xs
xsm
sm
md
lg

ดุจดั่งสายฟ้า! บทเพลงจากใจ “ตูน บอดี้สแลม” ยอดไลก์แซงทัวร์สามกีบ ** ดรามาเดือด “ผู้การชาติ” ทิ้ง พปชร.ซบ “ปลัดฉิ่ง” แต่พรรคใหม่ยังหาหัวจ่ายไม่เจอ ไม่มีใครย้ายตาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อาทิวราห์ คงมาลัย-บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์-พ.อ.สุชาติ  จันทรโชติกุล-สิระ เจนจาคะ
ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ดุจดั่งสายฟ้า! บทเพลงจากใจ “ตูน บอดี้สแลม” ยอดไลก์แซงทัวร์สามกีบ

จากกรณีที่โลกออนไลน์เกิดดรามาในเรื่อง “ดุจดั่งสายฟ้า” บทเพลงจากหัวใจ “ตูน บอดี้สแลม” หรือ “อาทิวราห์ คงมาลัย” ขับร้อง ซึ่งได้เผยแพร่ผ่านช่องทางยูทูบ เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีชาวเน็ตกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว พากันเข้าไปป่วน โดยแห่กด Dislike จนยอดสูงกว่าการกด Like เป็นจำนวนมาก

งานนี้ทำให้สังคมสะทกสะท้อนใจ ในการกระทำของชาวเน็ตกลุ่มนี้ เพราะเพลง “ดุจดั่งสายฟ้า” คือ เพลงที่กองทัพบกจัดทำขึ้นเพื่อทูลเกล้าถวายฯ เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ คำร้อง ทำนองและเรียบเรียง โดย “พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ผู้ประพันธ์ที่เคยฝากฝีมือการประพันธ์เพลง King of King บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙ ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีมาแล้ว

ชาวเน็ต 3 นิ้ว เชิญชวนพวกพ้องตัวเองมากด Dislike อยู่หลายวัน พร้อมๆ ชักชวนกัน แบน “ตูน บอดี้สแลม” ผู้ขับร้องไปด้วย
จนถึงจุดที่ พระเอกรุ่นใหญ่ ฮีโร่กู้ภัย “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ทนไม่ไหว จึงออกมาเคลื่อนไหวผ่าน เฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และได้โพสต์ข้อความว่า

“ตอนนี้ มีคนไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำลังปั่นรุมถล่มกด unlike เพลง “ดุจดั่งสายฟ้า” จนยอด unlike เยอะกว่ายอด like เยอะมาก จึงขออนุญาตขอพลัง “คนรักในแผ่นดินไทย ในสถาบันอันเป็นที่รักของเรา” เข้าไปกดเพิ่มยอดไลก์ (กดนิ้วโป้ง) สู้หน่อยครับ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อผืนแผ่นดินไทยที่บรรพบุรุษได้รักษามา เพื่อลูกหลานคนไทยครับ”

ว่ากันว่า หลังโพสต์นี้ออกไปทำให้กลุ่มชาวเน็ตที่ติดตาม บิณฑ์ และทราบข่าวได้พากันเข้ามาแสดงพลังกดไลก์เพลงนี้ ทำให้ยอด Like กระเตื้องขึ้นมา แต่ บิณฑ์ ก็แลกกับ “ทัวร์ลง” จากชาวเน็ตผู้สนับสนุนม็อบ 3 นิ้วอย่างหนักเช่นกัน

ล่าสุด เมื่อเข้าไปดูในช่องยูทูบ ที่ลงเพลง “ดุจดั่งสายฟ้า” พบว่า ดุจดั่งสายฟ้า บทเพลงจากหัวใจ “ตูน บอดี้สแลม” ขับร้อง มีการดู 2.1 ล้านครั้ง ยอดถูกใจ 2.4 แสน และไม่ถูกใจ 2 แสน

เรียกว่ายอด Like กลับมาแซง Dislike ไปเรียบร้อย พร้อมๆ กับพบว่า มีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจ “ตูน บอดี้สแลม” ด้วยว่า ขอบคุณที่ทำเพื่อ 3 สถาบันหลักของชาติ หลังจากนี้ “สามกีบ” คงปั่นกันไม่หยุด เจอแบบนี้เข้าไปคงเสียใจ รัก และชื่นชมตูนมากๆ ขอบคุณพี่ตูนด้วย พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #ทรงพระเจริญ ด้วย



** ดรามาเดือด “ผู้การชาติ” ทิ้ง พปชร. ซบ “ปลัดฉิ่ง” ซัดกลับ ส.ส.ใต้ “วัวลืมตีน” แต่สุดท้ายส่อพลิก พรรคใหม่ยังหาหัวจ่ายไม่เจอ ไม่มีใครย้ายตาม

