เละ! วงใน แฉ แอดมิน “ปลดแอก” ที่แท้แก๊งต้มตุ๋น อ้างมั่ว? สนิท พรรค พท. และ คุณหญิง พรรค ทสท.พฤติกรรมสุดแสบ “กองทุนสามนิ้ว” โชว์บิล ขอบริจาคเติมในวันเดียว เหลือ 2 ล้าน ประคองป่วนไว้ บอกอะไร ใคร?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (24 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น วงในสามนิ้ว แฉ แอดมิน “เยาวชนปลดแอก” ที่แท้เป็นแก๊งต้มตุ๋น อ้างสนิท พรรค พท. และ คุณหญิง พรรค ทสท.
โดยอ้างถึง ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก “เฮียเหลียง อรุณวิชญ์” ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มการ์ดอาชีวะ ที่เคยร่วมเป็นการ์ดให้กับการชุมนุม ของกลุ่มคณะราษฎร และ กลุ่มปลดแอก มาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่ม็อบเริ่มมีการก่อตั้งกลุ่มการ์ด เพื่อดูแลความเรียบร้อย
ซึ่งได้ออกมาเปิดเผย โดยอ้างว่า มีคนที่ชื่อว่า นายชัชวาล โง้วกิมเซ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแอดมินเพจเยาวชนปลดแอก ที่เพิ่งถูกจับตัวนั้น มีประวัติโชกโชน มีความผิดในคดีต้มตุ๋นยาวเหยียด และยังมีความสนิทสนม กับ นักการเมืองหลายพรรค
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก “เฮียเหลียง อรุณวิชญ์” ระบุว่า “อ่ะมาพร้อมแล้วที่จะเปิดเผยข้อมูลไอ้โจรชั่ว นักต้มตุ๋น
มันชื่อ ชัชวาล โง้วกิมเซ้ง เกิดวันที่ 10 ก.ค. รู้จักกันในนาม เต็ง นายเต็ง ชื่อในวงการต้มตุ๋นมัน คือ เอก หมูบิน พฤติการณ์ชั่วของมันคือการต้มตุ๋น หลอกลวง ฉ้อโกงเงิน หลอกใช้คน มันมีหมายติดตัวหลายหมาย หนีหมายจับจนบางหมายหมดอายุความไปแล้ว ปัจจุบันมันเหลือ 2 หมายจับ ที่ สน.บางนา และ บางซื่อ มันเป็นคนที่ระแวดระวังตัวเองมาก มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เปลี่ยนที่อยู่ทุก 2-3 วัน จะพักอยู่โรงแรมย่านราชดำริ
อดีตเคยมีคดีลักทรัพย์ ทำทีเป็นเศรษฐีจองรถหรูหลายคัน ให้เซลล์รถไปเลี้ยงข้าว แล้วชิ่งขโมยโทรศัพท์เซลล์ไปด้วย มีการชิงตัวนักโทษหน้าศาลแขวงตลิ่งชัน โดยการโยนระเบิดปลอม ไปนอนโรงพยาบาลหรูสั่งของกินแล้วชิ่งหลักแสน มันมักจะใส่เสื้อซ้ำกันตัวละ 2-3 วัน เพื่อจะให้จำได้ว่า เสื้อตัวนี้ใส่ไปหาใครมาบ้าง เพื่อกันภาพหลุด ใช้เวลาวางแผนกันร่วมเดือน 40-50 หัว ในการวางแผนจับมันคนเดียว มันละเอียด และ รอบคอบมาก ไม่ทำธุรกรรมใดๆ ไม่พกบัตร ATM หรือ บัตรเครดิต
