xs
xsm
sm
md
lg

จาก “ราษฎร 3 นิ้ว” ถึง “ทะลุแก๊ส” ชะตาเศร้า !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา



ช่วงนี้ต้องบอกว่ากำลังเป็นช่วงของการ “ทดสอบจิตใจ” ของบรรดา “ม็อบสามนิ้ว” สารพัดชื่อว่าจะมีความเข้มแข็งและยืนระยะได้นานแค่ไหน หลังจากได้เห็น “สภาพ” ที่กำลังอยู่ในภาวะ “เสียทรง” ไปเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุหลักก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเพราะประเด็นการเคลื่อนไหวไม่ได้รับการสนับสนุนจากสังคมส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน บรรดาคนที่ “ชักใย” กลับไม่สั่งให้เลิก แต่กลับดันทุรังชุมนุมรายวัน ยิ่งนานก็ยิ่งสร้างความรำคาญ กลายเป็นพวก “ป่วนเมือง” แค่หยิบมืออย่างที่เห็น

อีกทั้ง “เป้าหมาย” ของม็อบก็เป็นเพียงแค่ “สนองตัณหา” ทางความคิดทางความเชื่อของบางคนที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย มีการปลูกฝังความคิด ความเชื่อในแบบของตนผ่านพวกนักศึกษา เยาวชน ให้มีอคติทางลบต่อ “พระมหากษัตริย์” และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ตัวเองฝังใจเจ็บแค้นผ่านมุมมองของตัวเอง แล้วถ่ายทอดชุดความคิดพวกนี้ออกไปซ้ำๆ ซึ่งแน่นอนว่า บรรดาเด็กเยาวชนนักศึกษาบางกลุ่มที่มีความ “ร้อนแรง” จากตำราที่เหมือนกันทุกสมัย จากเดิมในอดีตเป็นเรื่อง “สังคมอุดมคติ” แบบสังคมนิยมฝ่ายซ้าย ต่อต้านทุนนิยม และจักรวรรดินิยมอเมริกา แต่มาวันนี้กลับหลังหัน กลับไปชื่นชมตะวันตก หรือบางคนได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายอเมริกา ก็มี แต่เป้าหมายร่วมกันคือเจตนา “โค่นสถาบันฯ” นั่นแหละ

อย่างไรก็ดี ในตอนแรกเป้าหมายดังกล่าวถูก “อำพราง” ซ่อนเร้น เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาล ของ “กลุ่มอำนาจใหม่” ใน “กลุ่มสาม ป.” เป็นเป้าหมายร่วมที่ทำให้ในช่วงเริ่มแรกมีมวลชนทั่วไปเข้าร่วมจำนวนไม่น้อย

เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งก็ปรากฏชื่อ “กลุ่มราษฎร” กลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ” กลุ่มแยกย่อยออกมาสารพัดชื่อจนจำไม่หวาดไม่ไหว ขณะที่แกนนำหลักในช่วงเริ่มแรก ก็มีชื่อของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นายอานนท์ นำภา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” เป็นต้น

แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีความพยายามออกแบบให้มีการจัดม็อบแบบ “ไม่มีแกนนำ” แต่ในที่สุดมันก็ไร้ทิศทาง เพราะขาดการควบคุมในหน้างาน อีกทั้งลักษณะของม็อบแบบนี้สามารถจัดม็อบได้หาก “มีจุดร่วมเดียวกัน” ที่หนักแน่นพอ

แต่เมื่อได้เห็นเป้าหมายที่มุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และการชุมนุมที่ออกมาในแนว “หยาบคาย” ก้าวร้าวในแบบเด็กรุ่นใหม่ “หน้าจอคอมพ์” มวลชนก็ยิ่งถอยห่าง จนทำให้บทบาทหลักมาตกอยู่ที่พวกแกนนำมีชื่อดังกล่าวอย่างชัดเจนหลังจากนั้น แต่ก็อย่างว่าเมื่อมีเป้าหมายอยู่ที่การ “โค่นล้มสถาบันฯ” ที่คนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