เป็นประเด็นดรามาต่อเนื่องกันมาหลายวัน กรณี “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ และเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ตัวเองเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง นัยว่า เป็นเพราะความผิดหวังที่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าจะมี่การปรับครม.ในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” มาแล้วหลายครั้ง ทั้งที่ตนเองเป็นหัวเรี่ยวแรงในการพาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในภาคใต้ เข้าสภามาได้ถึง 13 คน ในการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อเดือน มี.ค. 62

ส่วนพรรคใหม่ที่ “ผู้การชาติ” จะเข้าไปสังกัด หลายฝ่ายก็เก็งไปที่พรรคการเมืองใหม่เอี่ยม ที่ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย หมาดๆ จะตั้งขึ้นหลังเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.โดยพรรคการเมืองพรรคนี้จะยังคงชู “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อคานกับพรรคพลังประชารัฐ และมีรายงานว่า อาจมีส.ส.พลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคใต้หลายคนจะย้ายตามมาสังกัดพรรคใหม่ด้วย

กระแสข่าว “ผู้การชาติ” ลาออกจากพรรค พปชร. เพื่อไปอยู่กับพรรค “ปลัดฉิ่ง” และยังชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แข่งกับพรรคเดิมของตัวเองนั้น สร้างความขุ่นเคืองใจให้ “ลุงป้อม” อยู่ไม่น้อย เพราะนี่คือการเสี้ยมให้เกิดความแตกแยก ระหว่าง “2 ลุง” ให้หนักขึ้นไปอีก และก็เป็นหน้าที่ของ “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พปชร.องครักษ์พิทักษ์ลุง ที่ออกมาตีแสกหน้า “ผู้การชาติ” โดยยืนยันว่า ได้คุยกับ ส.ส.ใต้ทั้ง 13 คนแล้ว ไม่มีใครคิดจะลาออกจากพรรคแม้แต่คนเดียว การปล่อยข่าวว่ามี ส.ส.ในมือ 13 คน เป็นการสร้างราคาให้ตัวเอง และท้ายที่สุดจะหวังตำแหน่งอะไร หรือไม่ พร้อมเร่งให้ “พ.อ.สุชาติ” ลาออกจากพรรคโดยไว ถ้าสัปดาห์หน้ายังไม่ยื่นลาออก จะเอาใบลาออกไปให้เซ็นเอง ตอนที่ไปตรวจสอบกรณี “แชร์บ้านซ้อปลา” ที่ จ.สงขลา วันที่ 4 ต.ค. นี้

ขณะที่ “รงค์ บุญสวยขวัญ” ส.ส.นครศรีธรรมราช 1 ใน 13 ส.ส.พลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคใต้ ก็เคยให้สัมภาษณ์สอดคล้องกันว่า การที่ “พ.อ.สุชาติ” จะไปอยู่กับพรรคของ “ปลัดฉิ่ง” ก็ถือว่าเป็นสิทธิ แต่ ส.ส.ใต้ทั้งหมดนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “พ.อ.สุชาติ” มานานแล้ว เราต่างให้เกียรติกัน วันนี้ตนมาเป็น ส.ส.ก็อิสระ ที่ไม่ได้มีใครมาครอบงำ สำหรับข่าวเรื่อง พ.อ.สุชาติไปอยู่พรรคใหม่ที่เกิดขึ้น ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องเลย ไม่เคยมีการมาหารือ ไม่ได้รับการติดต่อ ที่สำคัญที่สุดคือ เราอยู่พรรค พปชร. ยังมีความสุขดี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคเองก็สนับสนุน เอื้ออำนวยในการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. อย่างดี
“ส.ส.รงค์” กล่าวอีกว่า พรรคที่จะเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวก็ยังไม่รู้เลยว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค วัฒนธรรมของพรรคเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะทิ้งพรรค พปชร.และหาก พ.อ.สุชาติจะชวนใครไปก็เป็นเรื่องในอนาคต ถือเป็นสิทธิของ ส.ส.แต่ละคน วันนี้เรายังมีความสุขดีกับการอยู่พรรค พปชร.อยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมีปัญหาติดขัดหรือบางอย่างไม่ลงตัว 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ยังทำงานกับท่านและคงไม่ต้องเรียนเรื่องนี้กับ พล.อ.ประวิตร เพราะท่านเชื่อมั่นเราอยู่แล้ว แบบตรงๆ ว่าเช็คข้อมูลแล้วไม่มี ส.ส.คนใดรู้เรื่องเลยหรือจะตามไปอยู่เลย