เมื่อจะใช้เงินก็จะให้ น.ส.เขริกา ซึ่งมันอ้างว่า เป็นเลขาส่วนตัวโอนเงินมาให้คนที่อยู่กับมันตอนนั้นๆ กดเงินสดมาให้มัน กินข้าวจะราคาแพงแค่ไหนก็จ่ายเงินสด และสามารถอนุมานได้ว่า เขริกา คือ ภรรยาที่มีลูกติดกับมัน และสามารถสันนิษฐานได้ว่า ร่วมมือกันฉ้อโกง
พอมีภาพมันหลุดก็เริ่มปฏิบัติการค้นหาว่า มันคือใครก็ไปเจอจริงๆ ว่า มันคือโจรคนนึง มีหมายติดตัวมากมาย แล้วอีพวกข้างไข่ ที่เทิดทูนว่ามันเป็นผู้มีพระคุณงั้นงี้ก็ไม่ลืมหูลืมตา เลียไข่มันจนวินาทีสุดท้ายที่เห็นมันใส่กุญแจมือ ถวายหัวขั้นขายเพื่อนขายพี่ขายน้องกันเลยทีเดียว และปั่นให้หัวหน้าแต่ละกลุ่มการ์ดผิดใจกันมาเยอะ ปั่นคนนั้นที ปั่นคนนี้ที A B C พูดกันคนละเรื่องเลย
“เต็งกับม็อบ”
มันหนีหมายจับมานานพอสมควร จนกระทั่งมีม็อบ มันเข้าไปเป็นแอดมินกลุ่ม freeyouth ซึ่งอาจจะใช้ความไว้ใจหลายๆ อย่าง เพราะมันพลิ้วเวลาพูด เก่งพูด มันสร้างไลน์กลุ่มม็อบเพื่อประชาชน เปิดรับบริจาคก็หลายต่อหลายครั้ง และเปิดรับบริจาค ก็จะใช้ชื่อบัญชี น.ส.เขริกา เสมอ มันเข้ามาแรกๆ โดยการชอบโพสต์ถึงกลุ่มการ์ด (พรข) และหัวหน้ากลุ่มเป็นประจำ โดยใช้เครดิตชื่อกลุ่มว่าคุยแล้ว ปรึกษากันแล้วนู่นนี่นั่นในการไปคุยสานต่อคอนเนกชันกับกลุ่มอื่นๆ เสมอ
มันอ้างว่า สนิทสนมกับ เฮีย (บ) ช่วยเรื่องนู้น เรื่องนี้ สนับสนุนในม็อบได้ ซึ่งทนไม่ไหวก็ได้สอบถามไปทางเฮีย (บ) จริงๆ ไม่ได้รู้จักกับมันเลยเหมือน มันแค่ติดตามและทักไปให้กำลังใจ เสร็จแล้วก็ชวนคุยนิดหน่อยแล้วก็แคปมาโชว์ในกลุ่มม็อบ ให้คนในม็อบดูว่ามันมีบารมีนะ มันจะได้สร้างฐานอำนาจในหลายๆ ด้าน มันไม่ได้มาแล้วเรียกร้องเงินทองก่อน แต่มันเข้ามาสร้างความเชื่อใจก่อน หลังจากนั้น ก็เข้าเกมมัน เวลาใครมีปัญหามันจะทำทีช่วยเหลือแต่จริงๆ ไม่เลย ไม่ได้ช่วยอะไร เอาเงินไปอย่างเดียว
เช่น น้องคนนึงโดนจับที่ราบ 1 มันติดต่อมาส่วนตัวให้น้องโอนให้ 1,600 เพื่อซื้อกระเช้าให้อัยการ เพราะมันอ้างว่ารู้จักอัยการ , น้องคนนึง มีปัญหาเรื่องทหาร มันก็บอกว่ามันรู้จักสัสดีเขต มันเรียกเงิน 40,000 แล้วมันก็ไปหลอกลวงให้น้องอีกคนทำระยำโดยการทำเอกสารราชการปลอม โดยบอกน้องว่าให้น้องฝึกทำเอกสารราชการ เด็กมันไม่รู้มันก็ทำ พอทำแล้วมันก็ส่งให้อีน้องที่มีปัญหาเรื่องทหารว่าเป็นใบนำปลด สุดท้ายเช็กไปเช็กมา น้องหนีทหารเฉยเลย กลุ่มที่มีน้องเคยโดนจับกุมมันก็ให้เรี่ยไรเงินให้มันเพื่อเปลี่ยนสำนวนร้อยเวร มันจะทำเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านการเมือง ด้านกฎหมาย สร้างบารมีในม็อบมาเรื่อยๆ
“เต็งกับพรรคการเมือง”
