินทุกท่านที่ทำเพลงนี้ ที่แสดงออกถึงการรักบ้านเกิดเมืองนอนของเรา #สำนึกรักบ้านเกิด #รักเธอประเทศไทย #คนไทยรักบ้านเกิดเมืองนอน, ไทยอาจไม่ใช่เมืองที่สวยที่สุด ดีที่สุด แต่ก็เป็นบ้านเกิดของเรา ถึงแม้ว่า เราจะเห็นบ้านคนอื่นใหญ่โต สวยงาม มันก็บ้านคนอื่นยุดี รักเมืองไทยค่ะ, ฉันภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย รักรากเหง้าของตัวเอง, ขอบคุณค่ะ ฟังแล้วขนลุกเลยค่ะ เสียงเพลงนี้ได้ปลุกสำนึกรักชาติพร้อมกับรอยยิ้มของคนไทยคนนึงออกมาตลอดที่ฟังเพลงนี้เลยค่ะ
สำหรับเพลงดังกล่าวนั้น มีวงสุนทราภรณ์ ประพันธ์ ทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน และคำร้องโดย แก้ว อัจฉริยะกุล เป็นเพลงจังหวะฟร็อกทร็อต ชนะการประกวดการแต่งเพลงปลุกใจ เมื่อปี 2488 ซึ่งโปรเจกต์บ้านเกิดเมืองนอน 2564 นี้ สร้างสรรค์ขึ้นจาก 4 โปรดิวเซอร์ 18 ศิลปิน และมีด้วยกัน 4 เวอร์ชันใหม่ โดย พี่ดี้ นิติพงษ์ ในเวอร์ชัน PIANO, ครูเต๋า ภราดร ในเวอร์ชัน POP JAZZ, สวัสดีชัย ในเวอร์ชัน POP และ เพชร มาร์ ในเวอร์ชัน ROCK
อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เพลงดังกล่าวอาจจะไม่ถูกใจกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะที่ผ่านมา กลุ่มคนดังกล่าวก็มีพฤติกรรมที่ด้อยค่าประเทศตัวเอง โจมตีสถาบันฯ และแบนในเรื่องของวัฒนธรรมของไทยมาโดยตลอด ซึ่งก็ต้องติดตามดูว่า จะมีการเรียกทัวร์มาลงเหมือนเพลง ดุจดั่งสายฟ้า ที่ขับร้องโดย ตูน บอดี้สแลม หรือไม่
ชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=4ZMuuVbyYTI
แน่นอน, การนำเอาสองโพสต์นี้มานำเสนอ ก็เพื่อที่จะทำให้ “ปิยบุตร” และสาวก ตาสว่างขึ้นมาบ้าง ว่า ยังมีคนไทยที่เห็นต่าง และความภาคภูมิใจของคนไทยส่วนใหญ่ ก็คือ ความเป็นไทย ที่เป็นอยู่นั่นเอง
นอกจากตาสว่างแล้ว อย่างน้อยที่สุด จะได้รู้ว่า เรื่อง “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” นั้น เป็นการคิดเองเออเอง ว่า คนไทยพร้อมที่จะเห็นด้วย
ที่สำคัญ “ปิยบุตร” คับแคบเอาตัวเองและพรรคพวกร่วมอุดมการณ์ เป็นศูนย์กลางความคิดความเชื่อเกินไป จึงกล้าท้าทาย ทั้งกับสถาบันฯและคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ
โดยไม่สนใจว่า คนไทยส่วนใหญ่ คิดอย่างไรกับข้อเรียกร้อง ของ “ปิยบุตร” และที่ชัดเจนที่สุดในเวลานี้ ก็คือ “ปิยบุตร” และสาวก ต้องการให้คนไทยส่วนใหญ่ คิดตาม ทำตามคนส่วนน้อยที่ไม่รู้จำนวนแน่ชัด อันมี “ปิยบุตร” เป็น “หัวโจก” ต้องการ
ประเด็นก็อย่างที่ชาวเน็ตสะท้อน ยิ่งยุม็อบเด็กออกมาสู้ ยุคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปมาสนุบสนุน ก็ยิ่งทำให้แนวทางต่อสู้ “ปฏิรูปสถาบันฯ” เข้ารกเข้าพง หรือ ออกทะเลไปกันใหญ่ เพราะนอกจากพูดไม่รู้เรื่อง และอธิบายไม่ถูกแล้ว ยังเอาแต่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เผาป้อมตำรวจ ทำลายทุกอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน อย่างนี้ก็เท่ากับข่มขู่ ข่มเหง คิดร้าย มากกว่าที่จะเรียกได้ว่า คิดดี หวังดีต่อสถาบันฯตามที่กล่าวอ้าง
ทางเดียวที่จะทำให้คนไทยรู้เรื่อง และเข้าใจได้ว่า ข้อเรียกร้องคืออะไร ที่บอกว่า คิดดี หวังดีต่อสถาบันฯนั้น เหตุผลฟังขึ้นหรือไม่ ที่สำคัญ จะต้องพร้อมฟังเหตุผลของฝ่ายที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ด้วย
“ปิยบุตร” จะต้องออกมานำม็อบเคลื่อนไหวเอง ถือธงนำ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสี่ยงคุกตะราง อย่างจริงจัง เมื่อนั้น “ปิยบุตร” ก็จะได้รู้ว่า เสียงตอบรับจะเป็นอย่างไร มีคนล้นหลามเข้าร่วมหรือไม่ คนที่ “ปิยบุตร” เชื่อว่า คิดเหมือนกัน แต่ไม่กล่าแสดงตัว เขาจะได้แสดงตัว สู้กับ “ปิยบุตร” และทุกอย่างจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า “ปิยบุตร” คิดถูกทุกอย่าง จริงหรือไม่
ไม่แน่ ทุกอย่างอาจจบลงแค่นี้ก็เป็นได้!?