ดรามายังเกิดตามมาต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวาน (3 ต.ค.) “ผู้การชาติ” ออกมาตอบโต้ว่า ที่จริงแล้ว ตนไม่เคยชวน ส.ส.พปชร.ไปอยู่พรรคใหม่ด้วยกันแม้แต่คนเดียว เพราะการตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ส่วนที่จะย้ายไป คือผู้ที่ทำงานในการอำนวยการเลือกตั้งของภาคใต้ร่วมกันมา และยังไม่ได้เจาะจงว่าจะไปอยู่กับพรรคไหน

“คำว่าพรรคใหม่ อาจเป็นพรรคตั้งใหม่ หรือพรรคที่มีอยู่เดิมก็ได้ เวลานี้ยังเป็นเจ้าไม่มีศาล เพราะต้องขอรอดูความชัดเจนในขั้นตอนธุรการของพรรคนั้นๆ ก่อนที่จะไปร่วมงาน แต่ที่พูดชัดคือ พรรคที่จะไปต้องสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ดังนั้น ที่ ส.ส.ใต้แต่ละคนออกมาวิจารณ์ว่าตนไปชวนนั้นเพี้ยน

“ที่ออกมาพูดถึงผม ผมก็สร้างทำทางมาให้ทั้งนั้น มาจากพวกอำนวยการเลือกตั้งทำทางไว้ให้ อย่ามาปฏิเสธ ขอท้าทั้ง 13 คน ให้มาพูดตัวต่อตัว ว่าผมเคยไปชวนหรือไม่ โดยเฉพาะ นายรงค์ บุญสวยขวัญ ถ้าไม่มีผม ไม่ได้เป็น ส.ส. ให้ย้อนไปถึงตอนที่ต้องไปลาออกจากมหาวิทยาลัย ใช้เงิน 7 ล้านบาท เพื่อจะมาลง ส.ส. ไม่ใช่เงินที่มาจากพรรค แต่มาจากเบี้ยที่ พ.อ.สุชาติ และทีมงานช่วยกันหามา ขอให้เข้าใจใหม่ อย่าอวดตัว อวดเก่ง อย่าเป็นวัวลืมตีน” พ.อ.สุชาติ กล่าวอย่างอารมณ์ เดือด

ส่วนที่ “สิระ” จะนำใบลาออกจากพรรค พปชร. มาให้เซ็นนั้น พ.อ.สุชาติ บอกว่า คอยอยู่ให้มาเจอ จะบอกว่า ใบเดียวน้อยเกินไป ไม่พอ ให้กลับไปเตรียมมาใหม่เป็นพันใบ เพราะสมาชิกในภาคใต้ที่ช่วยกันหามา ก็พร้อมที่จะออกด้วย

ขณะที่ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะคนใกล้ชิด “ลุงป้อม” อีกคนหนึ่ง ก็ดูเหมือนจะไปม่ให้ค่ากับการย้ายพรรคของ “ผู้การชาติ” เท่าใดนัก โดยบอกว่า พ.อ.สุชาติ ไม่ได้เป็นส.ส.หรือกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น อย่าเอาคนนอก หรือคนไม่เกี่ยวข้องมาเป็นประเด็น เนื่องจากบางคนอาจจะเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องบางสิ่งบางอย่างอาจไม่สมหวังก็มีการสร้างข่าว สร้างกระแสขึ้นมา แต่คนส่วนใหญ่ในพรรคยังรักและสามัคคีร่วมใจกันทำงานกันด้วยดีไม่มีปัญหาใดๆ เมื่อเปิดสมัยประชุมสภามาก็เร่งผักดันกฎหมายซึ่งเรื่องนี้ได้พูดคุยกันหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเด็ด กรณี “ผู้การชาติ” ย้ายพรรค น่าจะอยู่ที่การโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ของ “ไพศาล พืชมงคล” อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในทำนองว่า กระแสข่าวส.ส.ภาคใต้ พปชร. จะย้ายตาม “พ.อ.สุชาติ” ไปอยู่พรรคใหม่นั้น “พลิกล็อก”

“ไพศาล พืชมงคล” อ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า เมื่อทำการ checklist ในพรรคพลังประชารัฐ อย่างละเอียด ผลปรากฏว่า พลิกล็อก คือนอกจาก ส.ส.ภาคใต้ 13 คนไม่ตามไปด้วยแล้ว ส.ส.กลุ่มอื่น กำลังพลิกตัว กลับมาผนึกเหนียวแน่นกับ พปชร. เหตุผลสำคัญคือ พรรคใหม่นั้นยังหา “หัวจ่าย” ไม่เจอ

และไม่มีใครต้องการเป็นฝ่ายค้าน !!!

ละหน้าไพ่เริ่มชัดว่า พปชร. จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า

สภาพพพการเมืองไทย ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง !!




กำลังโหลดความคิดเห็น