ครั้งแรกที่มันก้าวเข้าไปหลอกคนในม็อบ คือ เวลาเดียวกันกับที่มันประกาศตัวว่า มันเป็น ส.ส.พรรค (พท) สนิทสนมเป็นอย่างดีกับท่าน (ป) เลขาธิการพรรค จะอะไรก็แล้วแต่มันจะอ้างชื่อ ท่าน (ป) เสมอ ว่า พรรคการเมืองเค้าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ พี่ผลักดันเอ็งไปถึง ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ มันอยากขึ้นไปจุดที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี และเกษียณด้วยเรือยอชต์ 1 ลำ นั่นคือความฝันมัน มันอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาคุณหญิง (พ) และไปหลอกลวงท่าน ดร. (ป) ที่กำลังจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่ามันเป็นแอดมินกลุ่ม freeyouth
โดยการที่มันจ้างคนมาแฮกเพจนั่นแหละ ไล่แอดมินออกหมดแล้วฮุบเพจไว้ แล้วเปิดบริจาค เสร็จแล้วท่าน ดร. (ป) ก็เสียเงินรวมให้มันประมาณ 400,000+ คือ มันอ้างว่าเอาไปตั้งพรรคการเมือง ทำเสื้อแจ๊กเก็ตให้ทีมงาน เอาเงินไปจองสถานที่ประชุมพรรค ทั้งที่จริงๆ แล้วยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นดังมันกล่าวอ้างสักอย่าง
มันเบิกเงินถี่บ่อยมาก พอมันไม่ทำไม่อะไรให้ มันก็จะอ้างป่วย ลงภาพโรงพยาบาลว่ามันแอดมิต หรือเข้าไอซียูอย่างจอมปลอมเสมอ มันไปขอรับบริจาค รับของสนับสนุนหลายอย่างจากผู้ช่วย ส.ส.ท่าน (จ) พรรค (พท) แล้วก็เคลมทุกอย่างว่า เป็นของตัวเองหมด ก็ยิ่งทำให้มันมีบารมีกว้างขวางไปอีก ทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเองเลย
ล่าสุดก็ไปตีสนิทกับคุณหญิง(ส) พรรค(ทสท) พยายามเอาตัวเข้าไปแทรกซึมทำทีว่า ตัวเองมีทีมงาน มีลูกน้องในมือ ความจริงคือมึงหลอกการ์ดในม็อบนี่แหละไปทำงานฟรี แล้วมึงเอาหน้า ทั้งที่มึงไม่ได้มีอำนาจราชศักดิ์ใดๆเลย หรืออย่างตอนที่ทีมการ์ด (พรข) ไปช่วยงานที่ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว มันก็อ้างว่า เป็นทีมงานมัน ทั้งๆที่เค้าไปในนามความเป็นมนุษย์ที่ไปช่วยเพื่อนมนุษย์มึงก็มาอ้างมั่วซั่วไปหมด จนกระทั่งทนไม่ไหวในสิ่งที่มันกล่าวอ้างบ่อยๆ ก็ได้คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองพรรค สรุปไอ้เต็ง ไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเขาเลย แม้แต่ความสนิทก็ไม่มี แต่ทำทีว่าตีสนิท
“เต็งกับองค์กรตำรวจ”