และก็เป็นไปแบบเดิมก็คือ คนพวกนี้ต้องถูกดำเนินคดี โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับ มาตรา 112 ซึ่งถือว่ามีอัตราโทษสูง ที่ผ่านมาคนพวกนี้อาจมั่นใจว่า “มีแบ็กดี” หรือเปล่า ทำให้เหิมเกริมแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีซ้ำๆ ต่อเนื่อง แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีเงื่อนไขก่อนได้รับการประกันตัวออกมา แต่ก็ยังเคลื่อนไหวบางครั้งหนักกว่าเดิม

จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาถูกถอนประกันตัวเกือบทั้งหมด ยังเหลือเพียงแค่ น.ส.ปนัสยา ที่ยังรอการพิจารณาไต่สวนการเพิกถอนประกันหรือไม่ ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยพวกที่เหลือถูกนำไปคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งด้วยคดีที่สะสมเป็นหางว่าว และหนักหน่วงทั้งสิ้น มันก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับโอกาสจากศาลแบบเดิมอีก


เมื่อ “สภาพ” อย่างที่เห็นการชุมนุมบรรยากาศเริ่มกร่อย แกนนำถูกนำเข้าคุกยาวแบบนี้ มันก็เริ่มเห็นอาการโวยวาย ด่าทอ “แฉโพย” กันเอง ในลักษณะนักเคลื่อนไหวที่กำลังอยู่ในภาวะกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่า “ตัวเองถูกหลอก” ให้เข้าคุกฝ่ายเดียว ขณะที่คนยุยงอยู่เบื้องหลังเอาตัวรอด ในที่นี้รวมไปถึงกลุ่มการเมือง อาจารย์บางคน และพรรคการเมืองบางพรรค และกำลังถูกแฉในเรื่อง “ท่อน้ำเลี้ยง” ทำให้ส่อบานปลายนำไปสู่การร้องเรียนให้ยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล อยู่ในเวลานี้

อย่างไรก็ดี เมื่อกลุ่มสามนิ้วชุดแรกเริ่มทยอยเข้าคุก ก็ยังมีการเชิดกลุ่มใหม่ออกมาอีก แต่คราวนี้มาในแบบความรุนแรง จากลักษณะทางอารมณ์ของกลุ่มในชื่อเรียก “ทะลุฟ้า” และมาถึง “ทะลุแก๊ส” สารพัดแล้วแต่จะสรรหาชื่อมาได้ แต่กลุ่มหลังนี้จะมาในแบบ “นักเรียนอาชีวะ” หรืออาจจะเรียกว่าผสมปนเปไปกับกลุ่ม “เด็กแว้น” ที่มีการเคลื่อนไหวในแบบที่ไม่มีแก่นสาร ไม่มีเป้าหมายใดๆ เพียงแค่ก่อความวุ่นวาย สร้างความปั่นป่วนรายวัน และก็อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังถูกตำรวจไล่จับกุมเข้าคุกถูกตั้งข้อหาฉกรรจ์จนเสียอนาคตทั้งสิ้น โดยพวกหลังนี้เข้าข่าย “กุ๊ย” หรืออันธพาล จะต่างกับกลุ่มแกนนำสามนิ้วมีชื่อก่อนหน้าที่ยังเป็นลักษณะคดีทางการเมืองอยู่บ้าง

แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสามนิ้วราษฎร มาจนถึง “ทะลุแก๊ส” ทะลุโลก ออกนอกจักรวาลอันไกลโพ้นในเวลานี้ทุกกลุ่มกำลังตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้า เพราะกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสนองตัณหาทางความเชื่อของ “บางคน” บางพรรคการเมือง ที่หวังเพียงแค่เจตนาดิตเครดิตรัฐบาล “สาม ป.” แต่เมื่อเป้าหมายผิดเพี้ยน ไม่รู้จักหยุดรอจังหวะบ้าง มันก็จะเป็นอย่างที่เห็น !!



กำลังโหลดความคิดเห็น