ตรงนี้สำคัญมาก มันอ้างเป็นประจำว่า มันรู้จักองค์กรตำรวจเป็นอย่างดี มันรู้จัก ผกก.เกือบทุก สน. รู้จักผู้การนครบาล พูดคนไหน ก็รู้จัก มันบอกว่ามันสนิทกับผู้การ อย่างเช่น พล.ต.ต.(อ), พล.ต.ต.(ป) ผู้กำกับ สน.ไหนก็ได้แม่งประสานได้หมด แม่งอ้างซ้ายมาขวา อ้างขวามาซ้าย อ้างไปอ้างมา จนแม่งมีคอนแทกต์จริงๆ แม้แต่ พล.ต.ต.(อ) มันพูดประจำว่าสนิทกัน ถ้าไปม็อบถูกจับ อ้างว่าน้องพี่เต็งตำรวจต้องปล่อย ซึ่งข้อนี้พิสูจน์มาแล้วว่าหลอกลวงมาก
ผบ.เหตุการณ์ม็อบคนใหม่ พ.ต.อ.(พ) มันก็บอกมันเป็นรุ่นพี่ พูดว่าน้องพี่เต็งต้องปล่อยทันที อยากจะด่าแรงๆ ว่ามึงไปอ้างมั่ว จนถึงตรงนี้ ขอบอกนายตำรวจทุกคนเถอะว่าอย่าให้คนแบบนี้มาทำให้องค์กรตำรวจไทยต้องมัวหมองไปมากกว่านี้เลย เพราะมันอ้างยันท่าน ผบ.ตร. มันกล้าจะพูดว่า มันสั่งย้ายได้ สั่งตำรวจค้นบ้านใครก็ได้ ยัดหมายใครก็ได้ มันกล้าพูดว่าจะสั่งอุ้ม สั่งฆ่า ยิงให้พิการ มันพูดหมด มีคลิปเสียงอยู่ มันบอกว่ามันสนิทท่าน ผบ.ตร. สามารถคุยได้ ขอร้องในสิ่งที่มันต้องการได้
คนแบบนี้องค์กรตำรวจไม่ควรปล่อยผ่าน แล้วโจรมีหมายจับอยู่แค่ปลายจมูกท่าน แต่ท่านปล่อยให้เด็กๆ ทำกันเองทั้งนั้น แล้วมันก็ขายข่าวม็อบให้ตำรวจ ขายข่าวตำรวจให้ม็อบ มันได้ประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย
การกระทำผิดกฎหมายของนายเต็ง
- หลอกลวงเงินเด็กไปซื้อกระเช้า 1600
- หลอกลวงเด็กว่าสามารถฝากงานเป็นผู้ติดตามผู้ใหญ่ได้ เอาเงินไป 7,000 บอกจะตัดสูท ตัดร้องเท้า สุดท้ายได้ของ shoppee หมดเลย
- หลอกเด็กว่ารู้จักสัสดี เคลียร์ทหารได้ เอาไป 40,000
- หลอกเด็กให้ทำเอกสารราชการปลอม
- หลอกลวง ดร.(ป) จะทำพรรคการเมือง จะวางนโยบาย จ้างทีมงาน หลอกเงินไป 400,000+
- แอบอ้างตำรวจนายใหญ่ๆ
- แอบอ้างพรรคการเมือง
- แอบอ้างตระกูลผู้มีอิทธิพล
- ข่มขู่ คุกคาม จะอุ้มฆ่า จะกระทืบ จะยิง
และอีกมากมายหลายอย่างที่เรายังไม่รู้อีกมาก
อย่าให้คนแบบนี้มีที่ยืนในสังคม นี่คือ ภัยสังคมที่เราต้องตระหนักว่าคนแบบนี้จะเป็นภัยต่อสังคม ต่อญาติพี่น้องเราเป็นอย่างแน่นอน ปัจจุบันมันถูกจับกุมอยู่ สน.บางนา หากผู้เสียหายคนใดจำหน้า จำชื่อได้ รีบเอาข้อมูลไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับมันต่อ อย่าให้คนเลวต้องลอยนวล
นี่ยังไม่ได้พูดถึง เขริกา อีกคนนะ ที่เป็นบัญชีผ่านให้มันตลอด ทั้งสมรู้ร่วมคิด เปิดบัญชีแทน ก็เข้าข้อกฎหมายอาญาทั้งนั้น หากนักข่าวช่องใดต้องการข่าวต้องการข้อมูลเรายินดีที่จะให้ข้อมูล แชร์กันไปเตือนภัยสังคมเรา เพื่อสังคมที่น่าอยู่”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น กองทุนสามนิ้ว เครียดเงินเหลือ 2 ล้าน แต่กังวล “ไมค์-ผตห.” ไม่ยอมประกันตัวให้ได้ใช้เงิน?!
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีเมื่อวาน (23 ก.ย. 64) ทางเพจ กองทุนราษฎรประสงค์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เงินประกันตัวในบัญชีดังกล่าวได้ลดฮวบลงไป เนื่องจากมีการใช้เงินไปกว่า 404,954.07 บาท ภายใน 1 วัน พร้อมกับขอรับบริจาคจากมวลชนให้กลับมามีเงินมากพอสำหรับการประคองสถานการณ์จ่ายหลักแสนรายวันดังที่เป็นอยู่ อย่างน้อยก็ให้เพียงพอในระยะ 10 วัน
ล่าสุด วันนี้ ทางเพจ กองทุนราษฎรประสงค์ ได้โพสต์ข้อความต่ออีกว่า ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ กองทุนฯได้แจ้งความกังวลเรื่องเงินประกันสำหรับคดีต่างๆ ที่มีคิวรอประกัน และการประคองสถานการณ์ในระยะ 10 วัน เมื่อเงินสำรองของกองทุนฯลดลงไปเหลือต่ำกว่าสองล้านบาทนั้น
ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ทุกท่านได้พยายามช่วยกันเติมเข้ามาอีกถึง 324,783.45 บาท ภายในหนึ่งวัน ทำให้เพียงพอที่จะดันยอดเงินสำรองในบัญชีกลับขึ้นมาที่ยอดเกินสองล้านบาทได้อีกครั้ง ทั้งที่มีการจ่ายออกไปอีกถึง 167,000 บาท เมื่อวานนี้
เงินจำนวน 2,194,291.81 ที่มีอยู่นี้ น่าจะเพียงพอสำหรับประคองสถานการณ์ประกันตัวรายวันในระยะนี้ไปได้อีกพอสมควร และในอีกราวสิบวันข้างหน้า กองทุนฯมีกำหนดจะได้รับเงินประกันบางคดีคืนจากบางศาล ซึ่งน่าจะทำให้ยอดเงินสำรองของกองทุนกลับขึ้นไปอยู่ในภาวะที่วางใจได้มากขึ้นอีกครั้ง กองทุนฯขอขอบคุณทุกท่านที่ได้พยายามช่วยกันแม้ในยามยากลำบากของปากท้องเช่นนี้
เราเห็นยอดเงินที่มาจากการเสียสละของทุกท่านไหลเข้ามาทั้งวันด้วยความซาบซึ้งใจ ขอให้ท่านสบายใจขึ้นได้ว่าเรายังไหว–ตราบเท่าที่ทุกท่านยังไหวกับเรา สิ่งที่จะทำให้เรากังวลใจยิ่งกว่า คือ เมื่อเงินไม่ได้ถูกใช้ออกไป เพราะมีการปฏิเสธสิทธิการประกันตัว ดังเช่นที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้กับ ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ขณะที่วันนี้แม่ของเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ จะยื่นประกันอีกครั้งที่ศาลอาญารัชดาฯ เราหวังว่า จะได้เบิกเงินของทุกท่านไปเป็นหลักประกันอิสรภาพแก่เขา
สำหรับผู้ถูกจับกุมที่ดินแดงเมื่อคืนนี้ เราได้รับการประสานงานจากทนายความแล้วว่า มี 9 คน ที่จะถูกนำตัวส่งศาลเยาวชนฯวันนี้ และประชาชนอีก 6 คน จะถูกนำตัวฝากขังที่ศาลในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทนายความจะได้ยื่นประกันด้วยเงินของพวกเราต่อไป
#กองทุนราษฎรประสงค์
โดยเมื่อวานนี้ กองทุนราษฎรประสงค์ ได้เบิกเงินจำนวนทั้งสิ้น 167,000 บาท เพื่อนำไปใช้วางประกันดังนี้
1. เบิกเงิน 150,000 บาท เพื่อประกันประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย 1 คน ซึ่งมาถูกแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ และถูกอัยการสั่งฟ้องในข้อหาตาม ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ จากการแชร์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก และถูกกล่าวหาว่าข้อความดังกล่าวนั้นเป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์รัชกาลที่ 1, ที่ 2, ที่ 5 และที่ 10 ศาลจังหวัดสมุทรปราการให้ประกันในวงเงิน 150,000 บาท
2. ประกันเยาวชน 2 คน ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดย 1 ใน 2 คน มี 2 คดี ประกันคดีละ 7,000 บาท และอีก 1 คนประกัน 3,000 บาท รวมเป็น 17,000 บาท
ส่วนอีก 3 คดี ที่เคยแจ้งทุกท่านไว้เมื่อวานนี้ ปรากฏว่า
1. คดีที่อัยการจังหวัดธัญบุรี นัดหมายสั่งฟ้อง รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เบนจา อะปัญ และ วรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ปรากฏว่า เมื่อทั้งสามคนไปถึงตามเวลานัดหมาย 10.30 น.แล้ว อัยการยังไม่มา ครั้นสอบถามไปแล้วอัยการแจ้งว่าขอเลื่อนเป็น 13.00 น. และเมื่อถึงเวลา 13.00 น. ก็ยังแจ้งเลื่อนอีกเป็น 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ศาลใกล้ปิดทำการ และอาจส่งผลให้ไม่สามารถทำเรื่องขอประกันตัวได้ทัน ทั้งสามและทนายความจึงได้เดินทางกลับ
โดยได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ธัญบุรี ว่า พวกตนได้มาตามนัดหมายแล้ว ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี แต่อัยการเองเป็นฝ่ายเลื่อนเวลานัดไปเรื่อยๆ จนกระทบต่อภารกิจการเรียนของผู้ต้องหาสองคนและอาจกระทบต่อการยื่นประกันตัว หากอัยการพร้อมนัดเมื่อใดค่อยนัดมาใหม่
2. คดีหมิ่นนายกฯ ของ สมบัติ ทองย้อย ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพียงให้ถ่ายรูปทำประวัติและไม่ต้องวางหลักประกัน
3. คดีคาร์ม็อบที่ศาลแขวงสระบุรี ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ไหม ธนพร วิจันทร์ และ มายด์ สราวลี โดยไม่ต้องวางหลักประกัน โดยให้เหตุผลว่า “พิเคราะห์แล้วกรณีน่าเชื่อว่า จำเลยทั้งสองจะไม่หลบหนี และจะไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไม่ก่อเหตุอันตรายประการอื่น และสาบานตนต่อหน้าศาลว่าจะมาตามนัดหรือหมายเรียก กำชับให้มาศาลตามกำหนดนัดอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้น จะถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี” นอกจากนี้ ยังมีการสั่งฟ้องคดีคาร์ม็อบอีก 2 กรณี 2 ศาล คือ ที่ศาลจังหวัดลพบุรี และศาลอาญามีนบุรี ซึ่งทั้งสองศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกันเช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ ยังได้มีคำสั่งฟ้องคดี ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ในความผิดตาม ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ และนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาในเวลาประมาณ 14.00 น. โดยทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี วางหลักประกันเป็นเงินสด 200,000 บาท จากกองทุนฯ แต่ศาลอาญารัชดาฯ โดย นายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ มีคำสั่งไม่อนุญาต ทำให้ไมค์ถูกส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นการถูกคุมขัง เนื่องจากถูกปฏิเสธสิทธิในการประกันตัวอีกครั้งหลังจากเพิ่งได้รับอิสรภาพจากเรือนจำอำเภอธัญบุรีเพียง 8 วัน
ภายหลังการเบิกจ่ายข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 2,194,291
แน่นอน, สิ่งที่เห็นได้ภายในม็อบจากการออกมาแฉของพวกเดียวกัน ก็คือ “ผลประโยชน์” รวมทั้งความแตกแยกอันเนื่องมาจากการหาผลประโยชน์จากม็อบ ที่มีใครบางคน บางกลุ่ม โยนเศษเงินเข้าไป โดยแทนคำว่า “ค่าจ้าง” ก็เปลี่ยนเป็น “เงินบริจาค” หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการอ้างบารมีในม็อบ ไปหากินกับนักการเมือง อ้างนักการเมือง กลับมาสร้างบารมีในม็อบ ซึ่งล้วนแต่มีผลประโยชน์ ส่วนจะเรียกว่า “ต้มตุ๋น” กันเอง ก็คงไม่ผิดเช่นกัน
ที่สำคัญ ไม่ว่าการออกมาแฉกันเอง จะมีความจริงหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่ที่ต้องยอมรับ ก็คือ การทำม็อบในแบบไม่มีแกนนำ และใช้กลุ่มการ์ด มีบทบาทสำคัญในการกุมทิศทางม็อบ โดยมีผู้ชักใยที่ไม่เปิดเผยตัวตน หรือ รับผิดชอบ อย่างพวก “อีแอบ” มีโอกาสสูงที่จะทำให้มีบางคนบางกลุ่ม หรือ แก๊ง เข้าไปฉกฉวยหาผลประโยชน์ อย่างที่มีการแฉกันออกมา เพราะคนในม็อบ หรือ กลุ่มการ์ดเอง ก็ไม่รู้ชัดว่า ใครอยู่เบื้องหลัง และถูกนำมาอ้างได้ง่าย
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ก็คือ เงินบริจาค ที่ยังคงเติมได้ไม่มีวันหมด ถือว่า เป็นเส้นเลือดใหญ่ของการป่วนเมือง ลอบเผาตามที่ต่างๆ อยู่ในเวลานี้ คำถามคือ ประชาชนคนไทย เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของม็อบ ที่สร้างความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างนั้นหรือ จึงช่วยบริจาคให้ไปบ่อนทำลายดังกล่าว เพราะเงินส่วนนี้ มีการกล่าวอ้างชัดเจนอยู่แล้วว่า เอาไปช่วยประกันตัวผู้ต้องหาที่ทำผิด
ในรายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ประกาศตัวชัดเจนว่า ต้องการหาเงินจากการประมูลภาพ เพื่อบริจาคให้ 4 กองทุน เพื่อช่วยเหลือม็อบนั้น ไม่น่าสงสัยแต่อย่างใด เพราะ นายธนาธร สนับสนุนม็อบปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว หรือว่า ยังมีอีกมากมายที่มีแนวคิดอย่าง นายธนาธร และเป็นคนที่ช่วยเติมเงิน ทุกครั้งที่ม็อบส่งสัญญาณขอรับบริจาคใช่หรือไม่ โดยเฉพาะนักการเมือง ที่มีการแฉออกมา?
เหนืออื่นใด สิ่งที่คนไทยเห็นอยู่เวลานี้ ก็มีแต่ “ม็อบป่วนเมือง” เผาทำลายทรัพย์สินของราชการ และมีคนให้เงินบริจาคสนับสนุน
เลิกพูดถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การชุมนุมประท้วงด้วยสันติวิธี การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และเคารพต่อกฎหมาบ้านเมือง จากต้องการเป็น “พระเอก” จะทำตัวเป็น “ผู้ร้าย” โดยไม่ทันข้ามปีเลยหรือ คิดดีหรือยัง!?